ในเวลาเดียวกัน ลมปราณในร่างกายของซือถูจื่อเยว่ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ชีพจรของเขาและดาบหลิงเซียวอยู่ที่เดียวกันเต้นช้าลงเรื่อยๆ ในตอนนี้ท่วงท่าของเขาถูกทำลายลงและจะถูกกลืนกินโดยธรรมชาติ
ภายในใจของเขาขุ่นเคืองขึ้นอีกครั้ง ซือถูจื่อเยว่ขยับตัวและต้องการจะลุกขึ้นแต่อาจรีบร้อนเกินไปการเคลื่อนไหวนี้ทําให้เขาทรุดตัวลงกับพื้นในสภาพตกต่ำ กระอักเลือดออกมาสองสามครั้ง และใบหน้าของเขาซีดราวกับผี!
“ท่านพี่!” ซือถูซิงเฉินลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก รีบตรงไปที่สนามประลองทันที และเมื่อนางอยู่ขอบสนาม จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยดังขึ้นให้นางได้ยิน
“องค์หญิงใหญ่ซือถู ถ้าเจ้าขึ้นเวทีตอนนี้ เขาแพ้แน่” ซือถูซิงเฉินตัวแข็งทื่อทันทีหยุดฝีเท้าลง แล้วหันกลับไปมอง
ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่บนเวที มองดูนางที่แสดงทีท่าด้วยความเกียจคร้านที่เหมือนยิ้มแต่ก็ยังไม่ยิ้ม มือในแขนเสื้อของซือถูซิงเฉินกำแน่นทันที!
“ฉู่หลิวเยว่!”
“เรียกข้าทำไมหรือ ข้าก็อยู่นี่” ฉู่หลิวเยว่ดูเหมือนจะไม่ได้ยินดียินร้ายกับความโกรธในการเรียกของซือถูซิงเฉินเลย กลับกันนางยังเชิดหน้าขึ้น
“ข้าเห็นแก่พี่ชายของเจ้าที่ยังอยากจะสู้อีกครั้ง มันจะดูไม่เหมาะสมหากเจ้าจะขึ้นมาตอนนี้” สีหน้าของซือถูซิงเฉินเปลี่ยนไปทันใด นางมองไปที่ซือถูจื่อเยว่อีกครั้ง
นางที่ขยับไปยืนใกล้ๆ เห็นเลือดที่เลอะเทอะบนใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน หัวใจของนางเหมือนถูกแทงด้วยดาบ ความเจ็บปวดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
“ท่านพี่!”
ซือถูจื่อเยว่ที่ได้ยินเสียงของนาง เงยหน้ามองขึ้นด้วยความยากลำบาก
“ซิงเฉิน…เจ้า…กลับไป” ขณะพูดเขาพยายามพยุงร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
แต่อาการบาดเจ็บภายในของเขารุนแรงเกินไป เขาล้มลงอีกคราในขณะที่เขาพยายามลุกขึ้น ดวงตาของซือถูซิงเฉินเต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อล้น ในความคิดของนางซือถูจื่อเยว่เป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดมาโดยตลอด เขาเป็นคนมีจิตใจแข็งแกร่งและฮึกเหิม นางจึงภาคภูมิใจอยู่เสมอ ไม่เคยมีช่วงเวลาที่น่าอับอายเช่นนี้ และคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้คือฉู่หลิวเยว่!
“ท่านพี่…”
ซือถูซิงเฉินถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปยังลานประลอง ทั้งที่ทุกคนก็เห็นว่าตอนนี้เขาไม่มีแรงจะสู้แล้ว แม้ว่าพลังของฉู่หลิวเยว่จะหมดลง ริมฝีปากของนางก็ซีด แต่นางกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลย หากทั้งสองยังประลองกันต่อตอนจบอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันจะทำให้ในตอนจบพี่ชายของนางดูน่าเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก
นางไม่สามารถเอ่ยออกไปได้ คนที่ภูมิใจในตัวพี่ชายจะยอมรับว่าแพ้ให้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองได้อย่างไร ฉู่หลิวเยว่มองดูซือถูซิงเฉิน แล้วยกยิ้มขึ้นมา
“ถ้าเจ้าต้องการจะดำเนินต่อ ข้าจะประลองกับเจ้าจนจบ”
ความหมายก็คือ ถ้าซือถูจื่อเยว่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมัครใจ นางจะประลองต่อ!
ทุกคนต่างมองดูเหตุการณ์นี้ด้วยความคิดที่ซับซ้อน
ก่อนเริ่มการประลอง ไม่สิแม้ก่อนธูปหอมนั้นจะหมด ใครจะคิดว่าฉู่หลิวเยว่จะได้เปรียบในท้ายที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นนางยังสามารถประจันหน้ากับซือถูจื่อเยว่มาถึงจุดดังกล่าวได้
ในที่สุดเฉิงหันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป กล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“ซิงเฉิน ช่วยพี่ชายของเจ้าลงมา!” ซือถูซิงเฉินเหลือบมองเฉิงหันอย่างลังเล ในที่สุดก็จับยกมุมกระโปรงขึ้นเพื่อเตรียมขึ้นเวที
“ไม่…ไม่” ซือถูจื่อเยว่ส่ายหน้าไปมา คิ้วของเขาขมวดขึ้น
ถ้าก้าวลงตอนนี้ ก็ถือว่าแพ้อย่างสมบูรณ์ใช่หรือไม่
“นำเขาลงมา!” เสียงของเฉิงหันตะคอกดังขึ้น ซือถูซิงเฉินจากที่ชะงักชั่วคราวกับคำของพี่ชายแต่ในที่สุดนางก็ก้าวขึ้นเวทีไป
ฝูงชนเงียบไปครู่หนึ่ง นี่หมายความว่า…ซือถูจื่อเยว่แพ้แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์