ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 301

ปีศาจแดงกระพือปีกทั้งคู่ออก แล้วเปลวไฟทั้งสองก็ลุกโชนทันที จู่ๆ ด้านหลังของมันก็มีเงาใหญ่ยักษ์สีฟ้าปรากฏขึ้น พลังข่มขู่ของสัตว์อสูรระดับเจ็ดนั้นแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใด ฉู่หลิวเยว่มองปีศาจแดงด้วยความตกตะลึง และไม่คิดว่ามันจะมีเลือดนักฆ่าตั้งแต่แรกเริ่มแบบนี้

แต่เมื่อลองคิดกลับกัน ก็เหมือนว่ามันจะถูกของอะไรบางอย่างทำให้บาดเจ็บ มันโกรธแค้นมากขนาดนั้นจะปล่อยไปแบบนั้นได้อย่างใด?

ครั้งนี้มันต้องหาวิธีเอาคืนให้ได้

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังข่มขู่ที่มาจากปีศาจแดงแล้ว จู่ๆ เปลวไฟสีดำในหม้อยาใสใบนั้นก็เคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง

ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลง อสูรร้ายตัวนี้ยังไม่ตายใจ ที่มันอ่อนแรงก่อนหน้านี้ก็เพราะมันเสียเปรียบไปเท่านั้น จู่ๆ แววตาของนางก็แข็งทื่อเพราะเหมือนว่ามีแสงบางอย่างแวบผ่านหม้อยาใสใบนั้น ในใจของนางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นก็ตั้งใจดูอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้กลับมองไม่เห็นอันใดสักอย่าง

อ๊าก!

เสียงร้องที่ดังฟังชัดของปีศาจแดง เมื่อมันกระพือปีกเปลวไฟสีฟ้าที่อยู่มาสองวันก็ถูกพัดออกมาแรงๆจากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาหม้อยาใสทันที

แกร่ก!

บนหอคอยจิ่วโยว มีรอยร้าวเกิดขึ้นอีกครั้ง

จากนั้นเปลวไฟสีดำก็ปะทุออกมาทันที

เมื่อเห็นฉากนี้แล้วทุกคนก็พากันตื่นเต้นและมองอย่างเงียบๆ

เยี่ยจือถิงปล่อยพลังลูกหนึ่งเข้าไปในสากเงินอีกครั้ง แล้วพลังข่มขู่ของค่ายกลผนึกสวรรค์ก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ต่อมาก็ดูเหมือนว่าพลังในหอคอยจิ่วโยวก็ได้กลับกลายมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง

“เกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่นี้เปลวไฟสีดำหยุดไปสักพักหนึ่งใช่หรือไม่?”

ซุนจ้งเหยียนตกใจ

เยี่ยจือถิงสีหน้าเคร่งเครียด

สุดท้ายแล้ว…เขารู้สึกตั้งแต่แรกแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนนี้ดูแล้วเป็นเพราะแบบนี้นี่เอง

เมื่อครู่นี้เปลวไฟสีดำถูกค่ายกลผนึกสวรรค์ยังยั้งเอาไว้ได้แล้ว แต่อสูรร้ายตัวนั้นฮึดสู้อีกครั้ง

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพลังนี้มาจากไหน แต่ก็มั่นใจได้ว่าถ้าหากพลังของอสูรร้ายตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วค่ายกลผนึกสวรรค์ก็ต้องแตกสลายไปแน่นอน

ตึง!

จู่ๆ ก็มีหินหล่นลงมาจากหอคอยจิ่วโยว

เยี่ยจือถิงใจเสียทันที

แต่ครั้งนี้เกรงว่าหอคอยจิ่วโยวจะถล่มลงมาแล้ว

อีกฝั่งหนึ่งแววตาของชิงมู่เห่อยังคงนิ่งเฉย และเห็นว่าในเปลวไฟสีดำนั้นมีเปลวไฟสีฟ้าที่คุ้นเคยอยู่ด้วย นั่นมัน…เป็นการต่อสู้กันของปีศาจแดงและอสูรร้ายตัวนั้น?

ดูแล้วเป็นการปะทะที่รุนแรงอยู่เหมือนกัน

แต่…สถานการณ์ตอนนี้ของปีศาจแดงดูแปลกประหลาดเล็กน้อย ถึงแม้ว่ามันจะอวดเก่งมุ่งมั่น แต่ที่จริงแล้วมันก็ขี้เกียจเหมือนกัน ก่อนหน้านี้อสูรร้ายตัวนั้นได้ทำร้ายมัน มันต้องถือโอกาสนี้ล้างแค้นอย่างสาสมแน่นอนแต่นั่นก็คงไม่ได้ทำให้ความอาฆาตของมันปะทุขึ้นมาขนาดนี้ได้…

หลังจากที่ปีศาจแดงเข้าไปแล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะ…ดีใจเป็นพิเศษ?

เขาละทิ้งความคิดเหล่านั้นก่อนจะเอ่ยปากถามซุนจ้งเหยียน

“ในหอคอยจิ่วโยวนั้นยังมีอยู่อีกรึ?”

ซุนจ้งเหยียนตกใจ

“ท่านรองแม่ทัพมู่รู้ได้อย่างใดรึ?”

เขาเพิ่งจะมาถึงที่นี่คงยังไม่มีเวลาได้ฟังสิ่งที่คนอื่นๆ ในสำนักวิจารณ์กัน แต่มู่ชิงเห่อกลับคาดเดาเหตุการณ์ไว้ในใจแล้ว

“…ฉู่หลิวเยว่?” ซุนจ้งเหยียนอ้าปากค้างทันที เห็นการตอบสนองของเขาแล้ว มู่ชิงเห่อก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นไม่ผิด ฉู่หลิวเยว่ยังอยู่ในหอคอยจิ่วโยวนั้นแน่นอน เขามองไปยังหอคอยอีกครั้งด้วยแววตาที่ซับซ้อน

ความลึกลับในตัวของฉู่หลิวเยว่นั้นไม่ง่ายจริงๆ…

“ท่านรองแม่ทัพมู่กำลังเป็นห่วงหลิวเยว่อยู่รึ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์