………………..
ทัณฑ์สวรรค์ของทางฝั่งนั้นที่เตรียมตัวจะผ่าลงมาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ก็ถอยหลังลงไปด้วยความตื่นตระหนก!
ทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่ด้านหน้าสุดก็ถูกปราณกระบี่บดขยี้ไปแล้ว!
เมื่อเห็นประกายแสงวิบวับที่อยู่บนท้องฟ้า ซานซานก็ถอยหลังไปอีกสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เหงื่อท่วมทั้งร่างกายขนลุกชูชัน
…นายท่านแสดงพลังของตนเองแล้ว น่าหวาดกลัว! น่าหวาดกลัวอย่างมาก!
แต่ในตอนนั้นเอง ในที่สุดลมปราณของทางด้านสือซานก็ระเบิดขึ้นมาจนน่าตกใจ!
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง
ลมปราณรอบกายของสือซานโคจรขึ้นอย่างรวดเร็ว ลำแสงสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนก็หายไปที่ใต้ผิวหนังของเขาอย่างรวดเร็ว!
จากนั้นเขาก็เบิกตาโพลง!
ลำแสงสีเงินขาวสว่างวาบออกมาจากดวงตาของเขา!
คมกริบ!
เย็นยะเยือก!
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
สือซาน…ทะลวงด่านได้สำเร็จแล้ว!
เมฆดำเหนือน่านฟ้ากระจายหายไปอย่างรวดเร็ว
รอบข้างเกิดความวุ่นวาย
ยอดเขาที่สือซานยืนอยู่นั้นถูกทัณฑ์สวรรค์ผ่าลงมาจนกลายเป็นสีดำไหม้เกรียม
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองโดยรอบ นางรู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ให้สือซานทะลวงด่านภายในจวนเยว่
“นายท่าน!”
สือซานกำหมัดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและดีใจ จากนั้นก็วิ่งเข้ามาหาฉู่หลิวเยว่
แต่ดวงตาคู่นั้นยังสว่างกระจ่างใส และไม่สามารถปกปิดความยินดีได้มิด
“นายท่าน! ข้าทะลวงด่านได้แล้ว!”
อีกทั้งเขายังสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความแข็งแกร่งของเขานั้นเพิ่มขึ้นสูงอย่างก้าวกระโดด!
เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย!
การทะลวงด่านพลังจิตวั่งเสิ่นได้สำเร็จ…มันแตกต่างออกไปจริงๆ!
ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
สือซานทะลวงทัณฑ์สวรรค์ได้แปดสาย นับว่าเป็นสิ่งที่ยอดยุทธ์เท่านั้นที่ทำได้
ความแข็งแกร่งของเขาในอนาคตจะต้องไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน
แต่ประเด็นสำคัญก็คือตอนนี้เขาเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้น
ด้วยพรสวรรค์เช่นนี้…มิน่าล่ะอาจารย์ถึงให้ความสำคัญกับเขาตั้งแต่แรก
“ไม่เลวเลย!”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นปรากฏเป็นรอยยิ้ม
ไม่หลงเหลือท่าทางที่โหดเหี้ยมขณะที่จัดการกับทัณฑ์สวรรค์อย่างเมื่อครู่นี้เลย
ซานซานถอนหายใจออกมา
ในหมู่พวกเขาน่าจะมีเพียงสือซานคนเดียวที่สามารถเพลิดเพลินกับอันใดเหล่านี้ได้
เขากระแอมไอออกมาหนึ่งเสียง แล้วพูดว่า
“นายท่าน ในเมื่อสือซานทะลวงด่านได้สำเร็จแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”
“ยังไม่ต้องรีบ”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า นางหันกลับไปทางยอดเขาทั้งหลายเหล่านั้น
“ข้ายังมีบางอย่างที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้”
ขณะที่พูดนางก็กระชับกระบี่ซื่อเซียวในมือแน่น ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปที่นั่น
“นายท่าน พวก…พวกเราอย่าไปทางนั้นเลยขอรับ”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น
“เหตุใดหรือ?”
ซานซานมีสีหน้าลำบากใจ จากนั้นก็เกาหัว
“คือว่า…คือ…”
“เจ้ารู้ว่าที่ตรงนั้นเป็นถิ่นของสำนักกระบี่ทมิฬใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
“ไม่ใช่ขอรับ”
ซานซานได้ยินนางพูดเช่นนั้น จึงรู้ว่านางเข้าใจผิดไปแล้ว ดังนั้นจึงรีบอธิบายว่า
“ท่านก็รู้ว่าท่าเรือดอกท้อนั้นมีอาณาเขตกว้างขวาง เทือกเขาสลับซับซ้อน แม้ว่าคนของสำนักกระบี่ทมิฬต้องการจะยึดครองดินแดนมาโดยตลอด แต่ในตอนนี้เขายังไม่สามารถยืดมือมายาวขนาดนี้ได้ เพียงแต่ในวันนี้ของทุกๆ เดือน พวกเขาจะเลือกสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อคัดเลือกผู้บำเพ็ญเพียรเข้าสำนัก ถือว่าเป็นการทดสอบขั้นสุดท้าย”
“แต่ละครั้งสถานที่ที่เขาคัดเลือกนั้นไม่เหมือนกัน แต่โดยพื้นฐานแล้วมันก็ไม่ได้ไกลจากกันมาก เดือนที่แล้วพวกเขาเลือกบริเวณใกล้เคียงนี้ ดังนั้นข้าจึงคาดเดาว่าครั้งนี้พวกเขาก็น่าจะเลือกแถวนี้ เมื่อได้ยินอวี๋จิ่วพูดว่าท่านมาที่นี่ ข้าจึงรีบติดตามมา เพราะเกรงว่าท่านจะได้เจอกับพวกเขา…”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...