ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นว่าคนที่มีคือองค์รัชทายาทหรงจิ้น
ตั้งแต่ที่มู่ชิงเห่อได้ทำให้เขาอับอายต่อสาธารณชนในงานเลี้ยงฉลองแล้ว หรงจิ้นก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง เขาคิดว่าจะรอให้ผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อให้สถานการณ์สงบลงแล้วค่อยออกไป ฉะนั้นก่อนหน้านี้ที่เขาได้ยินข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงของหอคอยจิ่วโยวจึงไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เพียงแต่ต่อมาเขาก็ได้ยินว่าเสด็จพ่อ และแม่เลี้ยงต่างก็พากันไปที่นั่น จึงรู้สึกระวนกระวายขึ้นมา
แต่นึกไม่ถึงว่าทันทีที่มาถึงก็จะได้ยินหรงซิวขอร้องท่านพ่อให้จัดงานอภิเษกให้แบบนี้ และคู่อภิเษกสมรสก็ยังเป็นเขากับฉู่หลิวเยว่อีกด้วย
หรงจิ้นไม่ทันได้สนใจคนอื่นๆ และเอ่ยปากห้ามโดยไม่ทันได้คิดอันใด
หรงจิ้นเพิ่มความเร็วในการเดิน และมาอยู่ตรงหน้าของจักรพรรดิจยาเหวินท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ก่อนจะกลืนน้ำลาย และเอ่ยปากอย่างยากลำบาก
“เสด็จพ่อ ท่านจะเห็นด้วยกับงานแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้”
จักรพรรดิจยาเหวินขมวดคิ้ว
“องค์รัชทายาท เจ้าไร้เหตุผลเกินไปแล้ว”
เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน และใช้น้ำเสียงแบบนี้
หรงจิ้นถึงกับอึ้ง และเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตัวเองทำแบบนี้นั้นไม่เหมาะสมจริงๆ
แต่สถานการณ์ที่รีบร้อน เขาจึงไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เมื่อจักรพรรดินีเห็นหรงจิ้นเป็นแบบนี้จึงรีบนึกถึงคำพูดโง่ๆ ที่เขาเคยบอกว่าจะแต่งหรงจิ้นเข้ามาเป็นจักรพรรดิ ใจก็เต้นแรงด้วยความโมโหทันที
หรงจิ้นโผล่ออกมาตอนนี้นั้นบ้าไปแล้วหรืออย่างใด
“องค์รัชทายาท ที่นี่ไม่มีเรื่องอันใดที่เกี่ยวกับเจ้า เจ้ากลับไปก่อน”
จักรพรรดินีพูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นและหนักแน่นของนาง
แต่ตอนนั้นหรงจิ้นกับไม่ได้ฟังใครสักคน กว่าเขาจะรู้ว่าตัวเองชอบฉู่หลิวเยว่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะปล่อยให้พลาดไปแบบนี้ได้อย่างใด
จะให้เขายอมปล่อยให้นางไปอยู่ในมือคนอื่นนั้นไม่มีทางแน่นอน
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เขาจึงกัดฟัน แล้วคุกเข่าลงเช่นเดียวกัน
“เสด็จพ่อ งานอภิเษกสมรสนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญมาก ได้โปรดจงคิดให้ดีก่อน”
จักรพรรดิจยาเหวินขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เดิมทีงานอภิเษกสมรสก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อออกจากปากหรงจิ้นแล้วเหตุใดถึงกลายจะเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างใดอย่างนั้น?
“เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? หรงจิ้น ถึงเจ้าจะเป็นองค์รัชทายาท แต่เรื่องงานอภิเษกสมรสนั้นยังไม่ได้ถึงตาของเจ้าที่จะมาพูดมากแบบนี้”
เพราะเรื่องในงานเลี้ยงนั้น จักรพรรดิจยาเหวินไม่พอใจหรงจิ้นเป็นอย่างมาก วันนี้ที่ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ความอดทนของจักรพรรดิจยาเหวินจึงหมดไปตั้งนานแล้ว
ฉะนั้น เขาจึงไม่มีการไว้หน้าหรงจิ้นเลยสักนิด
จักรพรรดินีสังเกตเห็นว่าตอนนั้นเขากำลังโมโหอยู่จึงรีบเดินเข้าไป และคิดจะพยุงหรงจิ้นขึ้นมา
“ไม่ได้ยินสิ่งที่เสด็จพ่อของเจ้าพูดหรือ? ยังไม่รีบลุกขึ้นมาอีก หลีอ๋องกับแม่นางฉู่รักใคร่เหมาะสมกัน และเป็นคู่สร้างคู่สมกัน ถ้าจ้ายังพูดจาเรื่อยเปื่อยอยู่ อย่าหาว่าแม่ไม่เตือนก็แล้วกัน!”
จักรพรรดินีใช้แรงหยิกแขนของหรงจิ้น และส่งสายตาที่ข่มขู่ในมุมที่ทุกคนมองไม่เห็น
ความประทับใจที่จักรพรรดิจยาเหวินที่มีต่อหรงจิ้นนั้นถดถอยไปมาก ถ้าวันนี้ยังก่อเรื่องอีก ตำแหน่งองค์รัชทายาทนี้ คงต้องไตร่ตรองใหม่เสียแล้ว
หรงจิ้นรู้สึกเจ็บแต่ในใจกลับรู้สึกสับสนไปหมด
เขาไม่รู้ว่าถ้าตัวเองทำแบบนี้แล้วจะเกิดอันใดขึ้น แต่ว่า…
เขาอดมองไปยังฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างผอมเพรียว และถึงแม้ร่างกายของเธอจะมีเลือดเลอะเทอะ แต่ก็ยังไม่ทำลายความสง่างามของเธอ
ก่อนหน้านี้ หญิงสาวคนนี้เป็นของเขาแท้ๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบจึงยกเลิกการหมั้นหมาย แต่ถ้าจะให้เขามองดูฉู่หลิวเยว่ถูกคนอื่นขออภิเษกสมรสด้วยนั้น เขารับไม่ได้เด็ดขาด
โดยคนนั้นคือหรงซิว!
เขาคว้ามือของจักรพรรดินีเอาไว้ ก่อนจะสะบัดออกด้วยความแน่วแน่
จักรพรรดินีโมโหก่อนจะได้ยินหรงจิ้นพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“เสด็จพ่อ ลูกพูดจากใจจริง เพราะลูกชอบหลิวเยว่”
จากนั้นก็มีเสียงตกใจดังมาจากฝูงชน
“ข้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่ องค์รัชทายาทบอกว่า เขาชอบฉู่หลิวเยว่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...