เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1977

………………..

เมื่อฉู่หลิวเยว่พูดจบ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็หันไปมองอี้เหวินเทาอย่างพร้อมเพรียง

โดยเฉพาะผู้อาวุโสทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านข้าง พวกเขามีสีหน้ามึนงงและสงสัย

ท่านประมุขมาที่นี่เพื่อท่าเรือดอกท้อไม่ใช่หรือ?

ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นแล้วจะเพื่ออันใดได้อีก?

หรือว่าที่แห่งนี้มีอันใดล้ำค่ามากกว่าท่าเรือดอกท้อนี้อีก?

แต่ในเวลาแบบนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกหก…

ผู้อาวุโสทั้งสองสบสายตากันด้วยความสงสัย

ถ้าอี้เหวินเทามาที่นี่เพราะประโยชน์ส่วนตัวจริงๆ แล้วเขานำกำลังของตระกูลอี้ทั้งหมดมา…

ความเงียบที่กระจายตัวอยู่โดยรอบเริ่มกดดันจนทำให้คนหายใจไม่ออก

ทันใดนั้นเองหัวใจของอี้เหวินเทาก็สับสนวุ่นวายและด้านชา

เขาระงับความอยากที่จะหันศีรษะกลับไปมอง เขาหลุบตาลงต่ำเล็กน้อยเพื่อปกปิดคลื่นอารมณ์ทั้งหมด

หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชาทว่าร้อนรนว่า

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอันใดอยู่!”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินหน้าต่อไป ราวกับไม่อยากจะสนใจฉู่หลิวเยว่ที่กำลัง “พูดจาไร้สาระ”

ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่

“ประมุขอี้รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ช่าง ไม่ว่าอย่างใด หลังจากนี้ไป ขอให้เจ้าเข้าใจว่า มันไม่ใช่ของของเจ้า เจ้าก็เลิกคิดเลิกฝันไปได้เลย ไม่อย่างนั้นครั้งหน้า…ข้าเองก็ไม่กล้ารับประกันว่าตระกูลอี้จะยอมจ่ายค่าตอบแทนมากมายขนาดนี้เพื่อชีวิตของเจ้าหรือไม่”

คำพูดประโยคนี้เหมือนเป็นตะปูที่เข้ามาทิ่มแทงหัวใจของอี้เหวินเทาอย่างแรง จนแทบทำให้เขากระอักเลือด!

เขาเดินไปที่ข้างกายของจวินจิ่วชิงด้วยท่วงท่าแข็งทื่อ

ทั้งสองคนประสานสายตากัน

จวินจิ่วชิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เหมือนกับกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง

หัวใจของอี้เหวินเทาเต้นระส่ำ จวินจิ่วชิงคงจะไม่เชื่อคำพูดของฉู่หลิวเยว่ใช่หรือไม่?

ตอนที่เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก จวินจิ่วชิงกลับหัวเราะออกมา

“ไม่มีอันใดดีไปกว่าท่านประมุขกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเรารีบกลับกันเถอะ”

ขณะที่เขาพูด ท่าทียังคงมีความเคารพและเกรงใจ

เหมือนกับว่ากระแสคลื่นลมเมื่อก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ภาพมายาเท่านั้น

หัวใจของอี้เหวินเทาจมดิ่ง

เขาเพิ่งค้นพบว่า จวินจิ่วชิง…มีความทะเยอทะยานมากกว่าที่เขาคิดเสียอีก! อีกทั้งวิธีการก็ยังแข็งแกร่งมาก!

เหตุผลที่เขาเลือกจวินจิ่วชิงเป็นนายน้อยก็เพราะว่า คนรุ่นเยาว์ของตระกูลอี้ในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงจวินจิ่วชิงได้เลยสักคน แล้วอีกอย่างหนึ่ง เมื่อจวินจิ่วชิงอยู่ต่อหน้าเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีท่าทีหวาดกลัว มีมารยาท และให้ความเคารพอยู่เสมอ

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกพอใจจวินจิ่วชิงมาก ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่ามีคนของตระกูลอี้จะคัดค้าน แต่เขาก็ยังเลือกอีกฝ่ายให้ขึ้นตำแหน่งนายน้อย

แต่ใครจะรู้เล่าว่า…

ทั้งหมดนั้นคือการเสแสร้ง!

อี้เหวินเทาสามารถมั่นใจได้เลยว่า ตั้งแต่วันแรกที่จวินจิ่วชิงมาถึงตระกูลอี้ เขาก็ได้วางแผนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว!

แต่เรื่องมาถึงตอนนี้ กว่าเขาจะเข้าใจมันก็สายเกินไปแล้ว

ตอนนี้อี้เหวินเทาหวังว่า คำพูดเมื่อครู่นี้ของฉู่หลิวเยว่จะไม่ทำให้จวินจิ่วชิงสงสัยในตัวเขา

ต่อให้สงสัยแล้วก็อย่าสืบค้นจนถึงที่สุด!

เขาฝืนพยักหน้า

อีกฝ่ายไม่ได้พูดอันใดมาอีก แต่ก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปสักพัก เงาร่างของพวกเขาก็หายไปจากสายตาอย่างสิ้นเชิง

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเกลียดอี้เหวินเทามากเลยทีเดียวนะ”

หรงซิวพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น

“เหตุใดถึงคิดเช่นนั้นล่ะ?”

หรงซิวใช้นิ้วชี้แตะที่หน้าผากของนางเบาๆ

“เจ้ารู้อยู่แก่ใจ ยังจะถามคนอื่นอีก”

เมื่อครู่นี้ตอนที่อี้เหวินเทาเดินไป เดิมทีนางจะไม่พูดอันใดแล้ว

แต่สุดท้ายนางก็พูดออกมา

เพราะอันใดน่ะหรือ?

แน่นอนก็เป็นเพราะว่านางไม่อยากให้อี้เหวินเทากลับไปมีชีวิตที่ดี

บางครั้ง ขอเพียงแค่มีเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัย มันก็สามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย

เดิมทีสถานการณ์ของอี้เหวินเทาก็ยากลำบากอยู่แล้ว แล้วนางยังหนุนคลื่นลมให้สูงเช่นนี้* หลังจากกลับไปสถานการณ์ของเขาจะเป็นอย่างใดนั้น แค่คิดก็สามารถคาดเดาได้

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ

“คนที่รู้จักข้าดี ก็คือสามีนั่นแหละ”

บทที่ 1981 ม่านพลัง 1

บทที่ 1981 ม่านพลัง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์