หลังจากฉู่หลิวเยว่จัดการศพทั้งสามคนนั้นจนสะอาดหมดจดแล้ว ก็หยิบหอบผ้าข้างๆ ขึ้นมา
นั่นคือฉู่หลิวเยว่คนเดิม
เมื่อเปิดมันออกมาแล้วสำรวจดูข้างใน ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับขมวดคิ้ว
ข้างในหอบผ้าเต็มไปด้วยตั๋วเงิน แล้วยังมีพวกเครื่องประดับระเกะระกะไปหมด
แน่นอนว่าแม้สิ่งของเหล่านี้จะไม่เข้าตาซั่งกวนเยว่ผู้ที่เคยเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์ แต่สำหรับเด็กสาวตระกูลฉู่กลับเป็นโชคหล่นทับเสียจริงๆ
นี่นางต้องหนีอย่างนั้นหรือ
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเยาะ
ไม่ต้องพูถึงนิสัยอ่อนแอปวกเปียกของฉู่หลิวเยว่คนก่อน นางคงไม่มีความกล้าเช่นนี้ หรือต่อให้นางอยากหนี นางจะทิ้งฉู่หนิงผู้เป็นบิดาได้ลงคอหรือ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉู่หลิวเยว่ถูกคนในตระกูลฉู่รังแกไม่ว่าจะสูงหรือต่ำศักดิ์กว่า นางจะมีโอกาสถือตั๋วเงินและครอบครองเครื่องประดับมากมายเยี่ยงนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่ายัดของให้นางเป็นหัวขโมย
หากพวกของซ่งเหลียนสามคนนั้นฆ่าฉู่หลิวเยว่ตาย เพื่อรักษาหน้าตาวงตระกูล ตระกูลฉู่จะต้องทำทีสืบสาวราวเรื่องแน่นอน
เมื่อทุกคนเจอศพของฉู่หลิวเยว่ แล้วเห็นสิ่งของพวกนี้ก็จะต้องคิดว่านางฉวยโอกาสออกมาซื้อของและขโมยของพวกนี้แล้วหนีไป
หึ ต่อให้ตายก็ไม่สาสม!
หลังจากฆ่านางให้ตาย ฉู่เซียนหมิ่นนี่ยังต้องการสาดโคลนใส่นาง ทำให้นางไม่มีวันกลับตัวได้อีก!
ในเมื่อนางยืมร่างของเจ้าของเดิมอย่างฉู่หลิวเยว่แล้ว เช่นนั้นนางจะต้องช่วยฉู่หลิงเยว่คนเดิมจัดการเรื่องนี้ให้อย่างแน่นอน
อีกอย่าง สถานะของฉู่หลิวเยว่ยังสะดวกต่อการจัดการเรื่องของนางในอนาคตอีกด้วย
หลังจากตรวจสอบสิ่งของเรียบร้อยแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็มองไปรอบๆ สามารถได้ยินเสียงแว่วของกระแสน้ำไหลรินได้
ตอนนี้ร่างของนางเต็มไปด้วยคราบเลือด และต้องการอาบน้ำจริงๆ โชคดีที่ในหอบผ้ายังมีเสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วอยู่บ้าง ช่างสะดวกสบายเสียจริง
…
หลังจากเดินผ่านป่าไม้อันเขียวชอุ่ม ผ่านไปสักประมาณสิบห้านาที ในที่สุดก็เห็นทะเลสาบสี่เขียวครามปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่
ที่น่าประหลาดใจก็คือ ยังมีชั้นไอหมอกสีขาวลอยอยู่เหนือพื้นผิวทะเลสาบอีกด้วย
แม่ว่านางจะยืนอยู่ที่ริมทะเลสาบ แต่เห็นเพียงน้ำสีเขียวครามกระเพื่อมเบาๆ ในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น แล้วระยะทางนั้นกว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา
ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือเข้าไปผ่านไอหมอกสีขาวนั้นก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดเล็กน้อย
นี่คือหมอกสีขาวที่เกิดจากการควบแน่นของพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งนัก!
นางสามารถจินตนาการได้ว่า หากได้ฝึกพลังเพียร ณ ที่แห่งนี้ ต้องได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวแน่!
ในฐานะองค์หญิง ซึ่งเป็นผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไปของราชวงศ์เทียนจิน นางเข้าใจสถานการณ์ของแคว้นต่างๆ ที่ตกเป็นประเทศราชของราชวงศ์เทียนจินเป็นอย่างดี
สถานที่แห่งนี้ แม้จะเทียบกับสถานที่ฝึกพลังเพียรของนางเมื่อครั้งอดีตชาติไม่ได้ แต่ได้ฝึกในแคว้นเย่าเฉินเล็กๆ แห่งนี้ ก็นับว่าดีมากแล้วล่ะ
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงคำรามแหบต่ำดังขึ้นมา!
นางเงยหน้าขึ้นไปมอง กลับพบว่ามีสิงโตหิมะตัวหนึ่งกำลังใช้ดวงตาสีฟ้าราวกับน้ำแข็งของมันจ้องมองนางอยู่ที่ริมทะเลสาบ!
นี่คือสัตว์อสูรระดับสูงตัวหนึ่ง!
จากนั้น ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังคิดว่าจะรับมือกับมันอย่างไรอยู่นั้น ทันใดนั้นมันกลับสะบัดหางไปมา โน้มตัวลงไปใหม่อีกครั้งแล้วหลับตาลง
ฉู่หลิวเยว่มองอย่างตะลึง
นี่ มันไม่ได้จะตั้งท่าโจมตีนางหรอกหรือ
โดยปกติสัตว์อสูตรประเภทอารักขาเช่นนี้มักจะขี้หงุดหงิดโมโหร้ายถึงจะถูกต้องนี่นา…
นางยังไม่ทันได้คิดเสร็จสรรพ สิงโตตัวนั้นก็ลืมตาขึ้นมามองนางปราดหนึ่ง
หลังจากนั้นมันก็ลุกขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้ามาตรงที่นางยืนอยู่
เมื่อเดินมาถึงข้างหน้านาง อยู่ๆ สิงโตขาวก็ยกอุ้งเท้าขึ้น…เกี่ยวเอาหอบผ้าของฉู่หลิวเยว่ลงมา หลังจากนั้นก็เอาหัวชนเอวของนาง
“เจ้าอยากให้ข้าเข้าไปหรือ”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างไม่แน่ใจนัก
สิงโตขาวขยับก้นนั่งลง ดวงตาสีฟ้าราวกับน้ำแข็งคู่นั้นมองหน้ฉู่หลิวเยว่ ราวกับกำลังจะบอกว่าหากเจ้าพูดว่าไม่เข้าไปอีก ข้าก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!
ฉู่หลิวเยว่ “…”
นางหัวเราะ และคิดว่าเจ้าสิงโตตัวนี้ก็น่ารักดี นางก็เลยลูบหัวของมัน ส่วนเจ้าสิงโตขาวก็หลับตาลงด้วยความพึงพอใจ
คราวนี้นางถึงจะถอดเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดออกมา แล้วลงน้ำทะเลสาบ ปล่อยให้ร่างกายของนางถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลสาบอันอุ่นร้อน
พลังที่มากพอและอบอุ่นพุ่งเข้าใส่ร่างของนางในทันที
ฉู่หลิวเยว่ปิดเปลือกตาสนิท แล้วเริ่มตรวจสอบสภาพร่างกายนี้อย่างละเอียด
…
ในแผ่นดินนี้ ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพนับถือ
ผู้ที่ฝึกพลังเพียร สามารถแบ่งออกเป็นสี่ประเภท
ประเภทที่หนึ่งคือ ผู้ฝึกยุทธ์ เป็นผู้ดูดซับพลังแห่งฟ้าดิน แล้วนำพลังนั้นมาหลอมรวมกับเลือดเนื้อของตนเอง
อีกประเภทหนึ่งคือ ปรมาจารย์ สามารถหยั่งรู้กฎการเคลื่อนไหวของพลังแห่งฟ้าดิน โดยใช้อักขระมารวมพลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์