เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 500

ในเมื่อมู่ชิงเห่อก็ออกปากมาเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่านางไม่สามารถทำให้เขาผิดหวังได้

ชาติที่แล้วนางช่วยมู่ชิงเห่อมาตั้งมากขนาดนั้น ชาตินี้เขาก็ควรจะตอบแทนให้เสียหน่อย

เมื่อเชียงหว่านโจวได้ยินเช่นนั้น เขาก็พยักหน้าลง

เขาไม่ค่อยมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน อีกทั้งไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของคนอื่น

คำพูดเมื่อครู่นี้ของต้วนจืออวี่ ก็หมายความว่าฉู่หลิวเยว่สามารถซื้ออันใดก็ได้

งั้นถ้านางจะซื้อของพวกนี้ ก็ต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

“อ่าจริงสิ เจ้าไปดูทางนั้นหน่อย มีอันใดที่ชอบก็ซื้อกลับมา”

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มตาหยีแล้วหันไปพูดกับเชียงหว่านโจว

เชียงหว่านโจวไม่ได้สนใจของพวกนี้ แต่ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นผู้ติดตามของฉู่หลิวเยว่ เขาก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของนาง

เขาขานรับหนึ่งคำ เขาก็กวาดสายตามองผ่านตู้กระจกไป

แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาอยู่ห่างจากฉู่หลิวเยว่ไม่เกินสามก้าวเลย

ฉู่หลิวเยว่เชิดหน้าขึ้น

“ทางนั้นเจ้าสามารถเดินไปดูด้วยตนเองได้”

แต่เชียงหว่านโจวกลับส่ายหน้า

ในใจของฉู่หลิวเยว่ก็คิดว่าเด็กคนนี้สมองตายแล้วแน่นอน แต่มุมปากของนางกลับกระตุกขึ้น

“งั้นข้าช่วยเจ้าเลือกก็แล้วกัน”

เชียงหว่านโจวพยักหน้าอย่างเงียบๆ

ท่าทางเชื่อฟังและเป็นเด็กดีของเขาแบบนี้ มันทำให้ดูน่ารัก น่าทะนุถนอมอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่อดทนไม่ให้ตัวเองพุ่งเข้าไปขยี้ผมของอีกฝ่ายได้สำเร็จ จากนั้นนางจึงเดินไปด้านหน้าต่อไป

ต้วนจืออวี่ก็ลากร่างกายของตัวเองเดินตามฉู่หลิวเยว่ไป

“มากกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ? นี่มันหยกหัวใจเพลิงที่คุณภาพดีที่สุดเลยนะ ตอนนั้นข้าทุ่มแรงไปอย่างมากเพื่อขุดของชิ้นนี้มา…”

ทันใดนั้นเองเสียงของอวี้ฉือซงก็ดังขึ้นมา

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นไปมอง จากนั้นก็เห็นเขากำลังคุยอยู่กับพนักงานคนหนึ่งอยู่

ในมือของเขาถือกล่องหยกสีดำเอาไว้อยู่ สีหน้าดูเร่งรีบและลำบากใจอยู่หลายส่วน

ที่แท้เขาก็ไม่ได้มาซื้อสมุนไพร แต่กลับมาขายสมุนไพรนี่เอง

ใบหน้าของพนักงานคนนั้นเต็มไปด้วยความกังวล

“ท่านประมุขอวี้ฉือ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะขอรับ นี่คือราคาที่สูงที่สุดที่พวกเราให้ได้แล้วขอรับ”

ใบหน้าของอวี้ฉือซงก็แสดงความผิดหวังออกมาเล็กน้อย

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดของก็ถอนหายใจออกมา พร้อมผลักกล่องหยกกล่องนั้นออกไปด้านหน้า

“ช่างเถอะ เอาเช่นนั้นก็ได้”

กล่องหยกกล่องนั้นถูกเปิดออกมาแล้ว และฉู่หลิวเยว่ก็บังเอิญเห็นของสิ่งนั้นพอดี

มันคือตราประทับหยกสลักที่งดงามก้อนหนึ่ง ไล่ระดับสีจากอ่อนไปเข้ม

ด้านนอกจะมีสีใส ตรงกลางสีเข้มอย่างมาก ไม่มีร่องรอยความความเสียหายหรือสิ่งสกปรกเลย

ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้าง

ตราประทับนั้นเป็นของที่อวี้ฉือซงเคยชอบมากที่สุด!

ก่อนหน้านี้นางก็อยากจะเอามาเล่น ก็ต้องขอร้องเขาอยู่หลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาหวงแหนหยกชิ้นนี้มากแค่ไหน

แต่ตอนนี้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะนำมันออกมาขาย!?

พนักงานคนนั้นปิดกล่องหยกด้วยความระมัดระวัง

แววตาของอวี้ฉือซงเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ เขาอ้าปากขึ้นมาเหมือนจะพูดอันใดสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูด

พนักงานคนนั้นก็ยื่นบัตรมาให้เขาใบหนึ่ง

“นี่คือหนึ่งหมื่นผนึกศิลาขาว ได้โปรดรับไว้ด้วยขอรับ”

อวี้ฉือซงรับบัตรใบนั้นมา หลังจากนั้นก็ถูมันโดยไม่รู้ตัว ในที่สุดก็ถอนสายตากลับมา แล้วเดินจากไป

ฉู่หลิวเยว่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในใจของเขาเต็มไปด้วยความเงียบเหงา

ตอนที่อวี้ฉือซงเดินผ่านไหล่ของนางไป ฉู่หลิวเยว่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างที่แผ่กระจายออกมา

ตอนที่นางกำลังจะเปล่งเสียงออกไป นางก็นึกถึงสถานะของตนเองขึ้นมาได้ ดังนั้นนางจึงกลืนคำพูดทุกคำลงคอไป

หลังจากอวี้ฉือซงเดินจากไปแล้ว นางก็ถามขึ้นเหมือนไม่ได้ตั้งใจว่า

“ที่แท้ที่หอร้อยโอสถก็รับซื้อสมุนไพรด้วยหรือ?”

พนักงานที่ดูแลนางอยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมาว่า

“แน่นอนอยู่แล้วขอรับ อีกทั้งราคาของเราก็สมเหตุสมผลที่สุดในซีหลิงแล้ว”

เป็นไปได้อย่างมากว่าจะต้องมีคนอื่นมากดเขาอยู่!

ในตอนนั้นความสัมพันธ์ของนางกับอวี้ฉือซงดีอย่างมาก เจียงอวี่เฉิง ซั่งกวนหว่าน จงใจจะมาแก้แค้นพวกเขา ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้…

หากเพราะนางทำให้ชงซวีเก๋อเป็นเช่นนี้จริงๆ ล่ะก็…

ในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกสับสนอย่างมาก และเงียบไปครู่หนึ่ง

“คุณหนูฉู่ คุณหนูฉู่? ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

เมื่อพนักงานคนนั้นเห็นดังนั้น จึงตะโกนเรียกฉู่หลิวเยว่อยู่สองครั้ง

ฉู่หลิวเยว่จึงได้สติคืนมา

สีหน้าของนางก็กลับมาปกติดังเดิม พร้อมยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“อ่า ไม่มีอันใด ข้าแค่กำลังคิดว่าตราประทับหยกอันนั้นไม่เลวเลย”

ต้วนจืออวี่ที่ยืนเงียบมาโดยตลอด หางตาก็กระตุกขึ้นมาอีกครั้ง

จากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็เดินไปที่พนักงานที่กำลังเก็บกล่องหยกนั้นอยู่ นางยืนมองอยู่ที่หน้าตู้

กล่องหยกสีดำกล่องนั้นยังไม่ทันได้เก็บเรียบร้อย

ฉู่หลิวเยว่ก็พูดขึ้นว่า

“เอาของชิ้นนั้นมาให้ข้าดู”

พนักงานทั้งสองคนก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จึงรีบยื่นให้ด้วยความเคารพ

ฉู่หลิวเยว่มองอยู่ครู่หนึ่ง

“ข้าเอาชิ้นนี้”

“ในเมื่อคุณหนูฉู่ซื้อของที่หอของเราเยอะเช่นนี้ ดังนั้นสมบัติชิ้นนี้ข้าจะขายให้ในราคาเดิมก็แล้วกันขอรับ”

คุณหนูฉู่ท่านนี้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลมู่ มือเติบ สามารถดึงมาเป็นพวกจะดีที่สุด

ใครๆ ก็รู้ว่าในจวนของตระกูลมู่มีแต่ผู้ชาย ตอนนี้มีผู้หญิงปรากฏตัวเข้ามาหนึ่งคน และยังเป็นผู้หญิงที่งดงาม อ่อนเยาว์อีกด้วย ไม่แน่ว่ารองแม่ทัพมู่ที่มีหัวใจเหล็ก อาจจะคิดอันใดกับนางอยู่ก็ได้

หากดูจากท่าทางแบบนี้ นางอาจจะได้กลายเป็นนายท่านผู้หญิงของจวนตระกูลมู่ก็ได้

แน่นอนว่าฉู่หลิวเยว่ไม่มีทางรู้ความคิดของคนพวกนี้ สามารถซื้อได้ในราคาเดิมก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว

นางจึงหยิบตราประทับนั้นขึ้นมา แล้วลูบมันเบาๆ จากนั้นในใจของนางก็รู้สึกว่าเหมือนมีอันใดพวยพุ่งขึ้นมา

“ประมุขท่านนั้นเคยเอาของอันใดมาขายที่นี่บ้าง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์