เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1688

……….

“เยว่เออร์!”

“อาเยว่!”

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ฉู่หนิงและถวนจื่อรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พร้อมเตรียมตัวสาวเท้าก้าวขึ้นไป

แต่อย่างใดก็ตามฉู่หลิวเยว่กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วกว่า!

ลำแสงอันเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นในมือของนางอย่างรวดเร็ว!

“กระบี่ชื่อเซียว!”

นางพลิกข้อมือและฟันลงไปที่เชือกโปร่งแสงนั้นโดยตรง!

ฉับ!

เสียงกระทบกันดังกังวาน!

ในตอนนั้นเองก็เกิดประกายไฟขึ้น!

หัวใจของฉู่หลิวเยว่ดำดิ่ง

กระบี่ชื่อเซียวเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อ ตัวเหล็กมีความเหนียวราวกับโคลน และคมกริบเป็นอย่างมาก

เชือกโปร่งแสงเส้นนี้ดูแล้วเหมือนจะอ่อนนุ่ม แต่ความจริงแล้วมันยืดหยุ่นและแข็งแรงเป็นอย่างมาก!

คาดไม่ถึงว่าเมื่อฟันลงไปจะทิ้งเพียงร่องรอยสีขาวจางๆ เท่านั้น!

ลั่วเหยี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็น

ซั่งกวนเยว่ผู้นี้มีฝีมือจริงๆ แม้กระทั่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อก็สามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วดุจสายน้ำ

แต่น่าเสียดาย ที่นางเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงเท่านั้น

ฝีมือระดับนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ก็ยังแข็งแกร่งไม่พอจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็จับปลายเชือกอีกด้านเอาไว้แน่น แล้วออกแรงลากอย่างแรง!

“เถาวัลย์มัดเซียน…รัด!”

เชือกโปร่งแสงนั้นรัดแน่นขึ้นในทันที ทำให้บนข้อเท้าของฉู่หลิวเยว่มีรอยเลือดไหลออกมา!

ด้วยพลังอันแข็งแกร่งนี้ทำให้นางสูญเสียการทรงตัวไปอีกครั้ง!

เงาร่างของหรงซิววูบไหว ในตอนที่เขากำลังจะลงมือก็มีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า

คนผู้นั้นคือ ผู้อาวุโสอูเผิง!

“หรงซิว วันนี้พวกเราเพียงแค่ต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้กับคุณหนูรอง เมื่อเรื่องนี้จบลงพวกเราก็จะปล่อยนางไป เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้าอยากจะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกหรือ?”

เหมือนกับหรงซิวได้ยินเรื่องน่าขัน ริมฝีปากบางของเขากำลังยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา

“นั่นคือพระชายาของข้า พวกเจ้าจะทำอันใดนางต่อหน้าข้า แล้วจะให้ข้าทำเป็นมองไม่เห็นหรืออย่างใด? ดูเหมือนว่าสิ่งที่ข้าพูดกับพวกเจ้าไปก่อนหน้านี้ พวกเจ้าทำเป็นหูทวนลมหรือไร”

น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง อีกทั้งยังหนาวเสียดแทงกระดูก!

ผู้อาวุโสอูเผิงชะงักไปเล็กน้อย ทันใดนั้นภายในสมองก็นึกถึงตอนที่เขาพูดถึงท่านประมุขขึ้นมา สีหน้าของอีกฝ่ายคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

ความจริงแล้วในจุดนี้เป็นสิ่งที่เขากังวลใจอยู่ตลอด

แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่สามารถถอยหลังหลีกทางให้ได้

“พวกเราไม่อยากเป็นปรปักษ์กับพระราชวังเมฆาสวรรค์ สิ่งนี้จะไม่เป็นการดีต่อใครเลย ขอเพียงแค่ซั่งกวนเยว่ยอมขอโทษ เรื่องใหญ่ก็จะได้กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กจะได้หมดไป เจ้า…”

เขายังพูดไม่ทันจบ หรงซิวก็ยกมือขึ้น!

เปลวเพลิงสีทองกลุ่มหนึ่งพวยพุ่งมาจากในแววตาของเขา!

“เจ้าพูดผิดไปเล็กน้อยนะ”

พลังปราณดั้งเดิมภายในร่างกายของหรงซิวปะทุขึ้น แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

“ตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเจ้าแตะต้องนาง พวกเจ้าก็เป็นปรปักษ์ของพระราชวังเมฆาสวรรค์แล้ว!”

เปรี้ยง!

พลังที่รุนแรงสายหนึ่งพุ่งตรงไปหาผู้อาวุโสอูเผิงในทันที!

“หรงซิว! เจ้า…”

ผู้อาวุโสอูเผิงคิดไม่ถึงว่าหรงซิวจะลงมือทันทีเช่นนี้ เขาสามารถหลบเลี่ยงได้อย่างหวุดหวิด แต่บริเวณไหล่ของเขาก็ยังทิ้งรอยไหม้ยาวเอาไว้สายหนึ่งอีกด้วย!

ความเจ็บปวดที่ถูกแผดเผาทำให้ผู้อาวุโสอูเผิงรู้สึกตกใจระคนโมโหมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

หรงซิวรู้หรือไม่ว่าที่เขาทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างใด?

เพียงเพื่อซั่งกวนเยว่คนเดียว เขากล้าจะเป็นศัตรูกับพวกเราจริงๆ น่ะหรือ?

พวกเขาไม่ได้จะเอาชีวิตของซั่งกวนเยว่เสียหน่อย!

ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในสมองของผู้อาวุโสอูเผิง แต่เขาก็ไม่กล้าผ่อนคลายอีกแล้ว เขารีบโคจรพลังปราณดั้งเดิมในร่างกายของตนเอง และกัดฟันสู้กับหรงซิว!

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่ามีอันใดผิดปกติ

…การต่อสู้ของหรงซิวนั้น เหตุใดถึงดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมเล่า?

พวกเขาทั้งสองคนเพิ่งแลกเปลี่ยนกันได้ไม่กี่กระบวนท่า ผู้อาวุโสอูเผิงก็รู้สึกว่าไม่สามารถต้านรับไหวแล้ว

หรือว่าก่อนหน้านี้หรงซิวได้ปิดบังฝีมือที่แท้จริงเอาไว้?

“จอมยุทธ์ระดับหนึ่งจะมีอาณาเขตเทพเซียนได้อย่างใด?”

เดิมทีหนานอวี่สิงกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการรับชมความสนุกสนาน เขาวางแผนไว้ว่าจะฉวยโอกาสนี้ระบายความโกรธแค้นที่มีในใจออกให้หมด

คิดไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้

หรงซิวสามารถสู้กับผู้อาวุโสอูเผิงได้อย่างสูสี ความจริงแล้วในจุดนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถคาดเดาได้

อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสไป๋ถงก่อนหน้านี้ก็เป็นฝีมือของเขา

แต่ชายวัยกลางคนคนนั้นสวมเสื้อผ้าซอมซ่อ ทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ดูแล้วธรรมดาอย่างมาก เหตุใดเขาถึงมีอาณาเขตเทพเซียนได้เล่า?

ลมปราณบนร่างกายของเขา… เป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งจริงๆ ไม่ผิดแน่!

“หรือว่าจะเป็น… ร่างศักดิ์สิทธิ์อมตะ!”

ลั่วเหยี่ยนเบนสายตากลับมามองฉู่หนิง จากนั้นก็สามารถคาดเดาได้อย่างรวดเร็ว

บนโลกใบนี้คนที่เป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งแต่สามารถใช้อาณาเขตเทพเซียนได้ ก็เกรงว่าจะต้องมีร่างศักดิ์สิทธิ์ที่มีลักษณะพิเศษ

แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่น่าหวาดกลัว แต่ก็นับว่า… พวกเขาทั้งหลายเป็นคนที่มีฝีมือไม่น้อย

มิน่าล่ะพวกเขาถึงสามารถยึดครองสุสานสังหารเทพจนถึงตอนนี้ได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้อาวุโสอูเผิงและคนอื่นๆ ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ตึง!

เสียงกระแทกที่รุนแรงดังขึ้นอีกครั้ง

ลั่วเหยี่ยนถอนสายตากลับมา จากนั้นก็เห็นว่าฉู่หลิวเยว่ยังคงพยายามใช้กระบี่ชื่อเซียวฟันเถาวัลย์มัดเซียนให้ขาด

เขาหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ สายตาที่มองฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยความดูแคลนและเฉยเมยอย่างไม่ปิดบัง

“ไร้เดียงสาเสียจริง”

สำหรับเขาแล้วการกระทำของฉู่หลิวเยว่เป็นการดิ้นรนขัดขืนที่เปล่าประโยชน์

เขาสะบัดมือข้างหนึ่ง แล้วดึงเถาวัลย์มัดเซียนกลับมาอย่างแรง!

ร่างกายครึ่งหนึ่งของฉู่หลิวเยว่ รวมถึงกระบี่ที่อยู่ในมือนางด้วยก็ถูกเถาวัลย์มัดเซียนที่โปร่งแสงรัดอย่างแน่นหนา!

นางขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม

ของสิ่งนี้ไม่ใช่ของทั่วไป ในตอนนี้นางรู้สึกว่าพลังปราณดั้งเดิมรอบกายถูกเถาวัลย์มัดเซียนเส้นนั้นปิดกั้น!

ลั่วเหยี่ยนยกมือขึ้น และกำมือกลางอากาศ

ลำคอของฉู่หลิวเยว่ก็ถูกบีบรัดจนแน่น!

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์