ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 342

มู่หงอวี่ถอนหายใจพลันสาวเท้าไปหาฉู่หลิวเยว่ทันที โดยไม่หันมามองเจี่ยนเฟิงฉือเลยสักนิด

เจี่ยนเฟิงฉือ “…”

เหตุใดเพียงพริบตาเขาจึงถูกละเลยเช่นนี้?

เขาหลุบตาลงเหลือบมองผ้าเช็ดหน้าในมือ พลันบีบกระชับผ้าผืนเล็กเงียบๆ ก่อนจะหมุนตัวหันมา พร้อมสีหน้าที่กลับมาเป็นปกติดังเดิม

ผู้คนมากมายต่างพากันเดินออกไป เหลือเพียงจีฉ่างที่ยังอยู่ด้านใน

“องค์หญิงเล็กพระชายาทรงร่างกายอ่อนแอนัก ไว้ข้าจะอยู่จัดการตรงนี้ให้เองนะขอรับ?”

เขาเอ่ยพลางจ้องมองมู่หงอวี่ มู่หงอวี่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และกำลังจะเอ่ยตกลง ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับดึงมือนางไว้เสียก่อน

พอเห็นแบบนั้นมู่หงอวี่ก็เปลี่ยนใจอย่างรวดเร็วราวกับเพิ่งนึกอันใดขึ้นได้ พลันเอ่ยปฏิเสธเป็นพัลวัน

“…เอ่อ…ท่านดูแลพระชายาอย่างดีมาโดยตลอด ข้าว่าท่านคงเหนื่อยมาก ฉะนั้นท่านกลับไปพักผ่อนเถอะ”

จีฉ่างชะงัก “…”

“องค์หญิงน้อยอย่าได้ห่วงไป ข้ายังแข็งแรงดี แต่ทางด้านพระชายานั้น…ตามจริงท่านอ๋องทรงฝากฝังทุกอย่างไว้ที่ข้าและหวู่ซาน ฉะนั้น พวกข้าจึงไม่สามารถผ่อนปรนให้ท่านได้ และเผื่อว่าพระชายาจะ…”

“มีรองแม่ทัพมู่กับนายน้อยเจี่ยนอยู่ที่นี่ทั้งคน พวกข้าไม่เพียงปลอดภัยเท่านั้น แต่หากเกิดอันใดขึ้นกับพระชายา พวกเขาก็สามารถจัดการได้แน่นอน ท่านอย่ากังวลนักเลย ผู้อาวุโสจีฉ่าง” ฉู่หลิวเยว่เย้ยหยัน

“แต่ว่า…”

“ท่านไม่เชื่อใจพวกเขาสองคนงั้นหรือ?” ฉู่หลิวเยว่พูดราวกับล้อเล่น ทว่านัยน์ตาคมสวยกลับแวววับเสมือนกำลังตรวจจับข้อเท็จจริง

“…ข้ามิกล้า”

จีฉ่างเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ

“อย่างนั้น…ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน หากเกิดเรื่องอันใด -hkจะรีบมาแน่นอน องค์หญิงน้อยมิต้องเป็นห่วงไป”

มู่หงอวี่พยักหน้าตอบ

“ท่านไปเถอะ ตรงนี่มีพวกข้าอยู่ทั้งคน”

จีฉ่างรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงหมุนตัวเดินออกไป

ภายใต้สายตากดดันของมู่ชิงเห่อและคนทั้งสอง เขาจึงยอมสาวเท้าออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง

เมื่อร่างของเขาหายไปจากสายตา มู่หงอวี่ก็หันมองฉู่หลิวเยว่ทันที

“หลิวเยว่ เมื่อครู่นี้เจ้า…จงใจไล่ผู้อาวุโสจีฉ่างใช่ไหม?”

ฉู่หลิวเยว่ถามกลับ “เจ้าไม่รู้สึกแปลกๆ เลยหรือ?”

มู่หงอวี่คิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะพึมพำราวไม่แน่ใจ

“ก็ดูปกติดีหนิ…แต่ เมื่อครู่เขาทำท่าเหมือนไม่อยากไปเลยนะ… หลิวเยว่ เจ้าอาจไม่รู้ แต่ผู้อาวุโสจีฉ่างกับผู่อาวุโสหวู่ซานน่ะ ทำงานให้ท่านพ่อข้ามาเป็นเวลานานแล้ว พวกเขาทำหน้าที่ปกป้องท่านแม่กับข้ามาหลายปี เขาอาจจะแค่กังวล…”

ฉู่หลิวเยว่ปรายตามองนางนิ่งๆ

พลันเสียงของมู่หงอวี่ก็ค่อยๆ ลดลง พร้อมกายบางที่สั่นไหวเล็กน้อย

“หงอวี่ อย่าพูดว่าเจ้าไม่รู้สึกแปลกๆ เลย” ฉู่หลิวเยว่เอ่ยเสียงเรียบ

มู่หงอวี่เป็นคนตรงไปตรงมา ทว่าไม่ค่อยเฉลียว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางจะโง่เขลา

ตรงกันข้าม นางฉลาดมากต่างหาก

แต่เพียงเพราะนางสนิทกับจีฉ่างมากเกินไป นางจึงเชื่อใจเขามาก และไม่อาจมองเห็นความเป็นจริงได้ชั่วขณะหนึ่ง

มู่หงอวี่ขมวดคิ้วเป็นปม แน่นอนว่านางเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เหมือนว่าผู้อาวุโสจีฉ่างจะเคร่งเรื่องการดูแลปกป้องท่านแม่มาก

คราแรกเขาไม่ยอมให้ฉู่หลิวเยว่ตรวจชีพจร และเมื่อครู่ก็ไม่ยอมจากไปง่ายๆ…

ที่สำคัญคือ ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าวิธีนี้สามารถช่วยรักษาอาการของท่านแม่ได้ แต่เขากลับดูไม่ยินดีเลยสักนิด ซึ่งต่างจากที่นางเคยจินตนาการไว้มาก

เขาติดตามท่านพ่อและท่านแม่ของนางมาหลายปี และเขาเคยเทียววิ่งหาวิธีรักษาอาการป่วยของท่านแม่มาหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนี้พอมีความหวัง ปฏิกิริยาของเขากลับแปลกไปเสียอย่างนั้น

“นี่เจ้าจะพูดว่า…”

มู่หงอวี่เหลือบมองฉู่หลิวเยว่เชิงไม่แน่ใจ

ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ

“ก็อย่างที่เจ้าคิด อย่างไรเจ้าก็ต้องจำไว้เสมอว่าบนโลกนี้ แม้แต่คนที่เจ้าสนิทสนมและไว้วางใจมากที่สุด ก็อาจทรยศเจ้าได้ เมื่อถึงตอนนั้น ตัวเจ้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่มีทางรู้ได้เลย”

มู่ชิงเห่อชะงักตัวแข็งทื่อทันที

ส่วนเจี่ยนเฟิงฉือก็เหลือบมองฉู่หลิวเยว่เล็กน้อย

น่าสนใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์