แม้ว่าการสอบของสำนักเทียนลู่จะแบ่งออกเป็นช่วงชั้นต่างๆ และแต่ละส่วนจะแบ่งออกเป็นสามเขต แต่โดยปกติแล้วสามอันดับแรกจะได้รับการแจ้งเตือน
ขณะเดียวกัน ในระดับต่างๆ การมอบรางวัลสำหรับนักเรียนดีเด่นก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนคนอื่นได้เช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของซือถิงจะปรากฏในอันดับแรกแรกของการสอบปรมาจารย์ แต่ฉู่หลิวเยว่มีสิทธิอันใดมาครองอันดับที่สองด้วย!
บริเวณหลังเขาที่เคยเสียงดังคึกโครมก็ตกอยู่ในความเงียบทันที!
ร่างของฉู่เซียนหมิ่นนิ่งค้าง เย็นสันหลังวาบ ดูเหมือนนางจะควบคุมตนเองไม่อยู่แล้ว
หัวสมองนางขาวโพลน มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่วนเวียนในหัวไม่หยุด จนสมองนางแทบจะระเบิดอยู่แล้ว
ฉู่หลิวเยว่!
สอบปรมาจารย์ได้ที่สอง
เกิดเช่นสิ่งใดขึ้น
เป็นไปได้ยังไง!
การเป็นปรมาจารย์มีเงื่อนไขสำหรับพรสวรรค์ความสามารถมากสูงมาก แม้กระทั่งนางยังไม่มีดวงเป็นปรมาจารย์นั่นได้ แล้วนับประสาอะไรกับฉู่หลิวเยว่นั่น!
ในไม่ช้า ทุกคนต่างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่ว
“ฉู่หลิวเยว่ได้ที่สองหรือ ไม่มีอะไรผิดพลาดจริงๆ ใช่หรือไม่”
“คิดอย่างไรข้าก็ว่ามันผิดปกติ ไหนบอกว่าฉู่หลิวเยว่ผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถ แม้กระทั่งเส้นชีพจรยังพิการมิใช่หรือ”
“มีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้หรือไม่…ต่อให้นางจะผ่านการทดสอบนี้ แต่นางจะเป็นอันดับสองได้อย่างไร”
ต้องทราบก่อนว่านอกจากซือถิงแล้ว ยังมีอัจฉริยะด้านปรมาจารย์อีกหลายสิบคนที่เข้าร่วมการสอบนี้ด้วย!
คนเหล่านี้ล้วนผ่านการศึกษาเล่าเรียนในสำนักมานานกว่าครึ่งปีแล้ว พวกเขาจะเทียบฉู่หลิวเยว่ไม่ติดได้อย่างไร
มีบางคนเอ่ยถามด้วยความลังเล
“นี่มัน…จริงหรือเปล่าเนี่ย หรือนางมีพรสวรรค์ด้านปรมาจารย์จริงๆ เพราะเหตุนี้ ท่าทีของอาจารย์ไป๋เชินก็สามารถอธิบายทุกสิ่งได้แล้ว…”
“เป็นไปไม่ได้!”
ฉู่เซียนหมิ่นกรีดร้องโดยไม่รู้ตัว และเมื่อทุกคนหันมามอง นางก็ตกใจว่าตัวเองเสียภาพพจน์ นางจึงตะลีตะลานอธิบายทันที
“ข้า ข้าหมายถึง ชีพจรของพี่สาวข้าไม่สมบูรณ์จริงๆ หากนางมีพรสวรรค์ด้านปรมาจารย์ เป็นไปไม่ได้ที่ทางบ้านจะไม่รู้…ข้าเองก็ไม่รู้ว่านางทำได้ยังไง”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือฉู่หลิวเยว่ได้ที่สองมาอย่างไม่ถูกต้อง
มีบางคนหัวเราะเบาๆ
“ฉู่เซียนหมิ่น เจ้าแย่งความรักมาจากองค์ชายรัชทายาท ต่อให้มีอะไรจริง ฉู่หลิวเยว่ก็คงไม่บอกเจ้าหรอกมั้ง”
เพราะคำพูดนี้ทำให้ทุกคนต่างส่งเสียงหัวเราะ
เรื่องที่งานเลี้ยงวันเกิดของรัชทายาทเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นที่เลื่องลือไปทั้งเมืองหลวง ฉู่เซียนหมิ่น ริอาจอุทิศถวายตัวยั่วยวนองค์ชายรัชทายาท ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การยกเลิกสัญญาหมั้นหมายระหว่างฉู่หลิวเยว่กับองค์ชายรัชทายาท
ความแค้นนี้ จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นพี่น้องที่รักกันได้อย่างไร
โชคดีที่ตอนนี้ฉู่เซียนหมิ่นเปลี่ยนหน้ากากทัน ทำเป็นคิดแทนฉู่หลิวเยว่ ช่างตีบทแตกจริง!
ฉู่เซียนหมิ่นหน้าแดงก่ำ ราวกับโดนไฟแผดเผาไปทั้งร่าง
“ฉู่เซียนหมิ่น เจ้าคงกลัวว่าฉู่หลิวเยว่จะมาแย่งชิงดีชิงเด่นกับเจ้า เจ้าก็เลยจงใจพูดเช่นนั้นใช่หรือไม่”
“ข้าเปล่านะ!”
ฉู่เซียนหมิ่นรบปฏิเสธทันที แต่คนที่รายล้อมกลับมองนางด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับเอามีดมาแทงกันข้างหลัง
นางแอบกัดฟันแน่น
ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็บอกว่าตำแหน่งพระชายารัชทายาทไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนาง ทำดีกับนาง แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้กล้าพูดกับนางด้วยวาจาร้ายกาจเพียงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์