………………..
เสียงเย็นชาและทุ้มต่ำดังทั่วระหว่างสวรรค์และโลกแห่งนี้ เสียงที่คมชัดกระทบเข้าในหูของทุกคน!
เดิมทีคนของสำนักกระบี่ทมิฬได้ตายทั้งหมด แต่บางคนของตระกูลหนานหลังจากได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกฟังไม่เข้าหูยิ่งนัก!
คำพูดเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าพูดให้พวกเขาฟัง!
หรงซิวไม่ลงมือแต่อย่างใด หากลงมือเขาคงใช้วิธีสังหารโดยตรงเท่านั้น!
เขากำลังเชือดไก่ให้ลิงดู[1]!
ลั่วเหยี่นนเต็มไปด้วยความโกรธ และมองภาพเมฆาเคลื่อนคล้อยที่กำลังลุกไหม้อยู่ตรงหน้า
ภาพเมฆาเคลื่อนคล้อยคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อจึงไม่เสียหายอย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาถึงไม่ได้กังวลเปลวไฟของฉู่หลิวเย่วที่ตั้งใจทำลายมัน
ทว่าเขาเป็นคนชัดเจนอย่างมาก เมื่อถูกฉู่หลิวเยว่ก่อกวนเช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางใช้ภาพเมฆาเคลื่อนคล้อยหลบหนีออกไปได้อีก!
ความว่างเปล่าทุกทิศทุกทางล้วนถูกบีบเข้าตรงกลางอย่างบ้าคลั่ง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานท่าเรือดอกท้อทั้งหมดนี้คงพังทลายลงทั้งหมด!
“พวกเราแค่กลัวว่าจะออกไม่ได้แล้ว…”
สีหน้าของผู้อาวุโสหลายท่านล้วนไม่น่ามองยิ่งนัก
ก่อนพวกเขาจะมา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสถานการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!
หนาอวี่สิงตายแล้วมิอาจพูดอันใดได้ แม้แต่พวกเขาทั้งหมดเกรงว่าจะต้องถูกฝังที่นี่เช่นเดียวกัน!
“ต่อให้มั่วอวิ๋นไม่ใช่คู่ต่อสู้กับหรงซิว แต่พวกเขานั่น…”
คำพูดนี้หมายความว่าพลังของพวกเขาสู้มั่วอวิ๋นไม่ได้
เพียงแค่มั่วอวิ๋นลงมือเมื่อครู่นี้ พลังที่ปรากฏออกมาแข็งแกร่งอย่างมาก
อีกทั้งในเวลานี้เขาตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น แทบจะทุบหม้อข้าวตนเองก็ไม่ปราณ!
หากเป็นเช่นนี้เขาก็เป็นได้แค่ลูกน้องของหรงซิวต่อไป!
สถานการณ์ของพวกเขาที่เหลือเหล่านี้สามารถดีกว่านี้ได้อย่างนั้นหรือ
“ข้าเห็นพลังของหรงซิว จึงเห็นได้ชัดอยู่ก่อนแล้วว่าพลังของเขาเหนือกว่าเทพศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาทั่วไปเสียอีก!
ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกัดฟันพูดขึ้นว่า
“…แต่ลมปราณของเขาคือเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน…”
ผู้อาวุโสอีกท่านรีบพูดขึ้นในทันที
“บางที…เขาอาจยืมพลังอันใดบางอย่างมาใช้จากข้างนอก”
ผู้อาวุโสหลายท่านมีความเห็นต่างกัน
แต่พวกเขารู้ว่า ในเวลานี้หากรู้เรื่องนี้แล้วล้วนไม่มีประโยชน์อันใด
จู่ๆ ลั่วเหยี่ยนแหงนหน้ามอบนท้องฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อมันพังทลายลงทีละน้อยๆ จนหลุมดำได้แผ่กระจายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนสัตว์อสูรที่อ้างปากกว้างเต็มไปด้วยเลือด เพื่อจะกลืนกินทุกสิ่ง!
เมฆดำที่ผันผวนนับไม่ถ้วนได้ถูกลืนกินไปในเวลานี้
ทัณฑ์สวรรค์จำนวนที่เหลือทั้งหมด ยังคงกวัดแกว่งไปมาทุกทิศทาง
นั่นคือทัณฑ์สวรรค์ที่ถูกพิธีสังเวยเลือดเรียกมาก่อนหน้านี้
เมื่อยังไม่ร่วงลงมาทั้งหมด แต่การสังเวยเลือดได้พังทลายลงแล้วเหลือเพียงทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้เท่านั้นที่ยังฟาดฟันไปทั่วทุกทิศทาง
ในเวลานี้ดูเหมือนได้รับผลกระทบจากแรงกดดันแห่งความว่างเปล่า ทัณฑ์สวรรค์เหล่านี้จึงเริ่มมาบรรจบกันตรงกลาง
สิ่งที่ทำให้คนประหลาดใจยิ่งกว่าเมื่อพวกมันเหมือนกำลังหลอมหลวมเข้าด้วยกัน
ประเด็นสำคัญที่สุดคือตำแหน่งที่พวกมันรวมตัว…กำลังอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะของฉู่หลิวเยว่!
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ลั่วเหยี่ยวพูดกระซิบกระซาบขึ้นมาในทันที
“…ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างใด เขาสามารถขัดต่อสวรรค์ได้อย่างนั้นหรือ”
สวรรค์หรือ
คำพูดนี้เจ้าหมายความว่าอันใด
หลายคนสบตากันและมองตามสายตาของลั่วเหยี่ยนโดยไม่รู้ตัว
เสียงลมกระโชกรุนแรง โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
ทุกสิ่งดูไม่มีอันใดต่างกันเลย
แต่…ทัณฑ์สวรรค์บนฟ้าที่กำลังรวมตัวอยู่นั้น
แสงเจิดจ้างดงามได้พุ่งออกมาจากตรงกลางในทันที!
ผู้อาวุโสหลายท่านอ้างปากค้างด้วยความตกใจ



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...