สรุปเนื้อหา บทที่ 406 ทางเข้า [รีไรท์] – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 406 ทางเข้า [รีไรท์] ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉู่หลิวเยว่ไม่มีทางจำผิดแน่นอน เสียงนี้เป็นของมู่ชิงเห่อที่กำลังเรียกหานาง
ชั่วพริบตาภายในใจของฉู่หลิวเยว่ก็เต็มไปด้วยห้วงอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อน
จนนางเองก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้อย่างใด
เพราะนางไม่เคยคิดว่ามู่ชิงเห่อจะเรียกนางด้วยน้ำเสียงเช่นนี้
มันเหมือนกับ…ตอนนั้นที่นางเพิ่งจะพาเด็กชายที่ขาดสติกลับมา เขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย และได้แต่อ้อนวอนนางด้วยความขลาดอาย
“ซั่งกวน สิ่งนี้คือสิ่งใดหรือ…”
“ซั่งกวน เหตุใดสิ่งนั้นจึง…”
“ซั่งกวน ข้าจะไม่มีวันสร้างปัญหาให้ท่าน…”
“ซั่งกวน…”
แม้แต่ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ก็ยังจำสีหน้าท่าทางตอนที่เขาพูดประโยคเหล่านั้นได้
ความจริงแล้วตอนนั้นนางชอบมองท่าทางเขินอายของเขามากๆ
คนในเหล่านั้นล้วนเฉลียวฉลาดอย่างมาก เมื่อพวกเขาปฏิบัติต่อนาง ก็มักจะกระตือรือร้นที่จะเอาใจนางเสมอ แต่ก็แอบเย็นชา และเฉยเมยใส่นางเช่นเดียวกัน
ย้อนกลับไปตอนนั้นนางคิดว่ามู่ชิงเห่อแตกต่างจากคนพวกนั้น
นางมักจะคิดว่าเขาเชื่อใจนาง สามารถเป็นที่พึ่งพาของกันและกันได้อย่างแท้จริง
มู่ชิงเห่อเคยกล่าวไว้ว่า เขาจะซื่อสัตย์ต่อนาง และมอบทุกอย่างนางแม้กระทั่งชีวิตของเขาเองก็ด้วย
ด้วยเหตุนี้ ฉู่หลิวเยว่จึงปฏิบัติต่อเขาด้วยความอดทน และอดกลั้นมากกว่าคนอื่นๆ
ทว่าหลังจากนั้น…ฉู่หลิวเยว่เผลอกำหมัดโดยไม่รู้ตัว พลันกัดฝังรอยฟันคมๆ ลงไปอย่างแรง
อาการปวดแสบปวดร้อนทำให้นางดึงสติกลับมาได้มากกว่าเดิม
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหัวอย่างรุนแรง และพยายามลบความทรงจำเหล่านั้นออกจากสมอง
ทว่ายิ่งทำเช่นนั้น ภาพในหัวของนางก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
เมื่อเทียบกับใบหน้าโศกเศร้าเปื้อนน้ำตาของมู่ชิงเห่อที่อยู่ตรงหน้า ฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกขุ่นเคืองใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
มุมปากของนางยกโค้งราวกับกำลังยิ้มเยาะให้ตัวเอง
มู่ชิงเห่อในยามที่เจ้ารู้ว่าซั่งกวนเยว่ตายจากไปแล้ว เจ้าเคยรู้สึกเสียใจบ้างหรือไม่?
หรือว่าความจริงเจ้ารู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้น
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง และเมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยก็กลับมาสงบนิ่งดังเดิม
เมื่อมองสภาพของมู่ชิงเห่อในตอนนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าเขานั้นไม่ต่างจากนางสักเท่าใด เมื่อเห็นบางอย่าง ก็จะถูกสิ่งเร้าที่มีอำนาจมหาศาลกระตุ้นจิตใจไม่ต่างกัน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉู่หลิวเยว่อยากรู้จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่
เขาลงทุนเดินทางมาหลายพันลี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เพื่อเอาตัวมาทรมาน หรือมานั่งสำนึกผิดแน่ๆ
ฉู่หลิวเยว่หันมองไปที่พีระมิดสีเงินที่อยู่ข้างหน้า
หรือเขาจะมา…เพื่อเจ้าสิ่งนี้กัน
…
สิ่งที่ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ก็คือ เมื่อนางออกจากพื้นที่ที่นางเคยอยู่ก่อนหน้านี้ และหลุดมายืนอยู่กลางทะเลสาบ วงแหวนที่หมุนช้าๆ บนยอดเขาซีจินก็ได้ส่องแสงสว่างขึ้นนานนับหนึ่งเค่อ!
เมื่อเห็นสิ่งนี้จักรพรรดิจยาเหวินที่กำลังพยายามหาทางเข้าไป แต่ยิ่งไม่เข้าใจสถานการณ์มากกว่าเดิม คิ้วของเขาขมวดพันกัน
แค่ถูกสุสานของบรรพชนตัวเองละทิ้งไว้ด้านนอกก็น่าละอายพอแล้ว และตอนนี้เขายังต้องมาเฝ้ามองคนอื่นเข้าไปทำลายกลไกด้านในอีก
คิดว่าเขายังจะทนได้อีกหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้นถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่เขารู้ความลับของสุสานจักรพรรดิแห่งนี้
เมื่อวงแหวนส่องสว่างเต็มที่แล้ว สุสานของจักรพรรดิก็จะ…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หว่างคิ้วของจักรพรรดิจยาเหวินก็มีรอยย่นเพิ่มขึ้นมาอีก
เมื่อตระหนักถึงรัศมีมืดมนที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา ผู้อาวุโสจงฉี และคนอื่นๆ ต่างก็ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
ส่วนเยี่ยจือถิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง พอเห็นฉากนั้น ก็พลันหน้าเปลี่ยนสี
“ฝ่าบาท รอข้าไม่ได้แล้ว ท่านต้องหาทางเข้าไปทันที ไม่เช่นนั้น…”
“ข้ารู้แล้ว! แต่ข้าพยายามหลายครั้งแล้ว ก็เข้าไม่ได้สักที”
จักรพรรดิจยาเหวินเต็มไปด้วยความหงุดหงิด แม้กระทั่งหันมาเผชิญหน้ากับเยี่ยจือถิง เขาก็ใจร้อนเสียจนแทบควบคุมน้ำเสียงไม่ได้
เยี่ยจือถิงรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีน้ำโห แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอันใดนักพลางเอ่ยต่อว่า
“ในเมื่อทางนี้เข้าไม่ได้ เช่นนั้น…ทางอื่นเล่า?”
จักรพรรดิจยาเหวินชะงัก พลันนัยน์ตาคมก็ทอประกายวาววับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...