ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 358

ฉู่หลิวเยว่มองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

ชั้นห้าไม่ใช่ชั้นที่ว่างเปล่าอย่างแน่นอน!

ในทุกทิศทางที่นี่มีความลับที่น่ากลัวเช่นนี้ถูกซ่อนไว้!

ฉู่หลิวเยว่ต้องการก้าวไปข้างหน้า ทว่าทันใดนั้น แสงสว่างโชติช่วงจากทั้งสี่ด้านก็ค่อยๆ รวมตัวกันต่อหน้านาง

ชั่วขณะนั้น บริเวณเหนือศีรษะกลางอากาศตรงหน้านาง ก็มีอักขระสีเงินขนาดใหญ่สามตัวปรากฏขึ้น

“หัตถ์ศักดิ์สิทธิ์!”

อักขระสามคํานี้เปรียบเหมือนสายน้ำพลิ้วไหวเอื่อยๆ เป็นประกาย แต่กลับมีอานุภาพสูงสุดขีด!

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง!

ลมปราณนี้คล้ายกับนิภาปลายนิ้วมาก แต่แข็งแกร่งกว่านิภาปลายนิ้วหลายเท่า!

อีกทั้งอานุภาพของมันนั้น…มหาศาลกว่ามาก!

หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นแรงราวกับถูกดูดดึงด้วยสิ่งลี้ลับบางอย่าง นางค่อยๆ เหยียดนิ้วออกและแตะที่อักขระใหญ่สามคําเบาๆ!

ราวกับทะเลสาบที่เงียบสงัดถูกก้อนกรวดโยนลงไป

ทันใดนั้นความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้านาง ก็กระเพื่อมโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่อักขระสามคํานั้น ระรอกคลื่นกระจายออกไปทุกทิศทาง!

คลื่นลูกใหญ่กระจายไปทั่วรอบกําแพง

ชวิ้ง!

ความผันผวนกำลังจะมาเยือนอีกครั้ง!

ฉู่หลิวเยว่จ้องเขม็ง!

ลายเส้นอักขระที่ปรากฏบนผนังรอบด้านเปล่งประกาย เช่นเดียวกับดวงดาวระยิบในค่ำคืนที่มืดมิด

หัวใจของนางกระสับกระส่าย!

ความแปรปรวนนี้เหมือนกับความรู้สึกที่นางเคยสัมผัสได้ตอนอยู่ที่ชั้นสี่!

ครู่ต่อมา จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ยากจะอธิบายที่ผุดขึ้นจากปลายนิ้วจนถึงก้นบึ้งหัวใจของนาง

ในชั่วพริบตา ดูเหมือนว่านางจะมีความเชื่อมโยงบางอย่างที่อธิบายไม่ได้กับพื้นที่ความว่างเปล่านั้น

เมื่อรู้สึกเช่นนั้น นางจึงเงยหน้าขึ้นมองทางซ้าย และวิเคราะห์อักขระที่อยู่บนนั้นอย่างละเอียด

ซึ่งในไม่ช้าก็พบว่าเนื้อหานั้นเหมือนกับนิภาปลายนิ้วที่นางเคยเห็นมาก่อนไม่มีผิด!

จากนั้นนางก็มองไปยังพื้นผิวของกำแพงที่อยู่ถัดไป

แน่นอนว่าเนื้อหาข้างต้นเหมือนกับเนื้อหานิภาปลายนิ้วเมื่อก่อนหน้านี้!

แต่เมื่ออ่านแล้ว ฉู่หลิวเยว่กลับพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

สิ่งที่อยู่บนกำแพงที่สองนี้ มันเปลี่ยนนิภาปลายนิ้วเป็นวิชาฝ่ามือประเภทหนึ่ง!

อีกทั้งอานุภาพก็มีมากกว่า!

ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงและทำสมาธิเพื่ออ่านอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยภาพรวมนางสามารถระบุได้ว่าระดับวิชาฝ่ามือนี้อยู่ในระดับตี้ขั้นกลาง!

ทันใดนั้นความคิดที่เหลวไหลและกล้าหาญก็ปรากฏขึ้นในความคิดของฉู่หลิวเยว่!

นางแทบรอไม่ไหวที่จะดูกําแพงที่สาม!

มาถึงตรงนี้ก็เปลี่ยนจากวิชาฝ่ามือเป็นวิชาหมัด!

และที่สําคัญกว่านั้น เมื่อศิลปะการต่อสู้นี้ได้รับการฝึกฝนแล้ว อาจมีแนวโน้มที่จะไปถึงระดับตี้ขั้นสูง!

ฉู่หลิวเยว่หายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบใจที่เต้นแรงก่อนมองไปที่กําแพงสุดท้าย!

เช่นเดียวกับกําแพงทั้งสามที่อยู่ด้านหน้า มันเองก็มีอักขระระยิบระยับปรากฏอยู่ด้วย ฉู่หลิวเยว่อ่านอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับไม่เข้าใจว่ามันคืออันใด

คำทั้งหมดอ่านยากและดูสับสนมาก

ฉู่หลิวเยว่มองดูอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ยังคิดไม่ออก

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทําให้หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

ว่ากันว่าศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนไม่เหมือนกับศิลปะการต่อสู้ทั่วไปที่บันทึกด้วยหมึก

ศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนล้วนได้มาจากสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ที่เข้าใจวิถีแห่งสวรรค์

หากต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนแล้วล่ะก็ มันจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องใช้พลังในการรับรู้

หากระดับของผู้ฝึกไม่เพียงพอ ก็จะไม่สามารถสัมผัสได้และก็ไม่สามารถเข้าใจได้

ขณะเดียวกันนั้น!

ฉู่หลิวเยว่เคยเห็นศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนมาแล้วครั้งหนึ่งในชีวิต และนั่นคือวันที่นางอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์

มันถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของราชวงศ์เทียนลิ่งและเป็นมรดกล้ำค่าของราชวงศ์มาโดยตลอด

เดิมทีต้องรอหลังจากนางขึ้นครองราชย์แล้ว นางถึงสามารถเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนอย่างเป็นทางการได้ แต่นางไม่สามารถรอจนถึงวันนั้นได้

อย่างไรก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แต่นางก็ยังคงจําภาพนี้ได้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนอยู่ตรงหน้า!

นางจดจําทุกอย่างในตอนนั้นได้ไม่มีวันลืม!

นางสามารถระบุได้ว่าเนื้อหาบนกําแพงสุดท้ายนี้ คือศิลปะการต่อสู้ระดับเทียนแน่นอน!

มือของฉู่หลิวเยว่กําหมัดแน่น เลือดในร่างกายดูเหมือนจะเดือดปุดๆ ทําให้ร่างกายของนางร้อนขึ้นมาเหมือนจะไหม้