ฉู่หลิวเยว่ประสบความสำเร็จในการท้าดวล!
เสียงของซุนจ้งเหยียนราวกับฟ้าร้อง ปลุกผู้คนด้วยยิ่งใหญ่ทันที!
ใช่แล้ว!
นางท้าดวลซือถูจื่อเยว่ผู้ที่เป็นอันดับที่หนึ่ง ตอนนี้ซือถูจื่อเยว่ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ฉู่หลิวเยว่จะกลายเป็นอันดับหนึ่งโดยสมบูรณ์
แม้จะได้เห็นการประลองด้วยตาตัวเองก็ตาม ความจริงนี้ก็ยังไม่น่าเชื่อ ฉู่หลิวเยว่ไม่เพียงชนะเท่านั้น แต่นางยังก้าวข้ามผ่าน
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องจินตนาการ แต่มันเกิดขึ้นจริงต่อหน้า และพวกเขาไม่เชื่อมันไม่ได้ แม้แต่ผู้คนในสำนักเทียนลู่ก็ต่างตกตะลึงเป็นเวลานาน
มุมปากของฉู่หลิวเยว่โค้งขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวลงมา
นางไม่ได้กลับไปที่ตำแหน่งของนางทันที แต่นางเดินไปทางฉู่หนิง
“ท่านพ่อ!” เมื่อเห็นนางลงมา ฉู่หนิงก็รีบเดินขึ้นไปหานาง คว้าแขนของนางไว้ มองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเอ่ยถามอย่างประหม่า
“เยว่เอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่”
การประลองเมื่อครู่นี้เข้มข้นมาก เขาที่มองเห็นจากด้านข้างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน ฉู่หลิวเยว่กางมือออก มุมปากของนางยกยิ้มขึ้นไปดวงตาที่เป็นเส้นโค้ง
“ท่านเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับห้าเห็นข้าด้วยดวงตาก็บอกไม่ได้ว่าลูกสาวของท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่หรือท่านพ่อ”
ฉู่หนิงสำรวจด้วยตัวเอง พบว่านางนอกจากการสูญเสียพลังที่มากเกินไป ไม่มีปัญหาใดร้ายแรง มันทำให้เขาโล่งใจ แต่เมื่อได้ยินที่นางพูด เขาก็อดหัวเราะไม่ได้
“ผู้ฝึกยุทธ์ระดับห้าแล้วอย่างไร ตอนนี้ครอบครัวของเราเยว่เอ๋อร์เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สามารถเอาชนะคนที่เป็นจุดสูงสุดอันดับสี่ได้ เกรงว่าคงอีกไม่นาน พ่อก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าอีกต่อไป!”
ถึงเขาจะเป็นห่วง แต่ก็ภูมิใจและยินดีด้วยกับนางเช่นกัน การประลองเมื่อครู่นี้ ถือได้ว่าเป็นสถานการณ์อันตราย เขารู้ดีว่าถ้าเยว่เอ๋อร์ทะลวงไม่สำเร็จในนาทีสุดท้าย คิดว่าการประลองนี้ว่าแพ้แน่นอน แต่โชคดีที่สุดท้ายไม่มีอันตราย
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาถี่แล้วเอ่ยอย่างสนุกสนาน
“จะเหมือนเดิมได้อย่างไร พ่อแข็งแกร่งที่สุดในใจลูกเสมอ อย่างไรก็ตามครานี้ท่านก็สบายใจได้แล้วใช่หรือไม่”
หลังจากเหตุการณ์ที่บรรพตวั่นหลิง ด้านฉู่หนิงไม่ได้พูดอันใด แต่นางรู้อยู่ในใจว่าจริงๆ แล้วเขามีการสะเทือนทางจิตใจอยู่มากมาย แม้ว่าจะอยู่ที่บ้านกันสองคน เขามักจะเรียกชื่อนาง หากไม่ได้เจอนางสักระยะหนึ่งเขาก็จะประหม่าและวิตกกังวล หลังจากประสบกับความรู้สึกสูญเสียลูกสาวของเขาครั้งหนึ่ง เขาก็กลายเป็นวิตกกังวลกับมีความทุกข์ทรมานจากการสูญเสีย
ฉู่หลิวเยว่จงใจทำให้เขามั่นใจ ดังนั้นการลงสนามประลองในวันนี้ นางไม่ได้เล่นกลอุบายใดๆ เลย และยังคงโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี ตอนนี้นางชนะซือถูจื่อเยว่แล้วเห็นได้ชัดว่าฉู่หนิงสบายใจขึ้นมาก ฉู่หนิงจะไม่รู้ถึงความคิดของลูกสาวได้อย่างไร อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านแม้แต่ดวงตาของเขาก็ยังร้อนอยู่เล็กน้อย
เขาเขย่าไหล่ของฉู่หลิวเยว่ ริมฝีปากของเขาขยับ แต่ลำคอของเขาแห้งผาก หลังจากนั้นไม่นาน
“เยว่เอ๋อร์ดีที่สุดแน่นอน!”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างเชื่อฟัง
“งั้นลูกกลับก่อนนะ บางทีอาจจะมีใครท้าดวลข้าในภายหลัง ท่านก็กลับไปนั่งที่อย่างผ่อนคลายเถิด” ฉู่หนิงตอบตกลง เขาขอให้นางไปพักผ่อนโดยเร็ว ทั้งสองแยกจากกัน และต่างคนต่างกลับไปยังที่ของตน
แต่ดวงตาของฉู่หนิงไม่แม้แต่จะเคลื่อนห่างจากร่างของฉู่หลิวเยว่เลยเขามองดูนางเดินกลับไปยังที่ของนาง มองดูผู้คนในสำนักเทียนลู่ให้กำลังใจด้วยการตะโกนโห่ร้องดีใจอย่างอบอุ่น และมองดูผู้คนนับไม่ถ้วนรอบตัวนางที่มองนางด้วยสายตาที่อิจฉาและประหลาดใจ…
ฉู่หนิงถอนหายใจยาว ดวงตาของคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเล็กน้อย แต่เขาอดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน เยว่เอ๋อร์ของเขาไม่ใช่หญิงสาวขี้ขลาดที่ถูกคนอื่นรังแกอีกต่อไป!
นางในตอนนี้ สดใสราวกับดวงอาทิตย์เหนือเมฆ!
…
การกลับมาของฉู่หลิวเยว่ ได้รับการต้อนรับจากทุกคนในสำนักอีกครั้ง อย่างไรก็ตามนางรู้สึกได้อย่างสุดซึ้งว่าบรรยากาศดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเมื่อวาน
จะพูดอย่างไรดี ทุกคนดูเหมือนจะมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ต่อนาง…เกรงกลัวงั้นหรือ
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือพฤติกรรม หรืออันใดก็ตาม พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนว่าจะระมัดระวังมากกว่าเดิมเล็กน้อย และสายตาที่พวกเขามองมาที่นางนั้นก็อธิบายไม่ถูกเช่นกัน ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์