นางหันหลังและกำลังจะเดินจากไป
“ถวนจื่อ ปีศาจแดง เราไปกันเถอะ”
หม้อยาเทียนฟังกลายเป็นของนางไปแล้ว อินทรีสามตาก็อยู่ในกำมือของนางแล้ว และหอคอยจิ่วโยวคงอยู่อย่างว่างเปล่าต่อไปไม่ได้แล้ว
ตึง!
ตูม!
แกร่ก!
ก้อนอิฐเริ่มหล่นลงมามากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหล่นลงบนพื้น
จากนั้นควันและฝุ่นก็อบอวลขึ้นทันที ฉู่หลิวเยว่รีบพุ่งไปอยู่ตรงบันไดชั้นที่เจ็ดอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็คิดจะลงไปด้านล่าง จู่ๆ สังเกตเห็นว่า รั้วกั้นที่ถวนจื่อกัดกินไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้มันกลับมาเป็นเหมือนตอนแรกแล้ว อีกอย่างก็เหมือนว่าข้างนอกของรั้วกั้นจะมีลูกกรงอีกชั้นหนึ่งด้วย
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
นี่มัน…ทันใดนั้นลูกกรงด้านนอกก็หายไปโดยไม่มีเสียงใดๆ ก่อนจะมีร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้น มีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาในใจของฉู่หลิวเยว่หรือว่า…
จากนั้นคนที่อยู่ตรงข้ามก็ยื่นมือออกมา ก่อนจะจิ้มไปที่รั้วกั้นเบาๆ ตรงกลางของรั้วกั้นค่อยๆ แตกออกอย่างไร้เสียง แล้วใบหน้าที่ทั้งเย็นชาและมีเสน่ห์ก็ปรากฏตรงหน้าทันที
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยปาก
“หรงซิว เจ้ามาทำอันใดที่นี้!”
แววตาของหรงซิวดูลึกซึ้ง ก่อนจะใช้แรงมือดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
ตูม!
ทันใดนั้นก็มีซากผนังพังลงมาและตรงกับตำแหน่งที่ฉู่หลิวเยว่กำลังยืนอยู่พอดี
ฉู่หลิวเยว่ซบอยู่ในอ้อมอกของหรงซิว ก่อนจะหันกลับไปมอง
ชั้นเจ็ดที่เดิมทีแล้วว่างเปล่าก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาแล้วบนพื้นก็เต็มไปด้วยซากหินกองเต็มไปหมด
นางถอนหายใจเบาๆ ถึงแม้ว่านางจะสามารถหลบหลีกอันตรายได้ แต่เมื่ออยู่หรงซิวอยู่ตรงนี้ นางก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้น
นางจำได้ว่าตอนที่ตัวเองเข้ามานั้น หรงซิวไม่ได้อยู่ที่นี่
นั่นก็หมายความว่าเขาเข้ามาหลังนาง
“เจ้ามาหลังจากที่หอคอยจิ่วโยวเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยปากถามเสียงเบา
“ใช่” ก่อนจะกอดนางแน่นขึ้นกว่าเดิม
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้ามองเขา
“ท่านผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นไม่ได้ห้ามเจ้าเอาไว้หรือ?”
ในฐานะที่เป็นคนเฝ้าหอคอยจิ่วโยวนั้น ท่านผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นต้องรู้อยู่แล้วว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับหอคอยจิ่วโยว
ตามหลักแล้ว เขาไม่มีทางให้หรงซิวเข้ามาแน่นอน
หรงซิวมองท่าทางที่ดูกังวลพร้อมกับแววตาที่สดใสของนางแล้วก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“ต้องห้ามแน่นอนอยู่แล้ว แต่ก็ห้ามข้าไม่ได้อยู่ดี เจ้าเป็นห่วงมากเลยหรือ?”
แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว
ตอนนี้หอคอยจิ่วโยวอันตรายมาก และหรงซิวก็ดื้อรั้นเข้ามาแบบนี้ ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นต้องไม่เข้าใจเขาแน่นอน
ก่อนหน้านี้เขาหลบซ่อนตัวมาโดยตลอด ถ้าหากว่าต้องเผยอันใดออกมาเพราะสิ่งนี้…
“ไม่ต้องเป็นห่วง”
หรงซิวพยักหน้าแล้วก่อนจะจูบเบาๆ
สัมผัสที่อบอุ่น และนุ่มนวลทำให้หัวใจของฉู่หลิวเยว่ว่างเปล่าไปชั่วขณะ
จากนั้นก็มีเสียงคลุมเครือดังออกจากริมฝีปากของหรงซิว
“เจ้าร่วมมือแสดงละครกับข้าก็พอแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่นิ่งไป
“อันใดหรือ?”
หรงซิวหัวเราะเบาๆ พลางมองไปยังท่าทางที่สับสนของนาง กลับรู้สึกว่าไม่อาจละสายตาจากนางได้ น่าเสียดายที่อีกไม่นานหอคอยจิ่วโยวก็จะพังทลายลงแล้ว ถ้าไม่อย่างงั้นพวกเขาก็ยังสามารถอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อยได้
ถึงแม้ว่าจะพยายามครุ่นคิดว่าอีกเดี๋ยวก็ต้องไปเจอกับคนเหล่านั้นแล้ว เขาจึงไม่อยากทำอันใดเกินเลย แต่เมื่อครู่นี้นั้นเขาทนไม่ไหวจริงๆ จึงจูบริมฝีปากของนางจนแดงเล็กน้อย
เขาจับใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ และค่อยๆ เช็ดฝุ่นออกจากใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน
“เป็นฉากละครที่ดีจริงๆ”
ฉู่หลิวเยว่มองเขาด้วยความไม่เข้าใจ
จากนั้น จู่ๆ หรงซิวก็ปล่อยนางออก ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งแล้วเก็บก้อนหินขึ้นมาหนึ่งก้อน และจู่ๆ ในใจของฉู่หลิวเยว่ก็มีความสงสัยและแปลกใจเกิดขึ้น
แคว่ก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...