เมื่อพูดจบ เขาก็เดินไปที่ด้านหน้าของเสาเคลื่อนมังกรอีกครั้ง พร้อมยกมือขึ้น
เกล็ดสีม่วงทองปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปกคลุมฝ่ามือของเขาเอาไว้ทั้งหมด
เกล็ดเหล่านั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก และยังมีความเย็นชาที่ส่องสะท้อนออกมา
จากนั้นเขาก็กำหมัดแน่น และออกหมัดหนึ่งครั้ง!
ตู้ม!
พลังที่แข็งแกร่งก็กระแทกเข้ากับเสาเคลื่อนมังกรอย่างรุนแรง!
…
เปรี้ยง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังมาจากเหนือน่านฟ้า!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
หลังจากการเคลื่อนไหวนั้นหยุดไปครู่หนึ่ง
ในตอนนั้นโหมวเจินเหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ ต่อมาเสียงของโหมวหยางก็ดังขึ้น
“หรงซิว! ซั่งกวนเยว่! พวกเจ้านี่กำเริบเสิบสานมากเลยนะ!”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
นางรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้นาน
โหมวหยางไม่ใช่คนโง่ เขาแค่ครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็ไปดูที่ยอดเขาสัตตบงกช ก็สามารถเข้าใจอะไรบางอย่างได้แล้ว
แต่ว่าตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถออกไปได้
ดังนั้นในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ นางจึงต้องรับประกันว่าหรงซิวจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากโลกภายนอก
ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ การกระทำของพวกเขาจะต้องสูญเปล่าอย่างมากแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจแล้วรวบรวมสมาธิเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อาณาเขตเทพเซียนของตนเอง!
…
วิหารไท่ซวี โหมวหยางมองทางเสาเคลื่อนสวรรค์ตรงหน้าที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเลยแม้แต่น้อย!
ความโกรธที่อยู่ภายในใจแทบจะปะทุออกมา!
ดวงตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือด
“ประมุข เหมือนว่าเขาจะมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะอยู่ด้านในนั้น”
โหมวฝูซานส่ายหน้าแล้วพูดเกลี้ยกล่อม
“พวกเราอยู่ด้านนอก พวกเขาอยู่ด้านใน นอกเสียจากพวกเขาจะออกมาเอง ไม่อย่างนั้นแล้ว…เกรงว่าพวกเรายากจะบังคับให้พวกเขาออกมาได้”
เสามังกรเคลื่อนบรรจุพลังของบรรพบุรุษเอาไว้ สูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ จนไม่อาจสั่นคลอนได้
ต่อให้พวกเขาทุกคนร่วมมือกัน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
สถานการณ์ในตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
โหมวหยางไม่ได้พูดอะไร
ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งกลับพูดเสียงเบา
“นี่เป็นเรื่องน่าแปลกมาก…เดิมทีมนุษย์สองคนนี้ไม่ควรจะเข้ามาในวิหารไท่ซวีได้ด้วยซ้ำ แต่เหตุใดเขาถึงสามารถเข้าไปด้านในของเสาเคลื่อนสวรรค์อย่างไร้ซุ่มไร้เสียงได้อย่างใดเล่า?”
เมื่อเขาถามคำถามนี้ขึ้นก็ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้ทันที
“ใช่แล้ว! ที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่คนของเผ่าเราเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาได้หรอกหรือ?”
“อย่าว่าแต่เผ่าพันธุ์มนุษย์เลย แม้กระทั่งเผ่าของพวกเราเองหากต้องการจะเข้าไปในเสาเคลื่อนมังกรนี้อย่างราบรื่น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วพวกเขาสามารถทำได้อย่างใด?”
โหมวหยางหัวเราะเสียงเย็น
“นี่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายไม่ใช่หรือ? อย่าลืมสิว่าซั่งกวนเยว่มีกระดูกของบรรพบุรุษเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงอยู่!”
อีกทั้งอินทรีสามตาตัวนั้นก็ยังยืมใช้พลังของกระดูกนั้นสร้างกายเนื้อใหม่!
ด้วยความสัมพันธ์ระดับนี้หากพวกเขาต้องการจะเข้าไปในเสาเคลื่อนมังกรมันจะมีอะไรยากกัน?
ทุกคนเงียบเสียงลง
พวกเขาประเมินฝีมือทั้งสองคนนี้ต่ำเกินไปแล้ว คิดว่าหากพวกเขาทั้งสองถูกคุมขังแล้ว ทุกอย่างจะราบรื่นและสงบสุข
แต่ใครจะคิดเล่าว่า พวกเขาจะมีความสามารถถึงขนาดนี้?
โหมวฝูซานถามขึ้นมา
“ท่านประมุขวางแผนจะทำอย่างใดต่อไป?”
หากจะให้รอเช่นนี้ต่อไปจริงๆ มันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะออกมาเมื่อใด?
โหมวหยางหลับตาลง
“วางค่ายกลสังหารมาร!”
โหมวฝูซานและคนอื่นๆ ก็หน้าเปลี่ยนสีไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...