เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1884

………………..

สีหน้าที่สงบนิ่งปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของเขา ทั้งสุขุมเยือกเย็นราวกับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้เลย

ระหว่างคิ้วและนัยน์ตา เคลื่อนไหวด้วยความสง่างาม เห็นได้เพียงแต่ความใส่ใจและเอาอกเอาใจของคนผู้นั้นแม้จะดูเหมือนนางทำให้ทุกอย่างที่นี่ดูวุ่นวายไปเสียหมดแต่เขาก็ยังคอยตามใจ

มั่วอวิ๋นโมโหจนพูดไม่ออกและร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว

สองคนนี้…สองคนนี้ บังอาจเกินไปแล้ว!

“หรงซิว! อย่าโกรธที่ข้าไม่ได้บอกเจ้าเลย! ที่แห่งนี้คือท่าเรือดอกท้อ! ถ้าเกิดนางทำเรื่องอันใดที่ล้ำเส้นแล้วล่ะก็ ทุกคนที่ท่าเรือดอกท้อจะถูกฝังไปกับนางทั้งหมด!”

ทว่าความว่างเปล่าในบริเวณรอบๆ เริ่มพังทลายลงอย่างรวดเร็วจนมิอาจควบคุมเอาไว้ได้!

สถานการณ์เช่นนี้มั่วอวิ๋นเคยประสบมาก่อนแต่เขากลับไม่เคยมีประสบการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้

หางคิ้วของหรงซิวยกขึ้นเล็กน้อย

“ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่ารองเจ้าสำนักมั่วยังมีจิตใจเช่นนี้ สองปีมานี้คนที่ตายแทนสำนักกระบี่ทมิฬดูเหมือนจะมีไม่น้อยใช่หรือไม่ หากรองเจ้าสำนักกระบี่ทมิฬจริงใจต่อใต้หล้าและใส่ใจทุกคนอย่างแท้จริง กลับไม่สู้ทำร้ายคนให้น้อยลง คิดเช่นนี้น่าจะทำให้ได้ประโยชน์มากกว่าไม่น้อย”

คำพูดของหรงซิวทำให้มั่วอวิ๋นเป็นใบ้จนอะไรพูดไม่ออก

แน่นอนว่าเจ้าไม่ได้สนใจความเป็นความตายของคนที่ท่าเรือดอกท้อเหล่านี้เลย

เจ้าแค่เป็นกังวลว่าของที่พวกฉู่หลิวเย่วตามหามานาน แต่ไม่สามารถครอบครองได้ จะได้มันไปครองไว้เพียงคนเดียว!

ทว่าเหตุผลเช่นนี้ แน่นอนว่าพูดออกมาไม่ได้

มั่วอวิ๋นทำได้เพียงมีท่าทีกังวลใจอยู่อย่างนั้น

ลั่วเหยียนที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าเคร่งขรึม และครุ่นคิดไปมาอยู่ในใจ

เห็นได้ชัดว่าที่มั่วอวิ๋นกังวลเช่นนี้ต้องมีสาเหตุอื่นเป็นแน่

หรือว่า…จะเป็นเพราะเปลวไฟที่อยู่บนเขานั่น?

หนานอวี่สิงเป็นผู้แข่งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้ว เหตุใดถึงสู้ไม่ชนะฉู่หลิวเยว่ที่มีร่างเป็นแค่ระดับเทพขั้นสูง

หรือว่าในช่วงเวลาอันสั้นนี้พละกำลังของฉู่หลิวเยว่มีระดับที่แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วอย่างนั้นหรือ

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายติดอยู่ในสถานการณ์อับจนหนทาง มีคนเข้ามาจากทางด้านหลัง

ลมปราณนี้รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง จึงทำให้หัวใจของลั่วเหยี่ยนสั่นไหวพลางหันกลับไปมองและรู้สึกมีความสุขขึ้นมาในทันที

หลายคนที่ตามมาต้องเป็นคนตระกูลหนานที่มาพร้อมพวกเขาก่อนหน้านี้!

ทางด้านหลังพวกเขายังมีคนของสำนักกระบี่ทมิฬ

แต่ทว่าในไม่ช้าลั่วเหยี่ยนก็พบว่าจำนวนคนผิดแปลกไป

เดิมทีมีผู้อาวุโสทั้งหมดมีแปดท่าน แต่ขณะนี้เหลือเพียงสี่ท่านเท่านั้น

ลั่วเหยี่ยนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างมาก

เขาก้าวขึ้นมาด้านหน้าในทันที

เมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้จึงมองเห็นร่างของทุกคนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ไหลออกมา

ดูเหมือนพวกเขาได้ผ่านการต่อสู้กันมาอย่างดุเดือด

“เหตุใดถึงเหลือเพียงพวกท่านสี่คน คนที่เหลือล่ะ?”

ลั่วเหยี่ยนถามขึ้นด้วยความร้อนใจ

ผู้อาวุโสทุกท่านสบตากันด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“เช่นนั้นคนที่เหลือ ทั้ง…”

ลั่วเหยียนรู้สึกหวาดหวั่นใจขึ้นมา

อีกทั้งสี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนเป็นผู้แข่งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

คิดไม่ถึงว่าแม้แต่พวกเขาก็มิอาจช่วยชีวิตใครไว้ได้…

เขาทนไม่ไหวจึงพูดขึ้นว่า

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หากดูจากพลังของพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า!”

ก่อนหน้าเขากับมั่วอวิ๋นไล่ตามาทางด้านนี้ หลังจากนั้นหรงซิวกับเฉิงอีก็ตามไปอย่างรวดเร็ว

แต่ซานซานและคนอื่นๆ กลับแยกกันไปสักพักหนึ่งถึงตามมา

ในเวลานั้นเขาคิดว่าคงเป็นเพราะพวกเขาใช้วิธีอะไรบางอย่างถึงได้รั้งคนของตระกูลหนานกับสำนักกระบี่ทมิฬเอาไว้ได้

ใครจะรู้…ว่าได้เอาชีวิตคนไปมากมายขนาดนั้น!

ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความลำบากใจ

“ลั่วเหยี่ยน ท่านคงยังไม่ทราบทั้งหมด พวกเขาเป็นคนของสกุลเยว่ อีกทั้งมีวิถีค่ายกลที่แข็งแกร่งนัก!”

เมื่อลากคนเหล่านี้ของจวนเยว่ออกมาทีละคน แน่นอนว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจำนวนเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเขา

ใครเล่าจะรู้ว่าคนกลุ่มนั้นได้คิดกลอุบายเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว!

บทที่ 1887 สังเวยด้วยเลือด 1

บทที่ 1887 สังเวยด้วยเลือด 2

บทที่ 1887 สังเวยด้วยเลือด 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์