ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 307

“เป็นเรื่องจริงหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดว่า เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล

“จริงแท้แน่นอนอยู่แล้ว ตอนนี้ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีเนื้อหนัง แต่ความแข็งแกร่งของข้านั้นยังคงอยู่ ถ้าข้าติดตามเจ้า จะเป็นมือซ้ายมือขวาที่คุ้มค่าของเจ้าแน่นอน!”

ขณะที่อินทรีสามตาพูดอยู่ แววตาอันเยือกเย็นของถวนจื่อและปีศาจแดงก็เหลือบมองมา

ถึงแม้ว่ามันจะไม่พูดอันใด แต่ความหมายของมันนั้นกลับชัดเจนมากแล้ว

ก็คือในบรรดาสัตว์อสูรนั้น มันแข็งแกร่งที่สุดแล้ว!

อย่าว่าแต่แคว้นเย่าเฉินเลย เพราะต่อให้เทียบกับทุกสำนักปรมาจารย์อสูรศักดิ์ศิทธิ์ก็สามารถทำลายล้างโลกได้

ถวนจื่อขมวดคิ้วสักพัก จากนั้นก็ยิ้มออกทันที

นั่นมันคือแววตาอันใดกัน!

ก็แค่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรือ? มีอันใดน่าภูมิใจนัก

แม้แต่เนื้อหนังยังไม่มีเลย เทียบกับตัวอื่นๆ ไม่ได้หรอก!

ปีศาจแดงเหลือบไป ก่อนจะบินไปเกาะบนไหล่ของฉู่หลิวเยว่ เหมือนกำลังบอกว่ามันไม่อยากเข้าร่วมเรื่องนี้แล้ว จากนั้นก็เอาแต่ลูบขนของตัวเอง

ขนที่มีคาบเลือดจางๆ กระจุกหนึ่งหล่นลงมา จากนั้นก็ตกลงตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ประหนึ่งไม่ได้ตั้งใจ

มันนิ่งไปสักพัก ก่อนจะซบไปที่คอของฉุ่หลิวเยว่ด้วยความโศกเศร้าพร้อมกับน้ำตาที่คลอเต็มเบ้า

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้พูดอันใด แต่การกระทำทั้งหมดนี้กลับเป็นการกล่าวหาแบบเงียบๆ ว่าก่อนหน้านี้นกอินทรีสามตาเคยทำร้ายมันมาแล้ว

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างประหม่า ก่อนจะลูบไปที่ปีกของมัน

“เอาน่า รู้แล้วว่าเจ้าเจ็บ เจ้าดูสภาพตอนนี้ของมันสิ ยังน่าสงสารกว่าเจ้าเสียอีก ก็ถือว่าเจ้าได้แก้แค้นไปแล้วไม่ใช่หรือ?”

ปีศาจแดงเบือนหน้าหนีและรู้สึกหมางใจอยู่

ฉู่หลิวเยว่เงียบไป

เหตุใดรู้สึกว่าปีศาจแดงเอาแต่ใจกว่าเมื่อก่อนเสียอีก…

“ปีศาจแดง ถ้าเจ้าของ ของเจ้ามาเห็นเหตุการณ์นี้…”

ปีศาจแดงตัวแข็งทื่อทันที

มู่ชิงเห่อเป็นคนจิตใจด้านชา ไม่ว่ามันจะทำตัวเอาแต่ใจหรือน่าสงสารแค่ไหน ก็ใช้กับมู่ชิงเห่อไม่ได้อยู่ดี และเพราะว่าตอนนี้มันอยู่ข้างฉู่หลิวเยว่ มันจึงได้เผยนิสัยหน้าไม่อายแบบนี้ออกมา

“ถ้าเจ้าคิดว่าว่างเกินไป เดี๋ยวข้าส่งเจ้ากลับไปก็แล้วกัน”

คำพูดนี้เป็นคำพูดที่ทำให้ปีศาจแดงเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้และทำตัวนิ่งไปทันที

อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะทำตัวโอหังแค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องอ้อนวอนฉู่หลิวเยว่เหมือนกันอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

ถ้าสุดท้ายแล้วมันอยากจะติดตามฉู่หลิวเยว่ ถ้าอย่างงั้นมันก็ต้องอยู่ข้างหลังสุด ถึงเวลานั้นก็จะได้สอนเรื่องกฎการมาก่อนมาหลังให้มัน!

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว ในที่สุดปีศาจแดงก็อารมณ์ดีขึ้นและกระพือปีกอย่างพอใจ

ฉู่หลิวเยว่มองไปยังนกอินทรีสามตา

“มีอสูรศักดิ์สิทธิ์ช่วยด้วยแบบนี้…คงไม่มีใครไม่ใจอ่อนหรอก…”

แม้แต่นางก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน

ตอนนี้นางอ่อนแอมาก ถ้ามีอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งคอยช่วยจริงๆ คงจะง่ายขึ้น

แววตาของอินทรีสามตาสั่นคลอน

“ดังนั้น…”

“ฉะนั้น ข้าไม่รับปาก”

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มพลางหรี่ตาแล้วบอกข้อเสนอกับอินทรีสามตา

“ข้าสามารถให้เจ้าอยู่ในหม้อยาเทียนฟังต่อได้แล้ว ก็พาเจ้าออกไปด้วย แบบนี้ใครก็จะมองไม่เห็นว่าเจ้าอยู่ในร่างของข้า ก็ถือว่าเจ้าสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้แล้ว เพียงแต่เปลวไฟสีดำในหม้อยาเทียนฟังก็จะแพร่ออกไปข้างนอกไม่ได้”

“เจ้า…”

“แน่นอนว่าข้าจะเลี้ยงเจ้าเอง ในตำแหน่งตันเถียนของข้ามีหยดน้ำอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ถ้ำเทียนหยวนฝู แต่ก็บรรจุพลังงานอยู่มากมาย ขอเพียงแค่เจ้าอยาก ข้าจะก็แบ่งมันให้เจ้าส่วนหนึ่ง และรับรองว่าเจ้าจะยังคงมีพลังและความสามารถนี้ต่อไป หรืออาจจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เจ้าจะตกลงหรือปฏิเสธ ตอนนี้เจ้าสามารถเลือกได้เลยทันที”

ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้โง่…ถึงอย่างใดอินทรีสามตาก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีเนื้อหนัง แต่วิญญาณที่มีอยู่ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่คนมีพลังระดับสองอย่างนางจะสามารถควบคุมได้ ถ้าสามารถทำให้อินทรีสามตาหนีไปได้จริง ไม่แน่เป้าหมายแรกของมันอาจจะเป็นตัวเองก็เป็นได้!

สิ่งที่สามารถควบคุมมันได้ก็มีเพียงเปลวไฟในหม้อยาเทียนฟังเท่านั้น!

นางจะรับปากว่าจะดับเปลวไฟนั้นได้อย่างใด?

อินทรีสามตาจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง

“มนุษย์นี่มันเจ้าเล่ห์เหมือนกันทุกคนจริงๆ ไม่สิ…เจ้ายิ่งกว่าเขาเสียอีก”

เดิมทีคนคนนั้นกับมันก็อาฆาตพยาบาทกันอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงมีความคิดเรื่องวิธีทรมานมันแบบนี้ขึ้นมาอีก ถึงแม้ว่าในใจมันจะเต็มไปด้วยความโกรธเคือง แต่สุดท้ายก็ต้องยอม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์