ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 286

แม่นางที่อยู่ตรงหน้าใบหน้างดงามและคิ้วโก่งตาโต

ดวงตาคู่นั้นเหมือนนางสุดๆ

แต่พอตั้งใจดูแล้ว กลับแตกต่างอยู่มาก

เมื่อก่อนคนคนนั้นเป็นดั่งเมฆและดวงอาทิตย์ สูงส่งอยู่เหนือฟ้า ไม่มีใครเทียบเคียงได้

แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็สามารถทำได้คนยอมจำนนและไม่กล้าดูหมิ่น

ส่วนฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงหน้ากลับมีกลิ่นอายของคนที่สงบสุขละเว้นความยุ่งเหยิงภายในโลก

ถึงแม้แววตาคู่นั้นดูแล้วจะแจ่มใสเหมือนกัน แต่พอดูดีๆ แล้ว ก็จะเห็นว่าแววตาลึกๆ ของฉู่หลิวเยว่มีสิ่งต่างๆ ซ่อนอยู่มากมาย

ทั้งอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้น และมีความคาดหวังอยู่ในนั้น

สีหน้าแบบนี้เขาเคยพบเห็นมามากแล้ว

คนที่อยากได้อันใดจากเขาก็มักจะใช้สายตาแบบนี้มองเขา

แต่คงเป็นเพราะยังเด็ก ฉะนั้นถึงแม้ว่าท่าทางอารมณ์จะดูใจเย็นมาก แต่สายตานั้นหลอกคนไม่ได้

แล้วความรู้สึกที่รู้สึกหนักใจที่อยู่ในใจของมู่ชิงเห่อก็ค่อยๆ หายไป

แววตาคู่นั้นที่อยู่ในหัวก็ค่อยๆ กลายเป็นแววตาของคนสองคน

“ไม่เป็นไร”

จู่ๆ เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายจึงไม่ได้พูดอันใดต่อ จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

ปีศาจแดงมองฉู่หลิวเยว่อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะตามมู่ชิงเห่อไป

ครั้งนี้มันเชื่อฟังมากและไม่ได้หันกลับมามองอีก

“เดินทางปลอดภัยเพคะท่านรองแม่ทัพมู่”

ฉู่หลิวเยว่คำนับทำความเคารพ

เมื่อรอให้เงาของมู่ชิงเห่อหายไปจากสายตาแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆ หายไป เม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นเดียวดูแล้วรู้สึกเย็นยะเยือก

วันนี้ถือว่าสะเพร่าเกินไปหน่อย ต่อไปต้องระวังเป็นอย่างดี

ดีที่ปีศาจแดงเชื่อฟังโดยตลอด เมื่อรู้ความคิดของนางแล้วก็ไม่ได้พุ่งเข้ามาหานางอีก

ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ที่เดิมอยู่นาน จนรู้สึกว่าคันคอจึงรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง

เมื่อก้มหน้าลง กลับเห็นว่าถวนจื่อกำลังเกาะอยู่ที่ไหล่ มันลืมตากลมโตเอาไว้แล้วมองนางตาปริบๆอย่างน่าสงสาร

ฉู่หลิวเยว่จิ้มไปที่หัวของมัน

“เจ้ายังเสียใจอยู่รึ? วันนี้เจ้าเกือบจะก่อปัญหาให้ข้าแล้วรู้หรือไม่?”

ถวนจื่อทะเลาะกับปีศาจแดงต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนั้น ถ้ามู่ชิงเห่อตามเอาเรื่องขึ้นมา อย่าว่าแต่ถวนจื่อเลย แม้แต่นางก็ไม่รู้จะทำอย่างใดเช่นกัน

ถวนจื่ออ้อนแล้วถูไปที่แก้มของนาง

“ปีศาจแดงฐานะสูงส่งนัก อีกอย่างก็มีพลังแข็งแกร่งมากด้วย ต่อไปเจ้าก็อย่าไปยั่วโมโหมันอีกล่ะ”

ฉู่หลิวเยว่พูดต่อ จากนั้นเมื่อถวนจื่อได้ยินคำพูดนี้กลับจ้องฉู่หลิวเยว่ตาโตพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหา

เจ้าเข้าข้างเจ้านั่น

แล้วใครเป็นอสูรของเจ้ากันแน่

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วพลางมองนาง

“วันนี้คงเป็นวันแรกที่เจ้าเจอกับปีศาจแดงนี่ เหตุใดถึงได้เกลียดกันถึงเพียงนั้น? มันก็ไม่ได้มายุ่งกับเจ้าด้วยซ้ำ”

ถวนจื่อส่ายหน้าอย่างดื้อรั้น

มันหาเรื่องข้า…มันหาเรื่องข้า!

เจ้านั่นกล้าดีพุ่งเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของฉู่หลิวเยว่

ช่างกล้าดีจริงๆ

การที่ดึงขนมันกระจุกนึงก็เป็นแค่บทเรียนสั่งสอนมันเท่านั้น

ถ้ายังมีครั้งที่สองอีก ดูเอาเถิดว่าข้าจะจัดการกับมันอย่างใด

เห็นท่าทางที่ห้าวหาญของถวนจื่อแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับเงียบก่อนจะถอดใจกับการพูดตำหนิมัน

ถึงแม้ระยะเวลาที่ถวนจื่ออยู่เคียงข้างนางมาไม่นาน แต่นางก็รู้นิสัยของมันอย่างถ่องแท้แล้ว

วันนี้มันยังกล้าลงมือกับปีศาจแดงในห้องจัดงานเลี้ยงต่อหน้าสาธารณชน ถ้ามันต่อสู้ในที่ส่วนตัวคงจะรุนแรงกว่านี้ พูดโน้มน้าวมันไปก็คงไม่มีประโยชน์

“นิสัยนี้ของเจ้าช่างเหมือน…”

ฉู่หลิวเยว่บ่นพึมพำ แต่กลับไม่ได้พูดคำพูดที่เหลือต่อ

นางเดินไปข้างหน้าหรงเจิน แล้วมองนางด้วยแววตาเคร่งขรึม

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า แค่เจ้าไม่ระวังอีกนิดเดียว ไม่เพียงแต่ชีวิตของเจ้าแต่คนอื่นๆ ก็จะโดนลูกหลงไปด้วย! ดูพี่ชายเจ้าสิ ก็โดนเหมือนกันไม่ใช่รึ เมื่อก่อนเจ้าแค่ใช้อารมณ์ก็มากพอแล้ว มาวันนี้ยังกล้าทะนงตนแบบนั้นอีก!”

“ข้า ข้า…”

ตัวของหรงเจินสั่นเทา แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาทันที

“ท่านแม่ ข้าทำผิดอะไร? ข้าก็แค่พูดไม่กี่คำ…“

“แค่ไม่กี่คำนั้นยังไม่พออีกรึ!”

ราชินีพูดเสียงดังขึ้น ทำให้หรงเจินตกใจจนสะดุ้งไปหนึ่งที และแววตาก็มีความตื่นตระหนกเกิดขึ้น

เห็นท่าทางของนางแล้ว ในใจของจักรพรรดินีจะไม่เจ็บปวดได้อย่างใด

แต่วันนี้นางตัดสินใจแล้วว่าจะสั่นสอนหรงเจินสักครั้ง

ไม่อย่างงั้น ต่อไปนิสัยของนางจะทำให้ทุกคนเดือดร้อนได้

“เกิดเรื่องกับเจ้าคนเดียวยังไม่เท่าไร ถ้ากระทบกับพี่ชายของเจ้าอีกล่ะ เจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่!”

วันนี้หรงจิ้นอับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากมาย จักรพรรดินีก็ทั้งเอ็นดูทั้งหวาดกลัว

ด้านหนึ่งนั้นนางกังวลว่าจะทำให้หรงจิ้นได้รับแรงโจมตีที่หนักหน่วง อีกด้านหนึ่งก็กังวลว่าจะจะกระทบกับความคิดที่ฝ่าบาทจะมีต่อหรงจิ้น

ถ้าหากเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ถูกแพร่ออกไป ต่อไปการใช่ชีวิตของหรงจิ้นก็คงจะยิ่งยากเข้าไปอีก

หรงเจินเงยหน้าขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ

เมื่อครู่ท่านแม่ถึงกับพูดออกมาว่า…ไม่สำคัญว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับนาง

พี่ชาย พี่ชาย!

ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ชายยังก่อเรื่องไม่พออีกรึ?

นางหัวเราะเยาะ

“ท่านแม่ วันนี้ถือเป็นความผิดของข้า แต่ว่าพี่ชายนั้นไม่มีความผิดอะไรเลยรึ? ทุกอย่างเป็นเขาไม่เก่งเอง สู้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้เอง เลยไม่อยู่ในสายตาของรองแม่ทัพมู่ เขามันไร้ความสามารถ!”

เพี๊ยะ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์