ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 2

หลังจากฉู่หลิวเยว่จัดการศพทั้งสามคนนั้นจนสะอาดหมดจดแล้ว ก็หยิบหอบผ้าข้างๆ ขึ้นมา

นั่นคือฉู่หลิวเยว่คนเดิม

เมื่อเปิดมันออกมาแล้วสำรวจดูข้างใน ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับขมวดคิ้ว

ข้างในหอบผ้าเต็มไปด้วยตั๋วเงิน แล้วยังมีพวกเครื่องประดับระเกะระกะไปหมด

แน่นอนว่าแม้สิ่งของเหล่านี้จะไม่เข้าตาซั่งกวนเยว่ผู้ที่เคยเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์ แต่สำหรับเด็กสาวตระกูลฉู่กลับเป็นโชคหล่นทับเสียจริงๆ

นี่นางต้องหนีอย่างนั้นหรือ

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเยาะ

ไม่ต้องพูถึงนิสัยอ่อนแอปวกเปียกของฉู่หลิวเยว่คนก่อน นางคงไม่มีความกล้าเช่นนี้ หรือต่อให้นางอยากหนี นางจะทิ้งฉู่หนิงผู้เป็นบิดาได้ลงคอหรือ

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉู่หลิวเยว่ถูกคนในตระกูลฉู่รังแกไม่ว่าจะสูงหรือต่ำศักดิ์กว่า นางจะมีโอกาสถือตั๋วเงินและครอบครองเครื่องประดับมากมายเยี่ยงนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่ายัดของให้นางเป็นหัวขโมย

หากพวกของซ่งเหลียนสามคนนั้นฆ่าฉู่หลิวเยว่ตาย เพื่อรักษาหน้าตาวงตระกูล ตระกูลฉู่จะต้องทำทีสืบสาวราวเรื่องแน่นอน

เมื่อทุกคนเจอศพของฉู่หลิวเยว่ แล้วเห็นสิ่งของพวกนี้ก็จะต้องคิดว่านางฉวยโอกาสออกมาซื้อของและขโมยของพวกนี้แล้วหนีไป

หึ ต่อให้ตายก็ไม่สาสม!

หลังจากฆ่านางให้ตาย ฉู่เซียนหมิ่นนี่ยังต้องการสาดโคลนใส่นาง ทำให้นางไม่มีวันกลับตัวได้อีก!

ในเมื่อนางยืมร่างของเจ้าของเดิมอย่างฉู่หลิวเยว่แล้ว เช่นนั้นนางจะต้องช่วยฉู่หลิงเยว่คนเดิมจัดการเรื่องนี้ให้อย่างแน่นอน

อีกอย่าง สถานะของฉู่หลิวเยว่ยังสะดวกต่อการจัดการเรื่องของนางในอนาคตอีกด้วย

หลังจากตรวจสอบสิ่งของเรียบร้อยแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็มองไปรอบๆ สามารถได้ยินเสียงแว่วของกระแสน้ำไหลรินได้

ตอนนี้ร่างของนางเต็มไปด้วยคราบเลือด และต้องการอาบน้ำจริงๆ โชคดีที่ในหอบผ้ายังมีเสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วอยู่บ้าง ช่างสะดวกสบายเสียจริง

หลังจากเดินผ่านป่าไม้อันเขียวชอุ่ม ผ่านไปสักประมาณสิบห้านาที ในที่สุดก็เห็นทะเลสาบสี่เขียวครามปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่

ที่น่าประหลาดใจก็คือ ยังมีชั้นไอหมอกสีขาวลอยอยู่เหนือพื้นผิวทะเลสาบอีกด้วย

แม่ว่านางจะยืนอยู่ที่ริมทะเลสาบ แต่เห็นเพียงน้ำสีเขียวครามกระเพื่อมเบาๆ ในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น แล้วระยะทางนั้นกว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา

ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือเข้าไปผ่านไอหมอกสีขาวนั้นก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดเล็กน้อย

นี่คือหมอกสีขาวที่เกิดจากการควบแน่นของพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งนัก!

นางสามารถจินตนาการได้ว่า หากได้ฝึกพลังเพียร ณ ที่แห่งนี้ ต้องได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวแน่!

ในฐานะองค์หญิง ซึ่งเป็นผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไปของราชวงศ์เทียนจิน นางเข้าใจสถานการณ์ของแคว้นต่างๆ ที่ตกเป็นประเทศราชของราชวงศ์เทียนจินเป็นอย่างดี

สถานที่แห่งนี้ แม้จะเทียบกับสถานที่ฝึกพลังเพียรของนางเมื่อครั้งอดีตชาติไม่ได้ แต่ได้ฝึกในแคว้นเย่าเฉินเล็กๆ แห่งนี้ ก็นับว่าดีมากแล้วล่ะ

ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงคำรามแหบต่ำดังขึ้นมา!

นางเงยหน้าขึ้นไปมอง กลับพบว่ามีสิงโตหิมะตัวหนึ่งกำลังใช้ดวงตาสีฟ้าราวกับน้ำแข็งของมันจ้องมองนางอยู่ที่ริมทะเลสาบ!

นี่คือสัตว์อสูรระดับสูงตัวหนึ่ง!

จากนั้น ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังคิดว่าจะรับมือกับมันอย่างไรอยู่นั้น ทันใดนั้นมันกลับสะบัดหางไปมา โน้มตัวลงไปใหม่อีกครั้งแล้วหลับตาลง

ฉู่หลิวเยว่มองอย่างตะลึง

นี่ มันไม่ได้จะตั้งท่าโจมตีนางหรอกหรือ

โดยปกติสัตว์อสูตรประเภทอารักขาเช่นนี้มักจะขี้หงุดหงิดโมโหร้ายถึงจะถูกต้องนี่นา…

นางยังไม่ทันได้คิดเสร็จสรรพ สิงโตตัวนั้นก็ลืมตาขึ้นมามองนางปราดหนึ่ง

หลังจากนั้นมันก็ลุกขึ้นแล้วเดินมุ่งหน้ามาตรงที่นางยืนอยู่

เมื่อเดินมาถึงข้างหน้านาง อยู่ๆ สิงโตขาวก็ยกอุ้งเท้าขึ้น…เกี่ยวเอาหอบผ้าของฉู่หลิวเยว่ลงมา หลังจากนั้นก็เอาหัวชนเอวของนาง

“เจ้าอยากให้ข้าเข้าไปหรือ”

ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างไม่แน่ใจนัก

สิงโตขาวขยับก้นนั่งลง ดวงตาสีฟ้าราวกับน้ำแข็งคู่นั้นมองหน้ฉู่หลิวเยว่ ราวกับกำลังจะบอกว่าหากเจ้าพูดว่าไม่เข้าไปอีก ข้าก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!

ฉู่หลิวเยว่ “…”

นางหัวเราะ และคิดว่าเจ้าสิงโตตัวนี้ก็น่ารักดี นางก็เลยลูบหัวของมัน ส่วนเจ้าสิงโตขาวก็หลับตาลงด้วยความพึงพอใจ

คราวนี้นางถึงจะถอดเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดออกมา แล้วลงน้ำทะเลสาบ ปล่อยให้ร่างกายของนางถูกโอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลสาบอันอุ่นร้อน

พลังที่มากพอและอบอุ่นพุ่งเข้าใส่ร่างของนางในทันที

ฉู่หลิวเยว่ปิดเปลือกตาสนิท แล้วเริ่มตรวจสอบสภาพร่างกายนี้อย่างละเอียด

ในแผ่นดินนี้ ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นที่เคารพนับถือ

ผู้ที่ฝึกพลังเพียร สามารถแบ่งออกเป็นสี่ประเภท

ประเภทที่หนึ่งคือ ผู้ฝึกยุทธ์ เป็นผู้ดูดซับพลังแห่งฟ้าดิน แล้วนำพลังนั้นมาหลอมรวมกับเลือดเนื้อของตนเอง

อีกประเภทหนึ่งคือ ปรมาจารย์ สามารถหยั่งรู้กฎการเคลื่อนไหวของพลังแห่งฟ้าดิน โดยใช้อักขระมารวมพลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์