………………..
นอกจากพวกเขาแล้ว ภายในท้องพระโรงก็ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
มันเงียบเสียจนพวกเขาสามารถได้ยินเสียงหัวใจของตนเอง
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจ
นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า พวกเขาจะมาปรากฏตัวอยู่ในที่แห่งนี้ได้
เฉกเช่นเดียวกับเผ่าหงส์ทองคำ วิหารไท่ซวีเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างมากของพวกเขา และไม่สามารถเข้ามาอย่างง่ายดาย
แม้กระทั่งหากคนของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงต้องการจะเข้ามา ก็ต้องผ่านการตรวจสอบมากมาย ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย?
ในตอนนั้นเองภายในใจของฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
เหมือนว่าช่วงนี้…นางจะมีวาสนากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลทั้งสองมากเลยทีเดียว?
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ นางได้ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง อีกทั้งยังได้พูดคุยกับบรรพบุรุษท่านนั้นภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงด้วย
อีกทั้งในตอนนี้นางก็มาถึงเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ เดิมทีนางถูกขังเอาไว้อยู่ แต่ใครจะคิดเล่าว่า แต่ภายในชั่วพริบตานางก็มาปรากฏตัวอยู่ในวิหารไท่ซวีแล้ว…
ฉู่หลิวเยว่หันศีรษะกลับไปมอง ก่อนจะจมอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง
แค่นางกับหรงซิวมาที่นี่ก็ช่างเถิด แต่ยังพาถวนจื่อและจื่อเฉินมาที่นี่ด้วย
คนหนึ่งเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ ส่วนอีกคนหนึ่งใช้กระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลงเพื่อหลอมกายเนื้อขึ้นมาใหม่…
แบบนี้มันคือการก่อกรรมชัดๆ
ฉู่หลิวเยว่กุมขมับของตัวเอง และรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก
ก่อนจะหันมองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทอยู่ จากนั้นนางกำลังพิจารณาอย่างจริงจังว่านางควรจะออกไปอย่างไรถึงจะสะดวกที่สุด
“ด้านนอกประตูบานนี้ก็คือพวกของโหมวหยาง”
หรงซิวพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกท้อแท้ขึ้นมาในทันที
แค่คิดก็รู้แล้วว่าด้านนอกต้องมีไท่ซวีเฟิ่งหลงจำนวนมากเฝ้าอยู่แน่นอน
นอกเสียจากพวกเขาจะกลับไปทางเดิม ไม่อย่างนั้นก็จะต้องถูกขังอยู่ที่นี่แล้ว!
“อาเยว่ๆ เจ้าดูของที่อยู่ในเสาต้นนั้นสิ!”
ทันใดนั้นถวนจื่อก็ดึงแขนเสื้อของฉู่หลิวเยว่แล้วพูดขึ้น
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมองก่อนที่จะจ้องตาเขม็ง
ภายในเสามังกรเคลื่อนต้นนั้น มีประกายแสงสีม่วงอยู่สี่จุด
“นั่นน่าจะเป็นไท่ซวีเฟิ่งหลงพี่กำลังค้นหามรดกอยู่ภายในนี้”
หรงซิวอธิบาย
เขาค่อนข้างรู้จักงานหมื่นคีรีเป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อคาดเดาเล็กน้อย ก็สามารถทราบได้ในทันที
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดขึ้นมา
“เช่นนั้นก็หมายความว่า…ความจริงแล้วภายในเสามังกรเคลื่อนมีดินแดนอีกแห่งหนึ่งอยู่หรอกหรือ?”
“เห็นเกล็ดที่อยู่ตรงนั้นหรือไม่?”
จื่อเฉินพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ภายในเกล็ดแต่ละเกล็ดมีมรดกอยู่ภายในหนึ่งชิ้น เกล็ดที่ยังคงส่องสว่างอยู่ ก็หมายถึงมรดกยังไม่ได้ถูกเอาไป
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจได้ในทันที
ก่อนหน้านี้นางเคยได้ยินหรงซิวและจื่อเฉินพูดว่า มรดกของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงนั้นจะได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
คนที่ได้รับมรดกนั้น หลังจากเสียชีวิตไปแล้วมรดกนั้นจะกลับคืนสู่วิหารไท่ซวีอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าไท่ซวีเฟิ่งหลงที่เข้ามาไปในเสามังกรเคลื่อนนั้นก็ต้องการตามหามรดกเหล่านั้น
ในตอนนั้นเอง ชั่วพริบตาเดียวบนเสาหยกขาวที่ถูกแกะสลักเป็นมังกรตัวนั้นก็ส่องสว่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นกระหน่ำ สัญญาณเตือนภัยของนางก็ดังขึ้นในทันที!
แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็พบว่า ดวงตาคู่นั้นไม่ได้กำลังมองนาง แต่มองไปทางจื่อเฉิน!
ความคิดนี้ของนางเพิ่งจะปรากฏขึ้น แต่พลังอันมหาศาลกลับพวยพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน!
ทันใดนั้นเงาร่างของผู้คนทั้งหลายก็หายไปจากที่เดิม!
ในตอนนั้นเองบนเสามังกรเคลื่อนต้นนั้น ก็มีประกายแสงหลายดวงเพิ่มขึ้นมา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...