อักขระที่อยู่บนเศษกระดาษทอประกายแสงแวววับ พลันอักขระที่อยู่บนกำแพงก็จางหายไป
ต่อมาเจ้าสิ่งนั้นก็ลอยไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองมัน และเมื่อนางเห็นสิ่งที่อยู่บนนั้น ถึงกับอ้าปากค้าง
เนื้อหาบนหน้าเศษกระดาษบางๆ ที่เหลือนั่น เหมือนกันกับประโยคที่อยู่บนกำแพงสุดท้ายทุกกระเบียดนิ้ว!
ตัวอักษรทุกตัว และแม้แต่ประกายแสงที่เปล่งออกมา ล้วนแล้วแต่เหมือนกันหมด!
ขนาดของเศษกระดาษบางๆ นี่ เกรงว่าจะไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่บนกำแพงนั่นด้วยซ้ำ ทว่ายามฉู่หลิวเยว่มองมัน ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด นางกลับสัมผัสได้ว่ารูปอักขระเหล่านั้นสะท้อนอยู่บนเศษกระดาษแผ่นนี้ แถมยังมองเห็นได้ชัดเจน แม้ความจริงมันจะมีขนาดเล็กและโปร่งใส่ไปหน่อยก็ตาม
มันเป็นเพียงหน้ากระดาษที่โปร่งใสและไม่สมบูรณ์ แต่ฉู่หลิวเยว่รู้สึกราวกับว่ามันอาจจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ภายใน ซึ่งสามารถรองรับได้ทุกสิ่งอย่าง
ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือของนางออกไป และชิ้นส่วนโปร่งใสก็ลอยกลับเข้ามาในมือนาง
นางหลุบตาลงมองอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเห็นว่ารูปอักขระทุกตัวปรากฏอยู่บนนั้นอย่างชัดเจน!
นางอ้าปากกว้าง ทว่าดันตกใจจนพูดไม่ออก
เศษหน้ากระดาษบางๆ นี่ ความจริงแล้วมันเป็นลายพิมพ์ของอักษระศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนที่ขาดหายไปบนกำแพง ซึ่งถูกพิมพ์ลายไว้อย่างสมบูรณ์!
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ฉู่หลิวเยว่คงไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแน่นอน!
ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนคือทักษะอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ที่ดำรงอยู่ แต่กลับซ่อนไว้เช่นนี้
ฉู่หลิวเยว่หลับตา ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้หายไปไหน!
นางเหลือบมองดูกำแพงอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันใดเกิดขึ้น
วินาทีถัดมา ฝ่ามือของนางเย็นลงเล็กน้อย จากนั้นหน้ากระดาษที่ไม่สมบูรณ์ก็กลายเป็นหยดน้ำ และกลับเข้าไปอยู่ในตำแหน่งตันเถียนของนาง
ต่อมาฉู่หลิวเยว่ก็สัมผัสได้ทันทีว่า มีบางอย่างกำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในสมองของนาง
สิ่งนั้นก็คือ ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียน!
แม้ว่านางจะยังไม่เข้าใจมัน แต่มันมีอยู่จริงในร่างกายของนาง!
“นี่มัน…เช่นนี้เองหรือ”
ฉู่หลิวเยว่พึมพำกับตัวเองอย่างอดไม่ได้
นางรู้เพียงแค่ว่า หยดน้ำที่อยู่ในตำแหน่งตันเถียนของนางนั้นมีพลังมหาศาล และมันสามารถช่วยชีวิตนางได้ทุกครั้งที่เผชิญกับภัยอันตราย
แต่คิดไม่ถึงว่า…มันยังสามารถช่วยนางคัดลอกแบบศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนได้ด้วย!?
ไม่สิ ควรจะพูดว่า ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนสามารถคัดลอกแบบนี้ได้ด้วยหรือ!?
“นั่นไม่ใช่การลอกลาย แต่เป็นการบังคับเอาพลังระดับเทียนที่บรรจุอยู่ภายในนั้นออกมาต่างหาก”
อินทรีสามตาเอ่ยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึงไปชั่วขณะ
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
อินทรีสามตาเอ่ยช้าๆ
“เจ้าลองมองอีกทีสิ”
ฉู่หลิวเยว่หันมองกำแพงส่วนสุดท้ายอีกครั้ง
“ไม่เห็นมีอันใดเปลี่ยน…”
ทว่าพูดยังไม่ทันจบประโยค ฉู่หลิวเยว่ก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
อักขระในนั้นไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบ ทว่าความรู้สึกโดยรวมนั้น เหมือนจะแตกต่างออกไป
เสมือนว่า… ความรู้สึกอันศักดิ์สิทธิ์ที่อธิบายไม่ได้ก่อนหน้านี้หายไป และเหลือเพียงกองอักขระธรรมดาเท่านั้น
และตัวอักษรเงินตัวใหญ่สามตัวที่ลอยอยู่ต่อหน้านางก็ค่อยๆ จางลง และในที่สุดก็หายไปอย่างสมบูรณ์
“เหตุผลที่ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนแตกต่างจากระดับอื่น นั่นเพราะว่ามันประกอบด้วยพลังแห่งสวรรค์ เมื่อพลังนี้ถูกเจ้าเอาไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ที่นี่ก็สูญเปล่าโดยสิ้นเชิง หากปราศจากการนำทางของพลังแห่งสวรรค์ จากนี้แม้ว่าผู้ฝึกตนคนอื่นๆ จะมายืนดูมันต่อไปอีกกี่ร้อยปี ก็ไม่สามารถเข้าใจแก่นแท้ของเนื้อหาได้”
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจในทันที
“เป็นเช่นนั้นเอง! พูดง่ายๆ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า…พลังแห่งสวรรค์นั้น เทียบเท่ากับจิตวิญญาณที่อยู่ในศิลปะการต่อสู้ระดับเทียน หากปราศจากสิ่งนี้ ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนก็ไร้ค่า?”
“ดูๆ แล้วเจ้าก็ไม่ได้โง่นี่”
อินทรีสามต่อตอบกลับอย่างเย็นชา
ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจการถากถางดูถูกของอินทรีสามตา
การที่มันยอมบอกรายละเอียดเหล่านี้กับนาง ทำให้นางตื่นเต้นจนไม่ถือสาเอาความใดใด
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ถามต่อไปว่า “แล้วถ้าข้าออกไปตอนนี้ และแอบเอาของออกไปด้วย คนอื่นจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นที่นี่หรือไม่?”
อินทรีสามตาเยาะเย้ยด้วยความเย่อหยิ่งที่ปิดไม่มิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...