ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 208

ลำแสงสีเงินวนเวียนอยู่ข้างหน้าฉู่หลิวเยว่ สายตาพร่ามัว มีแสงระยิบระยับ

ท่ามกลางสถานการณ์คลุมเครือนำมาซึ่งแรงบีบคั้นอันแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด!

หอกของเจียงหยวนถูกขวางไว้ด้านนอกอย่างแรงกล้า ไม่อาจเคลื่อนมาข้างหน้าแม้แต่น้อย!

ฉากนี้ราวกับหยุดนิ่ง ประทับอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คนอย่างล้ำลึก

เจียงหยวนเบิกตาโพลงขึ้นมาฉับพลัน!

ฉู่หลิวเยว่…ที่แท้นางยังเป็นปรมาจารย์ด้วยหรือนี่?

ใช่แล้ว!

ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้มีข่าวลือเช่นนี้ด้วย กล่าวว่าฉู่หลิวเยว่สอบเข้าสำนักเทียนลู่โดยการสอบผ่านทั้งสามศาสตร์วิชา

ดังนั้นการที่นางเป็นปรมาจารย์จึงมิใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด!

เพียงแต่ว่าตอนที่นางสู้กับเหลยหมิงเวยเมื่อวานนี้ทำให้ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่การฝึกปราณในฐานะผู้ฝึกยุทธ์และเพิกเฉยต่อสิ่งอื่นใด

ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ฉู่หลิวเยว่นาง…นั่งอยู่ในเขตปรมาจารย์ชัดๆ!

เจียงหยวนขบคิด ความคาดเดาที่น่าสะพรึงกลัวค่อยๆ ปรากฏขึ้น

หรือว่า…

“นั่นคือค่ายกลขั้นสอง!”

สายตาฝูอวิ๋นซานจับจ้องไปยังค่ายกลลี้ลับที่อยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ก่อนจะหลุดปากออกมา

“ที่แท้นางก็เป็นปรมาจารย์ระดับสองแล้ว?!”

ฉู่หลิวเยว่เพิ่งจะอายุสิบสี่ปีนี้มิใช่หรือ?

นอกจากนี้ถ้าจำไม่ผิดล่ะก็ เมื่อก่อนนางเป็นแค่คนไร้ความสามารถที่ใครต่างก็ทอดทิ้งและเพิ่งเข้าสู่สายฝึกปราณอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่เดือนมานี้!

ภายในระยะเวลาสั้นๆ นางบรรลุกลายมาเป็นปรมาจารย์ขั้นสองได้อย่างไรกัน!?

เขามองไปทางซุนจ้งเหยียนอย่างอดไม่ได้ แต่กลับไม่เห็นซุนจ้งเหยียนมีสีหน้าประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังแฝงไปด้วยความโล่งอกอีกต่างหาก

ราวกับกำลังพูดว่า ในที่สุดนางหนูนี่ก็แสดงฝีมือสักที

“สหายจ้งเหยียน ฉู่หลิวเยว่…เป็นปรมาจารย์ขั้นสอง?”

แม้ฝูอวิ๋นซานจะมั่นใจเป็นแน่แท้แล้ว แต่ก็ยังอดยั้งปากถามออกไปไม่ได้

ซุนจ้งเหยียนหัวเราะเบิกบานใจ

“ใช่แล้ว! นางหนูนี่ฝึกตนเป็นปรมาจารย์หลังจากที่เข้าสำนัก!”

ฝูอวิ๋นซานสำลักจวนจะสบถคำหยาบออกมา

“…สหายจ้งเหยียน นี่ไม่เหมาะกระมัง? พูดเช่นนี้ฉู่หลิวเยว่ก็ควรไปเข้าร่วมประลองปรมาจารย์ถึงจะถูกไม่ใช่หรือ?”

ซุนจ้งเหยียนหัวเราะหึหึ :

“ถูกแล้วนี่! นางสมัครไปทั้งสองการประลอง!”

ฝูอวิ๋นซาน “…”

“เอ๊ะ สหายอวิ๋นซาน ดูเหมือนว่างานสมาคมเยาวชนจะไม่มีกฎว่าคนผู้หนึ่งสามารถเข้าร่วมการประลองได้เพียงอย่างเดียวนี่นา?” ซุนจ้งเหยียนจงใจถามเสียงดัง

ฝูอวิ๋นซานจุกหน้าอก หายใจไม่คล่องคอ

งานสมาคมเยาวชนไม่มีกฎนี้ โดยทั่วไปแล้วคนผู้หนึ่งมีพละกำลังจำกัด แม้พวกเขาจะมีความสามารถหลากหลายก็จะสมัครเข้าร่วมประลองในด้านที่ตนเก่งที่สุด

ยามนี้ หลังจากจบการประลองสองรอบแรก ไม่ว่าผู้ใดต่างก็มองออกว่าฉู่หลิวเยว่มีพรสวรรค์ในด้านผู้ฝึกยุทธ์เหนือกว่าที่พบเห็น

หากนางศึกษาหาความรู้ในด้านนี้ ภายภาคหน้านางจะต้องกลายเป็นผู้แก่กล้าขั้นสุดยอดเป็นแน่!

กระนั้น คาดไม่ถึงว่านางยังเฉิดฉายในด้านปรมาจารย์เช่นนี้อีกด้วย!

ฝูอวิ๋นซานปากกระตุก ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีกในท้ายที่สุด

ช่างเถิด!

แม้ปรมาจารย์ขั้นสองจะเก่งกาจมาก แต่เจียงหยวนผู้ซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ก็มีพละกำลังไม่ด้อยเลย เมื่อประชันกันแล้วก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อันใด

คงต้องรอดูต่อไป…

ตู้ม!

เกิดการระเบิดขึ้นอย่างกะทันหันบนลานประลอง!

กลับกลายเป็นว่าค่ายกลลี้ลับตรงหน้าฉู่หลิวเยว่แตกสลายราวกับผิวน้ำแข็ง!

ลำแสงเหล่านั้นกลายเป็นแท่งน้ำแข็งที่ยาวหนึ่งชุ่นหนาเท่านิ้วหัวแม่มือ พุ่งเข้าหาเจียงหยวน!

“ค่ายกลน้ำแข็งทะลวง”

ฉับฉับฉับ!

เมื่อมองไปโดยไม่ตั้งใจ จะพบว่าแท่งน้ำแข็งนับร้อยเหล่านั้นที่ห่อหุ้มไอปราณอันแหลมคมพุ่งตรงทะลุเงาหอกเหล่านั้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์