การข่มขู่ครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
พลังการกลืนที่ทรงพลังออกมาจากหยดน้ำหยดนั้น!
ดูเหมือนว่าภาพหลอนที่อยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่จะมีอันตรายอยู่ ความตื่นตระหนกแวบเข้ามาในดวงตา และถอยกลับอย่างรวดเร็ว!
เปลวไฟสีแดงพุ่งออกมาจากร่างกายของฉู่หลิวเยว่ ไล่ตามเงานั้น
ตูม!
เพียงพริบตาเดียว เปลวไฟสีดำและสีแดงก็ปะทะเข้ากันจนเกิดเสียงดังสนั่น!
เหมือนว่าเงาสีดำนั้นจะเจอเข้ากับสิ่งที่น่ากลัวอันใดบางอย่างจึงรีบหนี และกลับไปเข้าไปในหม้อยาใสใบนั้นทันที!
แต่เปลวไฟสีแดงก่ำนั้นกลับยังคงไล่ตามไปจนถึงขอบหม้อยา มันลุกโชนเผาไหม้ทันที!
จากนั้นก็มีเขม่าควันสีเทาขาวออกมา!
อ๊าก…
จู่ๆ เปลวไฟสีดำในหม้อยาใสก็พุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ราวกับว่ามันถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงอย่างใดอย่างนั้น
จากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นออกมาจากข้างใน
เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็นฉากนั้นก็นิ่งไปทันที
เปลวไฟสีแดงนั่น…ออกมาจากตัวของนางเอง!
เมื่อครู่นี้นางไม่ทันได้นึกถึงอันใดสักอย่าง จู่ๆ ก็มีหยดน้ำเคลื่อนไหวอยู่ตรงจุดตันเถียนของนาง จากนั้นก็ไล่ให้เปลวไฟสีดำนั้นกลับไปทันที!
ถ้าพูดตามจริงแล้ว เปลวไฟสีดำนั้นหนีอย่างหัวซุกหัวซุนเลยก็ว่าได้
ถึงฉู่หลิวเยว่ห่างจากหม้อยาใสใบนั้นระยะหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความกลัวของสัตว์อสูรที่ดุร้ายตัวนั้น!
“หรือนี่จะเป็นวิญญาณของสัตว์อสูรอันใดสักอย่าง…”
ฉู่หลิวเยว่บ่นพึมพำ
เมื่อครู่นี้นางเห็นอย่างชัดเจนว่าพิษที่เปลวไฟสีลุกโชนขึ้นนั้น ในนั้นกลับไม่มีเนื้อหนังของสัตว์อสูรเลยสักนิด
แต่ว่าสัตว์อสูรตัวนี้หน้าตาเป็นอย่างใด และสามารถอยู่ในนี้ด้วยสภาพที่เป็นวิญญาณแบบนี้ได้นานกว่าพันปีเชียวหรือ!
ความสงสัยในใจของฉู่หลิวเยว่มากขึ้นเรื่องๆ นางจ้องเหตุการณ์ที่อยูตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วทันที
ทันใดนั้นเปลวไฟสีแดงเลือดก็ได้กลายเป็นรั้วขนาดใหญ่ยักษ์ล้อมหม้อยาใสใบนั้นเอาไว้
เสียร้องโหยหวนนั้นกลับกลายเป็นเสียงที่อ่อนแอลงเรื่อยๆ
ถวนจื่อที่อยู่อีกฝั่งสะบัดหางไปมา ราวกับกำลังเสียดายที่ตัวเองไม่ได้เข้าปะทะกับสัตว์อสูรตัวนั้นด้วยตัวเอง
ฉู่หลิวเยว่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าประหม่าอยู่ตรงนั้นอยู่นาน อันที่จริงแล้วถึงแม้ว่าเปลวไฟสีแดงนั้นจะมาอย่างกะทันหันมาก แต่นางก็รู้สึกได้ทั้งหมด
เช่น…ตอนนี้จึงดูเหมือนว่านางรู้สึกได้ถึงความกลัว และการถดถอยของอสูรตัวนั้น
เหมือนว่ามัน…อยากจะยอมแพ้?
ฉู่หลิวเยว่ตั้งใจสัมผัสมันสักพัก ก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมเปลวไฟสีแดงนี้ได้
เมื่อนางชูมือขึ้น เปลวไฟสีแดงก็บินกลับเข้ามาในฝ่ามือของนางทันที
เปลวไฟสีดำที่หยิ่งผยองในตอนแรกก็ได้ตกอับลงฮวบไปแล้ว
เมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่แม้แต่ศัตรูของเปลวไฟที่อยู่ในมือของฉู่หลิวเยว่ด้วยซ้ำ
ฉู่หลิวเยว่อดหันไปเหลือบมองไม่ได้ และในฝ่ามือก็มีเพียงเปลวไฟเล็กๆ ที่ขยับอยู่เท่านั้น
ถ้าไม่ได้เห็นเองกับตาใครก็นึกไม่ถึงว่าในเปลวไฟนี้จะซ่อนพลังที่แข็งถึงเพียงนั้นเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟสีแดงนี้หลั่งไหลออกมาจากหยดน้ำหยดนั้น และสีของมันนี้ก็เหมือนกับตัวหนังสือที่เคยปรากฏอยู่บนนั้น
ฉู่หลิวเยว่พยายามกดความคิดที่โผล่ขึ้นมามากมายเอาไว้ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมามอง
“ยอมแพ้หรือจะสู้ต่อ?”
…
ชั้นที่ห้าของหอคอยจิ่วโยว
เปลวไฟสีดำนั้นลุกลามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ข้างในจนถึงข้างนอกก็เต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชน
เมื่อมองไปแล้วเหมือนดั่งนรกไม่มีผิด
จากนั้นทั้งหอคอยก็เต็มไปด้วยทะเลไฟ และมีเพียงคนคนเดียวเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปอย่างช้าๆ
เขาสวมชุดขาว รูปร่างสูงใหญ่ และเขาก้าวไปทุกย่างก้าวอย่างสบายๆ สงบและใจเย็น
แล้วท่ามกลามความมืดมิดก็มีสีขาวอยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้นเองทุกครั้งที่เดินไปหนึ่งก้าว เปลวไฟที่อยู่ตรงหน้านางก็จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งเพื่อแยกทางเดินให้กับนาง
เขาเดินเพียงลำพัง และสองสีที่เรียบง่ายก็เสริมกันและกันเป็นอย่างดี ราวกับภาพวาดภาพที่เป็นนิรันดร์ภาพหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...