ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 26

กรงขังขนาดใหญ่ที่ข้างบนปกคลุมด้วยผ้าสีดำผืนใหญ่ถูกเคลื่อนย้ายเข้ามา ทุกคนมิสามารถคาดเดาได้ว่าข้างในนั้นคือสิ่งใด

แต่ฉู่หลิงเยว่กลับหรี่ตาเพราะนางได้กลิ่นเหม็นคาวจางๆ โชยออกมา

หรงเจินก้าวไปข้างหน้าแล้วเอาผ้าคลุมสีดำออกทันที

แฮ่!

ปรากฏว่ามีงูยักษ์เกล็ดทองคำถูกขังเอาไว้ในนั้น

ลำตัวของมันหนาพอๆ กับต้นขาของมนุษย์ และมีเกล็ดสีทองซีดวางทับกันส่องแสงเย็นยะเยือก!

และรูม่านตาแนวตั้งสีเลือดของมันราวกับมีดสั้นสองเล่มที่คมกริบ ดูแล้วช่างโหดเหี้ยมและอำมหิตยิ่งนัก!

แท้จริงแล้วมันก็คือสัตว์อสูรระดับสามตัวหนึ่ง…อสูรงูเหลือมทองคำ!

เมื่อมันได้เห็นแสงสว่างก็ทำให้มันเกิดสัญชาตญาณหวาดระแวง ชูคอยกหัวขนาดใหญ่ของมันขึ้นมา แลบลิ้นสองแฉกของมันออกมาขู่ ฟ่อๆ ที่ฟังแล้วน่าขนลุก!

เมื่อทุกคนในตำหนักใหญ่เห็นสัตว์อสูตรตัวยักษ์ตัวนี้ ทันใดนั้นก็ต่างรู้สึกตื่นตระหนกขวัญผวา

จักรพรรดิจยาเหวินที่ประทับบนบัลลังก์ข้างบนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

จากนั้นเขาก็มองตามสายตาของหรงเจิน

ใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้าผู้หนึ่งก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา

เขาเอะใจเล็กน้อย แต่ก็รู้ได้ในทันทีว่านี่คือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ผู้นั้นที่มีสัญญาหมั้นหมายกับหรงจิ้น ซึ่งก็คือฉู่หลิวเยว่ บุตรีของฉู่หนิง

“เจินเจิน นี่เจ้ากำลังจะทำอะไร”

จักรพรรดิจยาเหวินเอ่ยปากถามผู้เป็นพระธิดา

“นี่คืองานเลี้ยงวันเกิดเสด็จพี่ของเจ้า ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมาก่อเรื่องวุ่นวาย”

เขาจำได้ว่าฉู่หลิวเยว่เกิดมาพร้อมชีพจรที่ไม่สมบูรณ์ และชาตินี้ก็ไม่มีวันเข้าสู่เส้นทางฝึกยุทธ์ได้

แล้วนางจะสามารถจัดการกับสัตว์อสูรระดับสามอย่างอสูรงูเหลือมทองคำนี่ได้อย่างไร

ส่วนตัวเขาไม่ได้แยแสฉู่หลิวเยว่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ นางยังมีสัญญาหมั้นหมายกับหรงจิ้นติดตัวอยู่ หากมีเกิดเหตุน่าอนาถก็ยากที่จะกอบกู้สถานการณ์

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อหน้าสาธารณชนมากมายขนาดนี้ หากเขาตามใจหรงเจิน ไม่แน่ก็อาจจะให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นกษัตริย์โหดเหี้ยม เพราะฉู่หลิวเยว่เป็นคนไร้น้ำยา เขาถึงได้ประมาทเลินเล่อเยี่ยงนี้

หรงเจินกลับหัวเราะ

“เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หม่อมฉันเจอคุณหนูใหญ่ฉู่สักหน่อยเพคะ เพราะรู้สึกปลื้มปีติ หม่อมฉันจึงอยากมอบอสูรงูเหลือมทองคำที่ล่ามาได้อย่างยากลำบากให้นางนี่เพคะ นี่เป็นสัตว์อสูรที่ลูกล่ามาเองกับมือ! เดิมทีจะเอามันมาเลี้ยง แต่ในเมื่อมีวาสนาต่อคุณหนูใหญ่ฉู่ หม่อมฉันจึงตัดใจแล้วยินดีมอบให้นางเพคะ”

นางพูดพลางชำเลืองมองฉู่หลิวเยว่

“ให้ข้าเดา คุณหนูใหญ่ฉู่ยังไม่มีสัญญากับสัตว์อสูรใช่ไหมล่ะ”

มีเสียงหัวเราะเยาะดังมาจากกลุ่มคน

แค่คนไร้ความสามารถคนหนึ่งจะมีสัญญากับสัตว์อสูรอย่างใครเขาได้อย่างไร

หลายคนมองไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาเยาะเย้ย ราวกับกำลังดูงิ้วตลกขบขันก็มิปาน

หรงเจินชักสีหน้ากลับมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“ทำไม คุณหนูใหญ่ฉู่ไม่ชอบอสูรงูเหลือมทองคำที่ข้ามอบให้หรือ”

นางเป็นถึงองค์หญิงผู้ได้รับความโปรดปรานมากที่สุดในรัชกาลปัจจุบัน มีใครกล้าพูดว่าไม่ชอบสิ่งของที่นางมอบให้ด้วยหรือ

ฉู่หลิวเยว่เหยียดกายลุกขึ้น

“องค์หญิงสี่ช่างมีน้ำพระทัย ฉู่หลิวเยว่รู้สึกซาบซึ้งมากเพคะ เหตุใดหม่อมฉันจะไม่ชอบของที่พระองค์มอบให้”

คราวนี้หรงเจินหัวเราะขึ้นมา จากนั้นนางก็กวักมือเรียกฉู่หลิวเยว่ราวกับเรียกทาสรับใช้ที่ต่ำต้อยคนหนึ่ง

“ในเมื่อเจ้าซาบซึ้งน้ำใจข้าถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเจ้ายังไม่รีบเข้ามารับของขวัญของข้าอีกหรือ”

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้า

นางคำนับต่อจักรพรรดิจยาเหวินก่อนจะหันไปทางหรงเจินแล้วโค้งคำนับ

ท่วงท่ากิริยามารยาทถูกต้องตามทุกระเบียบนิ้ว อันที่จริงนางทำออกมาได้ดีกว่านางกำนัลที่สอนกิริยามารยาทในวังหลวงเสียอีก

ทุกการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วราบรื่นดุจสายน้ำไหล ช่างเป็นที่ชื่นชมและสบายตาแก่ผู้คนที่พบเห็นยิ่งนัก

สิ่งที่สำคัญก็คือ ดูเหมือนความสูงส่งสง่างามของนางจะเผยออกมาจากภายในสู่ภายนอก

สง่าราศีนี้ของนางนั้นดูโดดเด่นกว่าองค์หญิงตัวจริงที่ยืนอยู่ตรงหน้านางเสียอีก

แม้นางจะสวมใส่เสื้อผ้าเก่าซอมซ่อชายตะเข็บหลุดลุ่ย ใบหน้าขาวซีดไร้การแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉม แต่ทว่านางที่ยืนตรงนั้นกลับสะดุดตาผู้คนได้มากกว่าหรงเจินที่แต่งตัวในชุดสตรีชาววังงดงามหรูหราเสียอีก

นางโดดเด่นราวกับอัญมณีส่องแสงเจิดจรัส ไม่ว่าจะอยู่แห่งไหนก็สามารถดึงดูดสายตาคนได้เป็นคนแรกเสมอ

บางคนก็อดซุบซิบนินทาไม่ได้

บทที่ 26 หม่อมฉันยินดีลองสู้สักตั้ง 1

บทที่ 26 หม่อมฉันยินดีลองสู้สักตั้ง 2

บทที่ 26 หม่อมฉันยินดีลองสู้สักตั้ง 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์