เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1668

……….

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลำแสงบนค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็กส่องสว่างขึ้น!

พลังของทั้งสองฝ่ายกำลังปะทะกันอย่างดุเดือด!

หลังจากนั้นไม่นาน แท่งน้ำแข็งเหล่านั้นก็ถูกลำแสงสีเงินกลืนกิน!

ตามมาด้วยเสียงแตกละเอียดดังขึ้นชัดเจน!

คาดไม่ถึงว่าแท่งน้ำแข็งเหล่านั้นจะถูกค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็กทำลายจนเป็นเสี่ยงๆ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว!

ร่างกายของชายสวมชุดดำโงนเงนจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้น

หลังจากการโจมตีในครั้งนี้ แสงสีเลือดที่กระจายทั่วท้องฟ้าก็แทบจะกระจายหายไปจนหมด

เหลือเพียงลำแสงสีเลือดที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าหนึ่งสายเท่านั้น และในตอนนี้มันกำลังสั่นคลอนเหมือนกับจะพังทลาย

ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็กยังคงขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ!

ในที่สุดขอบของค่ายกลก็ชนเข้ากับลำแสงนั้นอย่างแรง!

พลังที่แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายกำลังดูดกลืนกันและกันอย่างไร้เสียง มีเพียงพื้นที่รอบข้างที่พังทลายลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าสงครามในครั้งนี้ดุเดือดมากเพียงใด!

หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ กำลังเดินทางมุ่งไปด้านหน้า

บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าหนทางด้านหน้านั้นอันตรายมากเพียงใด บรรยากาศจึงตึงเครียดเป็นพิเศษ

ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสอูเผิงก็ชะงักฝีเท้า

“ช้าก่อน!”

คนที่ติดตามมาด้านหลังเห็นดังนั้น ก็หยุดฝีเท้าตามไปด้วย

ผู้อาวุโสไป๋ถงเห็นว่าสีหน้าของเขาผิดปกติไป ดังนั้นจึงมองตามสายตาของเขา

“มีอันใดเหรือ?”

เหมือนกับว่า…มีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง?

ผู้อาวุโสอูเผิงกล่าวขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“พวกเจ้าดูบนท้องฟ้านั่นสิ เมื่อครู่นี้ยังปกคลุมด้วยสีเลือดอยู่เลย แต่ในเวลานี้ก็กลับจางหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว”

มีเพียงชั้นเมฆดำที่ซ้อนทับกันอยู่เท่านั้น ซึ่งดำมืดจนน่ากลัว

หลังจากได้รับคำเตือนของเขา พวกเขาทั้งหลายก็เข้าใจได้ในทันที

“นี่…นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”

หนานอวี่สิงขมวดคิ้วขึ้น

ผู้อาวุโสอูเผิงชะงักไปเล็กน้อย ภายในน้ำเสียงมีความทุ้มต่ำและเย็นชาขึ้นหลายส่วน

“หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ นภาสีเลือดจะต้องเป็นฝีมือของชายสวมชุดสีดำผู้นั้นแน่นอน แต่คาดไม่ถึงว่าในตอนนี้มันจะจางหายไปแล้ว…น่าแปลกจริงๆ …”

“หมายความว่าการต่อสู้จบลงแล้วหรือ?”

หนานอวี่สิงถามกลับ

นี่มีอะไรให้น่ากังวลใจกัน?

ในเมื่อพวกเขาเดินทางมาทางนี้ หรือว่าตัดสินใจมาเผชิญหน้ากับอันตรายแล้วไม่ใช่หรือ?

แต่ในตอนนี้กลับรู้สึกลังเลขึ้นมา มันไม่สายเกินไปหน่อยหรือ?

ทันใดนั้นเหมือนผู้อาวุโสไป๋ถงนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง สีหน้าจึงแข็งค้างไป

“เจ้าหมายความว่า…พวกของหรงซิวสามารถโต้ตอบได้สำเร็จ จนทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้หรือ?”

ผู้อาวุโสอูเผิงส่ายหน้า

“ข้าเองก็ไม่กล้ามั่นใจ”

ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น เขายังไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยตาตนเอง

“นี่มันจะเป็นไปได้อย่างใด?”

ฝีมือของชายสวมชุดสีดำคนนั้น พวกเขาก็ได้เปิดหูเปิดตามาแล้ว

ต่อให้หรงซิวและซั่งกวนเยว่ร่วมมือกันก็ไม่มีทางเอาชนะได้!

“ผู้อาวุโสอูเผิง ข้าว่าท่านคิดมากเกินไปแล้ว ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์จะพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นนั้นเชียวหรือ?”

ผู้อาวุโสอูเผิงขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมแล้วพยักหน้า

“ข้าอาจจะคิดมากเกินไปจริงๆ…พวกเราเดินทางต่อกันเถอะ! แต่ว่ายิ่งเข้าใกล้มากเท่าใด ก็จะยิ่งอันตรายมากเท่านั้น พวกเราจำเป็นจะต้องระมัดระวังอย่างมาก”

เมื่อพูดจบ พวกเขาทั้งหลายก็รีบเดินหน้าต่อไป

แม้ว่าพลังส่วนใหญ่ของลำแสงสีเลือดนี้จะลดน้อยลงไป แต่หากพูดกันตามตรงแล้ว มันก็ยังมีความได้เปรียบอยู่

“อาเยว่!”

เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น ฉู่หนิงก็เดินหน้าขึ้นมาหนึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้ ความกังวลก็เพิ่มมากขึ้น

ถ้าไม่มีม่านพลังของหรงซิว เกรงว่าเขาจะต้องพุ่งตัวขึ้นไปด้านบนอย่างอดไม่ได้แน่นอน

ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตเลยว่า คราบเลือดบนฝ่ามือของเขาจางหายไปอย่างรวดเร็ว

อีกทั้งลมปราณอันอ่อนโยนก็พวยพุ่งขึ้นจากตันเถียนอย่างกะทันหัน จากนั้นก็กระจายไปสู่แขนขาทั้งสี่ด้วยความเร็ว

จนกระทั่งความอุ่นร้อนแล่นเข้าสู่กลางฝ่ามือ ในที่สุดเขาก็สามารถสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป จึงรีบก้มลงมองทันที

เมื่อเห็นดังนั้น รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง

เพราะว่าในตอนนี้บาดแผลมากมายบนฝ่ามือของเขานั้น ได้สมานตัวและเกือบจะหายดีแล้ว!

นี่มัน…

ฉู่หนิงขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม แต่ในส่วนลึกของแววตาเขาไม่มีประกายความตกใจเลยแม้แต่น้อย

เพราะว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

เพียงแต่ช่วงเวลาส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้เขากำลังอยู่ในระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่น กอปรกับภายในใจคิดถึงแต่เรื่องเยว่เอ๋อร์ เขาจึงไม่ได้เก็บเรื่องเหล่านี้มาใส่ใจ

แต่ใครจะรู้เล่าว่า ในตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง…

ทันใดนั้นเองเสียงกึกก้องก็ดังขึ้นจากด้านหน้า!

ฉู่หนิงรีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที!

ค่ายกลขนาดใหญ่สีเงินแตกสลายเป็นเสี่ยงแล้ว!

พลังที่บ้าคลั่งจำนวนนับไม่ถ้วนแพร่กระจายออกไปรอบข้าง!

ในตอนนั้นเองลำแสงสีเลือดก็หล่นลงมาจากท้องฟ้า!

เหมือนกับกระบี่โลหิตเล่มหนึ่งที่ฟันไปทางฉู่หลิวเยว่!

ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นไปมอง!

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์