……….
ชายสวมชุดดำสะดุ้งโหยง จากนั้นก็หันกลับไปมอง และเห็นว่าค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่เสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ!
แรงกดดันอันมหาศาล ค่อยๆ แผ่กระจายออกจากด้านบนนั้น!
ลมปราณนี้ทำให้ตัวของเขาสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว
“ปะ…ปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชา?”
เขาพูดโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
นางทะลวงด่านจนถึงระดับนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางเพิ่งอายุเท่าไรกันเอง?
ทำไมนางถึงสามารถทะลวงด่านเป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับมหาราชาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย แววตากระจ่างใสแฝงด้วยความเย็นชา
ทันใดนั้นริมฝีปากที่ซีดขาวของนางก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มที่นางเผยออกมา แต่เขาแทบจะไม่รู้ความหมายของมันด้วยซ้ำ
ต่อให้มองไม่เห็นใบหน้าของชายสวมชุดคลุมสีดำ แต่ก็คาดเดาไม่ยากเลยว่าตอนนี้เขาจะต้องตกใจและตื่นตะลึง อีกทั้งยังมีความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถปกปิดได้อีกด้วย
“เจ้าตกใจมากอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้นเสียงเบา
“ความจริงจะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องบังเอิญ ข้าเพิ่งทะลวงด่านได้ก่อนที่เจ้าจะมาถึงไม่นานนี่เอง อีกทั้งยังทะลวงในที่แห่งนี้อีกด้วย! เหตุใดล่ะ ที่แห่งนี้เป็นถิ่นของเจ้าไม่ใช่หรือ เรื่องแค่นี้เจ้าก็ไม่รู้หรือไร?”
คำพูดของฉู่หลิวเยว่เหมือนกับฟ้าผ่าลงที่ข้างหูของชายสวมชุดคลุมสีดำ!
สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจอย่างมาก!
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เขาจะต้องรู้เรื่องนี้เป็นคนแรกไม่ใช่หรือ
เหตุใดเขาเพิ่งรู้ในตอนนี้…
“…หรือว่า…”
ไม่รู้ว่าเป็นภาพมายาหรือไม่ ฉู่หลิวเยว่สามารถได้ยินความหวาดกลัวสายหนึ่งจากน้ำเสียงของเขา
ความหวาดกลัว?
คนผู้นี้กำเริบเสิบสานเป็นอย่างมาก และเอาแต่ใจตนเอง แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลย
ตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ เขาก็ทำท่าทางเหมือนไม่ว่าใครก็ไม่สามารถยั่วโทสะเขาได้
ทำไมอยู่ดี ๆ ตอนนี้ถึงมีท่าทีหวาดกลัวขึ้นมาอย่างกะทันหันล่ะ?
หรือคำพูดของนางทำให้เขาคิดอะไรขึ้นได้อย่างนั้นหรือ?
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามอง แต่นางขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเรื่องเหล่านี้
นางเงยหน้าขึ้นมองแท่งน้ำแข็งแท่งนั้นที่กำลังต่อสู้อยู่กับถวนจื่อ
เมื่อเห็นว่ามือเล็กๆ ของถวนจื่อถูกแทงอีกทั้งเลือดยังคงไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยจิตสังหารเข้มข้นอย่างไม่ปกปิด
“ค่ายกลกระสวยสวรรค์เล็ก”
ฉู่หลิวเยว่ตะโกนขึ้นมา พร้อมผลักค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าออกไป!
ค่ายกลขนาดใหญ่สีเงินลอยขึ้นไปอย่างเชื่องช้า
อาณาเขตเทพเซียนที่อยู่รอบข้างเหมือนสามารถสัมผัสอะไรได้บางอย่าง จึงค่อยๆ หลีกทางอย่างว่องไว
หลังจากนั้นไม่นานค่ายกลขนาดใหญ่สีเงินก็ลอยอยู่กลางอากาศ
มันผ่านร่างของถวนจื่อไป ก่อนจะลอยอยู่เหนือศีรษะของนาง และเผชิญหน้ากับแท่งน้ำแข็งนั้นโดยตรง!
เมื่อมีการช่วยเหลือจากค่ายกลนี้ ถวนจื่อก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ในขณะเดียวกัน ลำแสงจากค่ายกลแห่งนี้จำนวนไม่ถ้วนพันธนาการแท่งน้ำแข็งนั้นเอาไว้
หลังจากนั้นก็พันเอาไว้อย่างแน่นหนา!
กร๊อบ!
เสียงแตกร้าวดังขึ้นอย่างชัดเจน!
แท่งน้ำแข็งแตกละเอียด!
ในที่สุดถวนจื่อก็สามารถหลุดพ้นออกมาได้แล้ว ร่างกายของนางตกลงไปด้านล่าง!
ฉู่หลิวเยว่พุ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมรับถวนจื่อเข้ามาในอ้อมกอด!
เมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นของอ้อมกอดอันคุ้นเคย ในที่สุดความหวั่นวิตกของถวนจื่อก็สงบลง
ฉู่หลิวเยว่ลูบหลังของนางอย่างปวดใจ
“ถวนจื่อ ลำบากเจ้าแล้วนะ”
นางเหลือบสายตามองมือของถวนจื่อ
ตอนนี้มือเล็กๆ ที่อวบอ้วนเกือบจะถูกแทงจนกลายเป็นรู เนื้อพลิกกลับด้าน หยาดเลือดไหลริน
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความเย็นยะเยือกแล่นผ่านหัวใจ แต่ก็เหมือนมีกองไฟมาสุมอยู่ในอก
“เจ็บมากสินะ?”
เสียงของนางนั้นเบามาก แต่การเคลื่อนไหวกลับคล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง นางหยิบโอสถป้อนให้กับถวนจื่ออย่างรวดเร็ว
ถวนจื่อซุกเข้าในอ้อมกอดของนางอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ส่ายหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...