ในตอนนี้นางสามารถจดจำบทเพลงฉินได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
จากกระดาษหมื่นแผ่น ตอนนี้เหลือเพียงสามแผ่นสุดท้ายเท่านั้น นอกจากตัวนางเอง ก็ไม่มีใครรู้ว่าระหว่างที่นางอยู่ที่นี่ นางผ่านความเจ็บปวดและทรมานอย่างใดมาบ้าง
แต่ยังดีที่…
ในที่สุดทั้งหมดนั้นกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว!
กระดาษโปร่งแสงสามแผ่นนั้นลอยอยู่ตรงหน้าของนางอย่างเงียบเชียบ
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจ แล้วจ้องมองมันตาเขม็ง
จากนั้นนางก็เลือกหยิบแผ่นตรงกลางออกมา
ทันทีที่อยู่ในมือของนาง กระดาษโปร่งแสงก็ส่องประกายแวววาวออกมา
ฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้แล้ว นางอ่านกระดาษสามแผ่นอย่างละเอียดและระมัดระวัง
…
นางดูมีสมาธิจดจ่อเป็นอย่างมาก จนคนที่เฝ้าดูอยู่ภายนอกต้องเงียบเสียงตามโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่ากลัวจะรบกวนนางเข้า
หนานอีฝานจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและสำรวจ เขามองไปที่กระดาษโปร่งแสงแผ่นนั้นที่อยู่ในมือของนางตาเขม็ง เหมือนเขากำลังสงสัยอันใดบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้ามั่นใจ
เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว เขาก็รู้สึกปวดหัวอย่างมากจนต้องยกมือขึ้นมานวดขมับ
“ประมุข”
น้ำเสียงที่อ่อนแรงและทุ้มต่ำสายหนึ่งดังขึ้น
หนานอีฝานหันหน้ากลับไปมอง เป็นผู้อาวุโสอูเผิงที่เดินมาอยู่ด้านหลังของเขาอย่างไร้สุ้มไร้เสียงตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ
เมื่อเห็นว่าเป็นเขา สีหน้าของหนานอีฝานก็อ่อนลงเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสอูเผิง มีอันใดหรือ?”
ผู้อาวุโสอูเผิงหันไปมองหนานอีอีที่อยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงทุ้มต่ำว่า
“ท่านประมุข ความจริงแล้วคุณหนูรองก็ใช่ว่าจะก่อเรื่องโดยไม่มีเหตุผล…”
หนานอีฝานคิดว่าเขาต้องการจะมาพูดแก้ต่างให้กับหนานอีอี ดังนั้นจึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสอูเผิง เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หากท่านจะพูดอันใด ไม่จำเป็นต้องพูด…”
“ท่านประมุขรู้หรือไม่ว่าเหตุใดคุณหนูรองถึงติดตามพวกเขาไม่ยอมเลิกรา?”
ผู้อาวุโสอูเผิงถอนหายใจออกมา
“หากเป็นเพียงความแค้นส่วนตัวจริงๆ อย่าว่าแต่ท่านเลย ต่อให้เป็นข้าและคุณชายใหญ่ก็ไม่มีทางเห็นด้วยเด็ดขาด”
คำพูดเหล่านี้ทำให้หนานอีฝานหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
ผู้อาวุโสอูเผิงเป็นคนอย่างใด เรื่องนี้เขารู้ดี เขาไม่มีทางปล่อยให้หนานอีอีก่อเรื่องไปทั่วแน่นอน…
แม้ว่าเขาจะผิดหวังกับท่าทีของหนานอวี่สิงในวันนี้มาก แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกทำลายหยวนตันจนต้องกลายเป็นขยะไร้ค่า เขาคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อย่างแน่นอน
เมื่อพูดเช่นนี้…หมายความว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำอยู่ด้วยงั้นหรือ?
สีหน้าของหนานอีฝานจริงจังขึ้นหลายส่วน
“หากมีเรื่องอันใดผู้อาวุโสอูเผิงก็เชิญพูดมาตามตรงเถอะ”
ผู้อาวุโสอูเผิงชะงักไปเล็กน้อย
“ของที่ท่านให้คุณหนูรองตามหา เหมือนว่า…จะอยู่บนตัวของซั่งกวนเยว่”
หนานอีฝานชะงักไปครู่หนึ่ง!
เขากวาดสายตามองโดยรอบ จนแน่ใจว่าคนเหล่านั้นกำลังให้ความสนใจที่ซั่งกวนเยว่อยู่ เขาจึงถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า
“จริงหรือ?”
ผู้อาวุโสอูเผิงพยักหน้าเบาๆ
“ผู้เฒ่าอย่างข้าใช้แผ่นจานซิงหลัวยืนยันมาแล้ว คุณหนูรองก็สามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณนั้นบนร่างกายของซั่งกวนเยว่ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีอันใดผิดพลาด”
หนานอีฝานขมวดคิ้วเป็นปม แล้วเงียบเสียงไป
หนานอีฝานรู้สึกมึนงงและไม่เข้าใจ
“ข้าจำได้ว่าพวกเจ้าเข้ามาที่สุสานสังหารเทพพร้อมกันไม่ใช่หรือ?”
ผู้อาวุโสอูเผิงพยักหน้า จากนั้นก็เล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้ฟังอย่างคร่าวๆ อีกรอบ
หนานอีฝานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้หนานอีอีพูดเพียงแค่ว่า ระหว่างที่อยู่ภายในสุสานสังหารเทพทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้งกัน แต่ไม่ได้เล่าสาเหตุและผลลัพธ์ให้ฟังอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...