“เยว่เอ๋อร์!”
“องค์รัชทายาท!”
เมื่อเห็นทั้งคู่ปรากฏตัวแล้ว ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็พากันตกตะลึง
ถ้าคนที่พยุงกันออกมาไม่ใช่คนที่ถูกขังอยู่ข้างในอย่างฉู่หลิวเยว่และหรงซิวแล้วจะเป็นใคร
ฉู่หนิงรีบเดินเข้าไปทันที
“เยว่เอ๋อร์! เจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”
เขาถามด้วยความกังวลพลางสำรวจเนื้อตัวของฉู่หลิวเยว่ไปด้วย
เมื่อเห็นว่าบนร่างกายของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยฝุ่น และคาบเลือดแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกใจสั่นทันที
“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ปากซีดและส่ายหน้าอย่างหมดแรง
“เปล่า…ที่สำคัญคือฝ่าบาทเขา”
ฉู่หนิงเพิ่งจะเห็นว่าฉู่หลิวเยว่กำลังพยุงหรงซิวอยู่ ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะยิ่งร้ายแรงกว่าที่คิด
สีหน้าของเขาซีดเซียวสุดๆ ลมหายใจแผ่วเบาราวกับว่าจะสลบไปอย่างใดอย่างนั้น
ส่วนบนร่างกายของเขานั้นก็ยิ่งมีบาดแผลเยอะกว่า บางแผลก็ลึกจนเห็นกระดูกอีกด้วย
“เกิดอันใดขึ้นกับฝ่าบาท!”
“ตาเจ็ด!”
เมื่อเห็นหรงซิวออกมาแล้ว จักรพรรดิจยาเหวินก็ดีใจสุดๆ ก่อนจะรีบเดินเข้ามาหา
จากนั้นเมื่อเห็นบาดแผลบนตัวของหรงซิวแล้ว สีหน้าที่ดีใจของเขากลับหดหู่ลงทันที และมีความกังวลที่แน่นหนาเข้ามาแทนที่ทันที
“ตาเจ็ด! เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า จั่วหรง ผู้อาวุโสซุน”
จั่วหรงที่อยู่ด้านข้างตั้งแต่แรก ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินเข้าไป
แต่ที่ไม่ไกลก็มีซุนจ้งเหยียน และผู้อาวุโสเยี่ย กำลังวางแผนที่จะเข้าไปในซากปรักหักพังนั้น เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงรีบมาทางนี้ทันที
ตั้งแต่ที่จักรพรรดินีเห็นฉู่หลิวเยว่และหรงซิวปรากฏตัวก็นิ่งเหม่ออยู่กับที่ และไม่รู้สึกตัวอยู่นาน พวกเขาทั้งสอง…พวกเขาทั้งสองยังไม่ตาย
หอคอยจิ่วโยวเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแบบนี้ ก่อนอื่นก็เกิดเปลวไฟเผาไหม้ก่อน จากนั้นจึงถล่มลงมา พวกเขาโชคดีขนาดไหนเชียว ถึงได้ยังรอดชีวิตออกมาแบบนี้
แต่เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิจยาเหวินเดินไปแล้ว นางจึงทำได้เพียงกัดฟันแล้วเดินตาม
…
จั่วหรงช่วยตรวจชีพจรให้กับหรงซิว
จักรพรรดิจยาเหวินเอ่ยปากถาม
“เป็นอย่างใดบ้าง?”
จั่วหรงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยปาก
“ฝ่าบาทอย่าเพิ่งกังวลไปเลย ส่วนมากหลีอ๋องบาดเจ็บเพียงแค่เนื้อหนังเท่านั้น ขอแค่พักผ่อนให้ดีก็สามารถพื้นฟูได้อย่างรวดเร็วแล้ว”
จักรพรรดิจยาเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้ว ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้ว”
ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่คนก็ยังมีชีวิตรอดอยู่
แค่นี้ก็ดีกว่าที่คิดไว้มากแล้ว
จั่วหรงเอ่ยปากด้วยความสงสัย
“แต่ว่า…”
“แต่ว่าอันใด?” จักรพรรดิจยาเหวินสงสัย
“แต่ว่า…ร่างกายของหลีอ๋องนั้นอ่อนแอลงอีกแล้ว ก่อนหน้านี้นั้นไม่ง่ายเลยกว่าจะรักษาให้ดีขึ้นแบบนั้น ครั้งนี้…เกรงว่าต้องเริ่มปรับใหม่อีกแล้ว”
ในสายตาของจักรพรรดิจยาเหวินเผยสีหน้าผิดหวังออกมา
หรงซิวนั้นป่วยออดๆ แอ่ดๆ ตั้งแต่เด็ก ไม่ง่ายเลยกว่าจะดีขึ้นอย่างทุกวันนี้ นึกไม่ถึงเลยว่า…
“ช่างมันเถอะ ต่อไปค่อยว่ากันตอนนี้รีบรักษาแผลบนร่างกายของตาเจ็ดก่อน!”
หรงซิวฝืนกระตุกริมฝีมือด้วยสีหน้าซีดเซียว และพูดกระซิบเสียงเบา
“ท่านพ่อ…”
จักรพรรดิจยาเหวินรีบเอ่ยปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...