“เขาอยู่แห่งใดกัน” ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามขึ้น
เสวี่ยเสวี่ยคร่ำครวญ และเอนตัวลง ฉู่หลิวเยว่รู้ทันทีว่าเสวี่ยเสวี่ยจะไปกับนาง
แต่อาการบาดเจ็บของ…เสวี่ยเสวี่ยส่ายหน้าแล้วมองขึ้นไปทีนาง
ฉู่หลิวเยว่ก็เข้าใจได้ทันที จากนั้นก็หยิบยาสมุนไพรจากถุงเฉียนคุน
“นี่คือหญ้าชุบวิญญาณมันสามารถหยุดเลือดไหล และรักษาบาดแผลได้เจ้าควรใช้ก่อน”
เมื่อพูดเสร็จ ฉู่หลิวเยว่ก็ทุบสมุนไพรอย่างรวดเร็วแล้วทาลงบนบาดแผลของเสวี่ยเสวี่ย นางรู้สึกโล่งใจหลังจากที่เห็นบาดแผลนั้นทุเลาลง จากนั้นจึงขึ้นไปนั่งบนหลังของเสวี่ยเสวี่ย
เขาหันไปมองด้วยด้านหลังก็พบว่าถวนจื่อเดินตามมาด้วย
“ไป!”
ฉู่หลิวเยว่แตะที่ศีรษะเสวี่ยเสวี่ยเบาๆ เสวี่ยเสวี่ยก็กระโดดออกจากหน้าต่าง
ในความมืดมิดยามราตรีร่างของแม่นางคนหนึ่ง และสัตว์อีกสองตัวกำลังรีบวิ่งออกไปข้างนอก เมื่อผ่านเขตแดนของสำนัก ฉู่หลิวเยว่มีความรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่เสวี่ยเสวี่ยดูเหมือนจะไม่สนใจ
เมื่อเข้าใกล้อาณาเขต แสงสีเงินก็กระจายออกมาจากร่างกายของเสวี่ยเสวี่ยอย่างกะทันหัน ปกคลุมไปถึงร่างของฉู่หลิวเยว่ที่นั่งอยู่บนหลังของมัน นางรู้สึกได้ทันทีว่าลมหายใจของนางถูกแยกออก และนางไม่สามารถออกจากมนต์สะกดนี้ได้
แต่ทว่าเพียงชั่วพริบตาฉู่หลิวเยว่ก็ออกจากสำนักไป มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเหลือบมองกลับไปยังสำนักเทียนลู่ที่จากมา เงาของสำนักเทียนลู่ก็ค่อยๆ เล็กลง และหายไปในที่สุด
…
ฉู่หลิวเยว่หันกลับมายังเบื้องหน้าอีกครั้งนางคิดว่าแม้ว่าเสวี่ยเสวี่ยจะได้รับบาดเจ็บ แต่ความเร็วของมันก็ยังเร็วมาก แน่นอนว่ามันเป็นสัตว์อสูรระดับสูงถึงแม้จะบาดเจ็บ แต่พลังต่อสู้ของมันก็ยังคงแข็งแกร่งมากอย่างใดก็ตาม นางไม่รู้ว่าหรงซิวพบเจอเหตุการณ์อันใดถึงขนาดที่เสวี่ยเสวี่ยก็ได้รับบาดเจ็บ…
ในเมืองหลวงหรือทั่วทั้งแคว้นเย่าเฉิน ดูเหมือนว่าจะไม่มีสัตว์อสูรใดที่สามารถประลองกับเสวี่ยเสวี่ยได้ สำหรับหรงซิว พลังของเขานั้นลึกลับยิ่งกว่าเดิม ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ว่าหรงซิวได้พบเจอใคร…
ในเวลานี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น ถ้าหรงซิวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ พลังในปัจจุบันของนางคงไม่ช่วยอันใดเขาได้เช่นกัน
ทั้งหมดที่นางต้องการคือความเร็วที่ต้องการจะพบเขาให้เร็วขึ้น นางไม่อาจคาดคิดได้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับหรงซิว ทำให้นางกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
…
ในไม่ช้าฉู่หลิวเยว่ก็พบว่าเสวี่ยเสวี่ยพานางออกจากประตูเมืองหลวง ท่าทีของนางเริ่มจริงจังมากขึ้น ก่อนหน้านี้หรงซิวเอ่ยบอกนางเพียงแค่ว่าเขาจะไม่อยู่สักพักหนึ่ง และนางไม่ได้ถามอย่างละเอียดว่าเขากำลังจะที่แห่งใด
เมื่อมองดูตอนนี้ข้างนอกเมืองหลวง…เสวี่ยเสวี่ยกำลังไปทางภูเขานอกเมืองหลวง
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ใช้ประโยชน์จากแสงจันทร์มองไปยังทางที่เสวี่ยเสวี่ยกำลังพามา นางเริ่มรู้สึกว่าสถานที่ตรงหน้าค่อนข้างคุ้นเคย
ป่าแห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่ฉู่หลิวเยว่กลับมาเกิดใหม่
นั่นคือป่าภูเขาที่เจ้าของร่างเดิมถูกนำตัวออกจากเมืองเพื่อลอบสังหาร หลังจากข้ามป่าทึบในเสวี่ยเสวี่ยก็บินลงด้านล่าง
มันบินไปสักพักก็ร่อนลงบนพื้นดิน หลังนั้นมันก็หยุดนิ่ง ฉู่หลิวเยว่มองไปโดยรอบอย่าง ละเอียดภาพตรงหน้านางที่ปรากฏคือทะเลสาบมีแสงจันทร์กระทบเป็นประกายระยิบระยับ
ในเวลานี้แสงจันทร์กำลังพอดี และมีชั้นของควันสีขาวบางเบาปกคลุมทะเลสาบทำให้ดูสงบ
ที่นี่คือ…สถานที่ที่นางพบหรงซิวเป็นครั้งแรก
“เสวี่ยเสวี่ย เหตุใดเจ้าถึงพาข้ามาที่นี่” ฉู่หลิวเยว่ลงจากหลังของเสวี่ยเสวี่ย นางมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว แต่นางไม่เห็นร่างของหรงซิว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์