………………..
หลังจากที่เยี่ยนชิงคุ้มกันคนของฉู่หลิวเยว่ไปส่งที่เขาฉางจื้อแล้ว จึงกล่าวอำลาและออกไปพร้อมกับอวี๋มั่ว
เมื่อพระชายาและผู้ใต้บังคับบัญชาของตนได้พบกัน จะต้องมีเรื่องมากมายให้พูดคุยกันอย่างแน่นอน หากมีคนนอกอยู่ด้วยคงไม่เหมาะสมนัก
เมื่อเห็นด้านหลังของเยี่ยนชิงกับอวี๋มั่ว น้องแปดเม้มริมฝีปากแดงขึ้น
“นับว่าเขาวิ่งได้เร็ว!”
ถ้าไม่เห็นแก่หน้านายท่าน เมื่อครู่นางได้ลงมือไปแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่พาทุกคนกลับไปที่เรือนของตนและยิ้มพลางเอ่ยขึ้น
“เยี่ยนชิงกับอวี๋มั่วล้วนไม่ผิด เมื่อครู่ที่เขาพูดเช่นนั้นก็เป็นเพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้า น้องแปด เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจจนเกินไป”
“ใครจะไปสนใจคนหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็งนั่นกัน”
น้องแปดกลอกตาไปมาด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ
และแสร้างทำเป็นจริงจัง
แบบนี้คือสิ่งที่นางไม่ชอบมากที่สุด!
ฉู่หลิวเยว่มองนางอยู่ครู่หนึ่งจึงรู้ว่าในใจของนางยังคงไม่พอใจเยี่ยนชิง นางหัวเราะเสียงทุ้มต่ำและไม่ได้แนะนำอะไรต่อ
แม้ว่าน้องแปดจะมีนิสัยแปลกๆ ไปบ้าง แต่กลับเป็นคนที่ฉลาดมากทีเดียว
บัดนี้ที่นี่อยู่ในอาณาเขตของพระราชวังเมฆาสวรรค์ ดังนั้นไม่ว่านางจะเป็นเช่นไรจะไม่มีทางมีปัญหากับฝั่งตรงข้ามเด็ดขาด
เมื่อฉู่หลิวเยว่ผลักประตูเข้าไป มู่หงอวี๋กลับหยุดอยู่ที่หน้าประตู
“หลิวเยว่ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าไม่รบกวนแล้วล่ะ!”
นางมองออกว่าคนพวกนี้ล้วนปฏิบัติตามผู้นำอย่างหลิวเยว่เสมอ
ในเมื่อพวกเขารีบรุดมาขนาดพันลี้ยังดูไม่ไกล ดังนั้นระหว่างนายกับบ่าวต้องมีเรื่องให้พูดคุยกันไม่น้อยอย่างแน่นอน
มู่หงอวี่มองดูทุกคนอย่างละเอียดด้วยความอยากรู้อยากเห็นในตอนท้าย จึงปิดประตูลงอย่างเงียบๆ และเดินออกไปตามลำพัง
…
ภายในห้องจึงเหลือแค่ฉู่หลิวเยว่กับเฉิงอีและคนอื่นๆ
“คาราวะ นายท่าน!”
ทุกคนทำความเคารพพร้อมกัน
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น
“ไม่ได้พบกันนานที่พวกเจ้ามาในครั้งนี้การเดินทางน่าจะลำบากอย่างมาก และไม่ต้องมาถูกจับกุมแล้วล่ะ”
น้องแปดก้าวเข้ามาอย่างงดงามพราวเสน่ห์
“หรือว่านายท่านเจ็บปวดใจแทนพวกเรา…”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วมองดูนางอยู่ครู่หนึ่ง
“ที่นี่ไม่มีคนนอกแล้ว ท่านยังให้ข้ายืนอยู่อีกหรือ”
น้องแปดทำหน้าบึ้งตึงทันทีและกระทืบเท้าไปมาด้วยความรู้สึกงอน
“นายท่านจะอภิเษกสมรสแล้ว คงไม่สนใจน้องแปดอีกแล้ว…
ฉู่หลิวเย่วกุมหน้าผากอย่างไม่มีทางเลือก
นางไม่มีทางจัดการน้องแปดได้จริงๆ…
เมื่อเฉิงอีเหลือบมองน้องแปดครู่หนึ่ง
น้องแปดจึงกระตือรือร้นขึ้นทันที และเค้นเสียงขึ้นเบาๆ อย่างไม่พอใจ แต่นางยังคงยืนอยู่อย่างจริงจัง
ทั่วทั้งใต้หล้านี้มีเพียงเฉิงอีเท่านั้นที่ควบคุมนางได้
และจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้
ทว่า…พลังของเฉิงอีแข็งแกร่งกว่านางมากนัก เมื่อพูดว่าลงมือก็ลงมือทันทีโดยไม่มีแม้แต่มีความเมตตาใดๆ
แม้แต่ฉู่หลิวเยว่ที่ต้องเผชิญกับใบหน้าที่สวยงามและมีเสน่ห์เช่นนี้ ล้วนอดไม่ได้ที่ต้องใจอ่อน แต่กับเฉิงอีกลับไม่เคยเป็นมาก่อน
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองไปรอบๆ
ในครั้งนี้มากันทั้งหมดหกคนรวมทั้งเฉิงอีและน้องแปด
นอกจากพวกเขาสองคนแล้วยังมีซื่อจิง อวี๋จิ่วและสือฟังล้วนมาด้วยกันทั้งหมด
อีกทั้งยังมีน้องสิบสามด้วย
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามองและกวักมือเรียกเจ้าสิบสามน้อย
“สิบสาม รีบมานี่ ช่วงนี้ข้าเห็นเจ้าสูงขึ้นอีกแล้วใช่หรือไม่”
เมื่อก่อนน้องสิบสามคอยตามหลังทุกคนอย่างเชื่อฟังมาโดยตลอด ตอนนี้เมื่อได้ยินฉู่หลิวเยว่เรียกเขาก็ชอบใจขึ้นมาทันที
ดวงตาสดใสในวัยเด็ก ดูน่ารักสดใส และร่างกายที่กำลังโตกลับดูผอมบางลงเล็กน้อย
ระหว่างคิ้วยังหลงเหลือความเยาว์วัยอยู่บางส่วน แต่ซ่อนความเรียบเฉยบางส่วนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหน้า
สิ่งนั้นคงเป็นสัญลักษณ์ของการค่อยๆ เติบโต
ฉู่หลิวเยว่ลุกยืนขึ้น เพื่อรอน้องสิบสามวิ่งเข้ามาหา และนางเพิ่งรู้ว่าเขาสูงขึ้นกว่านางขึ้นอีกนิดแล้ว


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...