มู่ชิงเห่อเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาเพื่อเป็นการเตือน
เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนเฟิงฉือไม่ได้จริงจังสิ่งที่ตนเอ่ยก่อนจะยิ้มอย่างสง่างาม
“แม้แต่ข้าก็ยังดูออก เจ้าดูไม่ออกเลยหรือ ดวงตาคู่นี้ช่างน่าสมเพชจริงๆ…”
“เจี่ยนเฟิงฉือ!”
เสียงของมู่ชิงเห่อเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
เจี่ยนเฟิงฉือหยุดพูดพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“เอาน่า ข้าไม่พูดแล้ว”
แม้ว่าเขาจะพูดกับมู่ชิงเห่อ แต่ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่
พูดตรงๆ ก็คือใบหน้าของนางนั่นเอง
“ไม่รู้ว่าคนนั้นชื่ออันใดหรือ”
เจี่ยนเฟิงฉือเป็นชายร่างสูงและรูปลักษณ์งาม เมื่อดวงตาของเขาจ้องมองไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งอย่างจริงจัง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นทะเลคลื่นที่เต็มไปด้วยความคลุมเครือและความเสน่หาจนทำให้คนหลงจมลงไปได้
ฉู่หลิวเยว่คิดอย่างไม่แน่ใจ นางไม่รู้เลยว่าเขาจะชนะใจแม่นางในแคว้นนี้ไปเท่าไหร่แล้ว
ผู้คนในราชวงศ์เทียนลิ่งทั้งหมดรู้ว่าเจี่ยนเฟิงฉือเป็นคนที่เจ้าชู้เพียงใด แต่ก็ยังมีแม่นางอีกนับไม่ถ้วนที่เดินไปเข้าหาเขาทีละคนเพียงเพื่อขอให้เขาได้เห็นตัวเองสักหน่อย
แต่คนอย่างเจี่ยนเฟิงฉื่อนั่นอยู่ท่ามกลางดอกไม้โดยที่ใบไม้ก็ไม่เกาะติดอยู่เสมอ
ฉู่หลิวเยว่ไม่เคยเข้าใจว่าเขาทิ้งแม่นางเหล่านั้นอย่างไร และทำอย่างไรให้พวกนางที่โดนทิ้งทั้งหมดนั่นไม่กลับมาร้องเรียนใดๆ กับเขาทั้งยังหลงหัวปักหัวปำด้วย
ฉู่หลิวเยว่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความอยากที่จะต่อยชายที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะต้องแสร้งเผยรอยยิ้มที่สุภาพสมบูรณ์แบบที่สุดออกไป
“ฉู่หลิวเยว่”
“โอ้!”
ดวงตาของเจี่ยนเฟิงฉือเป็นประกายขึ้นครู่หนึ่ง เขาเหลือบมองมู่ชิงเห่อด้วยความสนใจเป็นพิเศษ ก่อนที่จะยิ้มพลางพูดลากเสียงยาว
“…เป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก”
ฉู่หลิวเยว่ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขา ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายมีตัวตนที่แตกต่างกัน นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำความรู้จักเขา
“ขอบคุณสำหรับคำชมของท่านนายน้อยเจี่ยน หลิวเยว่ขอบพระทัยอย่างยิ่งที่ท่านมาไกลกว่าหลายพันกิโล เพื่อมาช่วยพวกเรา”
เจี่ยนเฟิงฉือยังคงยิ้ม แต่ก็มีความรู้สึกแปลกใจเกิดขึ้นเช่นกัน
เมื่อแม่นางหลายคนได้พบเขา พวกนางจะหน้าแดงและหัวใจเต้นถี่รัว แม้แต่ดวงตาที่แย่ที่สุดก็ยังเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างน่าอัศจรรย์
แต่แม่นางที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้นั้น ตั้งแต่เห็นเขาสีหน้าของนางกลับไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ…
ไม่น่าแปลกใจที่นางสามารถพูดคุยกับมู่ชิงเห่อและขอความช่วยเหลือจากเขาได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลพิเศษ เขาไม่คิดว่ามู่ชิงเห่อจะเต็มใจใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเชิญเขามาแน่นอน
“ได้อย่างไรกัน แม่นางงดงามวอนขอให้ช่วยเช่นนี้ เฟิงฉือเป็นเกียรติยิ่งนัก”
ฉู่หลิวเยว่แอบกลอกตาในใจ
ข้าคิดว่าเวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้วหลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไปเสียอีก
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าพลังของเจี่ยนเฟิงฉือจะยังคงถูกรักษาไว้อย่างดี
“ถ้าอย่างนั้น…เชิญรองแม่ทัพมู่และนายน้อยเจี่ยนเข้ามาข้างในก่อน”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ต้องการยืดเยื้อนาน นางจึงหันไปด้านข้างและเชิญพวกเขาเข้าไปในบ้าน
“เจ้านำทางไปก่อนเถิด”
มู่ชิงเห่อกล่าว
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้พูดอันใด ก่อนจะเดินนำเขาไป
เมื่อมองที่ด้านหลังของนาง เจี่ยนเฟิงฉือก็สะกิดแขนของมู่ชิงเห่อพลางกระซิบเสียงเบา
“ดูเหมือนข้าจะรู้แล้วว่าทำไมเจ้าถึงชวนข้ามาที่นี่”
การแสดงออกของมู่ชิงเห่อเย็นชาเช่นเคย เขาเดินไปข้างหน้าโดยไม่ได้มองด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ตั้งใจจะสนใจเจี่ยนเฟิงฉือ
แต่เจี่ยนเฟิงฉือไม่สนใจความคิดที่จะไม่แยแสของเขาพลางเผยรอยยิ้มที่มุมปากมากขึ้น
“ข้ายังไม่ได้บอกว่านางเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงโกรธแล้วล่ะ”
ฝีเท้าของมู่ชิงเห่อหยุดชะงัก
“ถ้าเจ้าไม่ต้องการหินหยาบห้าสี ก็แค่พูดต่อ หรือไม่ก็กลับไปเดี๋ยวนี้”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจี่ยนเฟิงฉือหยุดนิ่ง
“ข้าแค่พูดล้อเล่น ทำไมเจ้าต้องจริงจังด้วย… ได้ ข้าสัญญา ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก พอใจหรือยัง?”
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็เดินต่อและแอบคิดว่าคนคนนี้อารมณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนฉู่หลิวเยว่นั้นไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...