ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 178

ซือหยางตกตะลึง

“เจ้า เจ้าพูดว่าอันใดนะ”

ฉู่หลิวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจึงพูดเช่นนั้นออกมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของซือหยาง นางจึงทำตามน้ำไป

“ข้าพูดชัดเจนแล้ว ยังต้องให้ข้าพูดเป็นครั้งที่สองหรือไม่?”

“ไม่ใช่ ไม่…เจ้าชอบผู้ใดหรือ” ซือหยางถามอย่างไม่รู้ตัว

ในเมืองนี้จะมีผู้ใดโดดเด่นยิ่งกว่าซือถิงอีกเล่า

หลิวฉู่เย่ว์เคยบอกว่าชอบองค์รัชทายาท แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน กลับชอบคนอื่นแล้ว?

“เจ้าคงไม่โกหกข้าใช่หรือไม่? เขาคือผู้ใด”

“เขาคือผู้ใดก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเจ้า นั่นมันคือเรื่องของข้า ซือหยาง พวกเจ้าคือเพื่อนของข้า เมื่อก่อนคือเพื่อน และภายภาคหน้าก็คือเพื่อน”

แต่ก็เพียงแค่นั้น

ซือหยางเข้าใจความหมายของฉู่หลิวเยว่ แม้ในใจจะไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยและแววตาที่ชัดเจนของนาง คล้ายว่านางจะไม่ได้โกหก

จิตใจของเขาสับสนอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเขาจึงถูใบหน้าของตนด้วยความหงุดหงิด

“ตกลง! ข้าสัญญาว่านับแต่นี้ต่อไปข้าจะไม่รบกวนเจ้าเรื่องนี้อีก! จากนี้ไปพวกเรายังคงเป็นเพื่อนกัน!”

รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉู่หลิวเยว่

“ดี”

ซือหยางยังคงผิดหวังเล็กน้อย

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ข้าจะบอกอาจารย์ตงฟางเรื่องที่เจ้าจะเข้าร่วมสมาคมเยาวชน”

เขาหันหลังจากไปเมื่อพูดจบ

หากเขายังอยู่ต่อเกรงว่าจะทำให้นางขุ่นเคืองใจ

ฉู่หลิวเยว่พูด “ขอบใจเจ้ามาก”

ซือหยางโบกมือโดยที่ไม่หันกลับมา พร้อมทั้งเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ฉู่หลิวเยว่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมสักพัก ทันใดนั้นนางจึงนึกอะไรบางอย่างไร พลางหันไปมอง

จากระยะห่างออกไปไกลนั้นหรงซิวยังคงนอนหลับตาอยู่บนเก้าอี้หวาย ราวกับว่าเขาหลับไปอีกครั้ง

ด้วยความห่างเช่นนี้ คงจะ…ไม่ได้ยินกระมั้ง

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกจิตใจกระสับกระส่าย จึงรีบละสายตาแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

รอบข้างกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

ลมพัดใบไม้ร่วงหล่นบนใบหน้าหรงซิว

เขาขยับหัวเล็กน้อย พลางลืมตาขึ้น

ยามนี้ดวงตาหงส์ที่ใสบริสุทธิ์คู่นั้นกลับซับซ้อนมาก ราวกับว่าเกิดคลื่นดำทะมึนทำให้ผู้คนสับสน

เขาหาได้นอนหลับไม่ เห็นได้ชัดว่าเขาตื่นอยู่

มุมปากของหรงซิวค่อยๆ ยกขึ้นกลายเป็นรอยยิ้มแผ่ซ่านไปยังมุมตาและคิ้ว

จากนั้นเขาจึงนำใบไม้ออกจากปากแล้วพับครึ่ง

เสียงหวีดหวิวที่ไพเราะดังกระจายไปทั่ว!

ฉู่หลิวเยว่ที่เดินออกมาไกลมากแล้ว ตัวแข็งทื่อทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่ล่องลอยมาจากด้านหลัง

เมื่อเยี่ยนชิงนำของมาเก็บ จึงรู้สึกว่าเจ้านายของตนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

เขาเหลือบมองเจ้านายเป็นครั้งคราวขณะกวาดลานบ้าน

เมื่อหรงซิวนำใบไม้วางบนริมฝีปากอีกครั้ง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฝ่าบาท ชอบเป่าใบท้อขนาดนั้นเชียวหรือ?”

หรงซิวเลิกคิ้ว “เห็นหรือ?”

เยี่ยนชิง “…”

ใบท้อที่ถูกเป่าแล้วเกลื่อนเต็มที่พื้นขนาดนี้ หรือท่านคิดว่าข้าตาบอดกันเล่า!?

ท่านเป่ามากกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว!

ท่านไม่เหนื่อย แต่ข้าแสบหูไปหมดแล้ว!

เยี่ยนชิงตะโกนในใจ แน่นอนว่าไม่กล้าพูดออกไป

“ไม่เพราะหรือ?”

เยี่ยนชิงยกนิ้วด้วยความเกรงใจ “มิมีผู้ใดเทียม”

หรงซิวพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

อันที่จริงไม่สำคัญว่าไพเราะหรือไม่ไพเราะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์