………………..
หนานอีฝานส่ายหน้า
“ไม่เคย”
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ มีข่าวลือเกี่ยวกับฉู่หลิวเยว่ไม่น้อยเลย
โดยเฉพาะหลังจากที่นางแต่งงานกับหรงซิวแล้ว ข่าวลือที่เกี่ยวข้องก็แพร่สะพัดมากยิ่งขึ้น
ในตอนแรกทุกคนคิดว่านางมีภูมิหลังต่ำต้อย หลังจากผ่านเรื่องราวมากมายก็ทำให้ผู้คนรู้ว่า ความจริงแล้วเบื้องหลังของนางนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด!
แม้ว่าหนานอีฝานจะเคยพบฉู่หลิวเยว่มาก่อน แต่กลับไม่เคยเห็นสัญลักษณ์ของนางเลย
“เหตุใดพี่อี้ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ”
หนานอีฝานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อี้เหวินเทายิ้มแล้วหลุบตาลงต่ำ
“ไม่มีสิ่งใด แค่นึกขึ้นมาได้เท่านั้น ทั้งยังรู้สึกสงสัยเท่านั้นเอง…ได้ยินมาว่าในการทดสอบระดับแห่งสายเลือดที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ในตอนแรก ผลการทดสอบของนางนั้นเหมือนกับโอรสสวรรค์ทุกประการ…หากมาจากด้านนอกพรมแดนอาณาจักรเสิ่นซวี่จริง จะมีพลังแห่งสายเลือดได้อย่างไร”
ต้องบอกก่อนว่า บรรพบุรุษจำเป็นต้องทะลวงถึงระดับปลดพันธนาการสูงสุดเท่านั้น ทายาทรุ่นหลังถึงจะมีพลังแห่งสายเลือด
คนภายนอกอาณาจักรเสิ่นซวี่ไม่มีทางทำได้แน่นอน
“ซั่งกวนจิ้งเป็นบรรพบุรุษของนางไม่ใช่หรือ”
หนานอีฝานพูดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็หยุดนิ่งไป
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
แม้ว่าซั่งกวนจิ้งจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเคยเป็นอันดับหนึ่ง แต่ตอนที่เขามาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่ เขาก็ได้สร้างราชวงศ์เทียนลิ่งไว้แล้ว
อีกทั้งต่อมาเขาก็ได้เจอเรื่องยุ่งยากภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ จิตวิญญาณแตกสลาย หลับลึกไปกว่าพันปี
หนานอีฝานมองไปทางอี้เหวินเทาแล้วขมวดคิ้ว
“เหตุใดพี่อี้ถึงให้ความสนใจกับ…ซุ่งกวนเยว่ผู้นี้เล่า”
อี้เหวินเทาหัวเราะขึ้น
“แค่รู้สึกสงสัยเท่านั้น ในเมื่อพี่หนานก็ไม่รู้ ถ้าเช่นนั้น…ก็ไม่มีอันใดให้ถามอีกแล้ว”
เขาเป็นคนที่หัวแข็งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงทำให้หนานอีฝานหมดความอดทน
“พี่อี้ พวกเราอย่าเพิ่งสนใจเรื่องเหล่านี้เลย ข้าจะขอถามเป็นครั้งสุดท้าย ข้อเสนอที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ เจ้าจะตอบตกลงหรือไม่”
อี้เหวินเทาจมอยู่ในห้วงความคิด
ภายในห้องนั้นปกคลุมด้วยความเงียบ
เวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่าน
แต่ละวินาที แต่ละนาที สำหรับหนานอีฝานแล้วมันเป็นความทุกข์ทรมานอย่างมาก
แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
หลังจากผ่านไปสักพัก อี้เหวินเทาก็พยักหน้า
“ข้าตกลง แต่ว่าข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
…
หนานอีฝานและอี้เหวินเทาเจรจาภายในห้องเป็นเวลานาน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามประตูห้องถึงพึ่งเปิดออกมา
หนานอีฝานประสานมือกล่าวคำอำลา
“พี่อี้ไม่ต้องส่งแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน”
อี้เหวินเทารู้ว่าเขานั้นอึดอัดใจมากที่ต้องอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่ได้รั้งเขาไว้ ก่อนพยักหน้า
“พี่หนานระวังตัวด้วย”
สีหน้าของอี้เหวินเทายังปกติดังเดิม เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาราบเรียบ
คนที่มาใหม่นั้นคือน้องรองของเขา…อี้เหวินจั๋ว
“พี่ใหญ่ คนเมื่อครู่นี้คือ…หนานอีฝาน”
เมื่ออยู่ต่อหน้าอี้เหวินเทา อี้เหวินจั๋วรักษาท่าทีได้ดีมาก
ดูจากภายนอกแล้ว อี้เหวินจั๋วน่าจะมีอายุมากกว่าอี้เหวินเทา แต่ความเป็นจริงอี้เหวินเทาอายุมากกว่าเกือบสิบปีเลยทีเดียว
แต่เป็นเพราะว่าอี้เหวินเทามีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง สามารถบำเพ็ญเพียรได้อย่างราบรื่น ดังนั้นจึงเห็นว่าเขาดูอ่อนวัยกว่าอีกฝ่ายมาก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...