เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1762

………………..

ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ตัดสินใจหันไปมองทางถวนจื่อ

ถวนจื่อเข้าใจความหมายของนางได้ในทันที จากนั้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น

เขาสาวเท้าไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็โบกมือเล็กๆ ขึ้น

เปลวเพลิงสีทองคำชาดโหมกระหน่ำขึ้นในทันที! จากนั้นก็ล้อมตัวของพวกเขาเอาไว้!

ต้นไม้ยังคงโค่นล้มอย่างต่อเนื่อง เงาสีดำคืบคลานมาด้านหน้าไม่หยุดยั้ง ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า!

ในตอนนั้นฉู่หลิวเยว่ถึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่ามันคือหมอกสีม่วงดำ ซึ่งภายในหมอกนั้นมีประกายแสงสีทองจางๆ

แรงกดดันที่ยากจะอธิบายปกคลุมอย่างมืดฟ้ามัวดิน!

หลังจากนั้นไม่นานหมอกสีม่วงดำก็ปะทะเข้ากับเปลวเพลิงสีทองคำชาดอย่างรุนแรง!

ตู้ม!

พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงและดุเดือด!

ภายในพริบตาเดียวสะเก็ดเพลิงก็กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ

ถวนจื่อใบหน้าซีดขาว

ค่ายกลสังหารมารเป็นการควบรวมพลังของเหล่าผู้อาวุโสในเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง ดังนั้นถวนจื่อจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ฉู่หลิวเยว่โคจรพลังปราณดั้งเดิมในร่างกายของตนเอง พร้อมถ่ายเทพลังเข้าไป ทำให้เปลวเพลิงโหมกระหน่ำมากกว่าเดิม!

ในที่สุดความเร็วของหมอกสีม่วงดำนั้นก็หยุดลง ทั้งสองฝ่ายหยุดชะงักค้าง

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเป็นกังวลใจอย่างมาก

เกรงว่าพลังของนางกับถวนจื่อจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของของสิ่งนี้ บางทีนางอาจจะสามารถฝืนต้านทานเอาไว้ได้เพียงครึ่งเค่อ แต่หากนานกว่านี้คงจะไม่สามารถทำได้

และนางไม่รู้ว่านางสามารถต้านทานจนกว่าโหมวเจินจะสร้างกายเนื้อได้สำเร็จหรือไม่…

ในตอนนั้นเองหมอกสีม่วงดำก็สามารถตระหนักได้ว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหน้า ดังนั้นมันจึงควบรวมร่างกายอย่างรวดเร็ว!

เพียงแต่ว่าดวงตาคู่นั้นว่างเปล่า เหมือนกับหุ่นเชิดที่แข็งทื่อ

เขาอ้าปากขึ้น แต่เสียงที่ออกมานั้นคือเสียงของโหมวหยางที่เต็มไปด้วยแรงข่มขู่

“หรงซิว ซั่งกวนเยว่ พวกเจ้าต้องการจะเป็นปรปักษ์กับเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงอย่างถึงที่สุดใช่หรือไม่?”

น้ำเสียงของเขานั้นทุ้มต่ำเป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกันอย่างสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้หมดความอดทนแล้ว อีกทั้งตอนนี้ยังมีจิตสังหารแรงกล้าอย่างมาก!

แต่ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

เดิมทีโหมวหยางก็ไม่คิดจะเจรจากับพวกเขาอย่างสันติอยู่แล้ว เขามักจะทำตัวเหินห่าง และไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉู่หลิวเยว่ก็รู้ว่าโหมวหยางเห็นว่าพวกเขาเป็นศัตรู

เพียงแต่ในตอนนี้ไม่ได้เสแสร้งอีกต่อไปแล้ว

ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“ประมุขโหมวหยาง พวกเราแค่อยู่ในยอดเขาสัตตบงกชแล้วรู้สึกเบื่อเล็กน้อยจึงออกมาเที่ยวเล่นดูเท่านั้น เหตุใดท่านต้องร้อนรนขนาดนี้ด้วยเล่า? รอให้พวกข้าเที่ยวเล่นจนพอใจแล้วก็ค่อยออกไปเองนั่นแหละ”

เสียงของฉู่หลิวเยว่ดังออกมาจากในเสาเคลื่อนมังกรอย่างกระจ่างชัด และดังกังวานไปทั่วท้องพระโรง

สีหน้าของโหมวหยางมืดครึ้มเป็นอย่างมาก

รู้สึกเบื่อ ดังนั้นจึงออกมาเที่ยวเล่น?

พวกเขาเห็นว่าที่นี่เป็นสถานที่แบบใดกัน พวกเขาจะสามารถเข้าออกตามใจได้อย่างไร?

ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ กำเริบเสิบสานอย่างที่โหมวเหยาพูดจริงๆ ด้วย!

โหมวหยางโมโหจนหัวเราะออกมา

“ดี! ในเมื่อเจ้าต้องการเที่ยวเล่น ถ้าเช่นนั้นประมุขอย่างข้าก็จะเล่นกับเจ้าจนถึงที่สุด!”

ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น เขาก็นั่งลงกับพื้นแล้วหลับตาลง

สัญลักษณ์กลางหน้าผากส่องสว่างมากขึ้น!

หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้าน

จากนั้นนางก็เห็นว่าหุ่นเชิดตัวนั้นกระทืบพื้นอย่างรุนแรงและพุ่งตัวมาทางนี้!

ฉู่หลิวเยว่พุ่งตัวออกไปอย่างไม่ลังเล นางเลือกที่จะต่อสู้โจมตีโดยตรง!

พรึ่บ!

เสียงหวีดแหลมแหวกอากาศ

กระบี่ชื่อเซียวที่แหลมคมกระจ่างใสปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของนาง!

ต่อมา นางก็พุ่งตัวออกจากเปลวเพลิงสีทองคำชาดและม่านพลังอาณาจักรเทพเซียนสีแดงเงิน!

“อาเยว่!”

ถวนจื่อตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความกังวล

บทที่ 1765 หุ่นเชิด 1

บทที่ 1765 หุ่นเชิด 2

บทที่ 1765 หุ่นเชิด 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์