ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 544

สรุปบท บทที่ 544 ตามติด [รีไรท์]: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

บทที่ 544 ตามติด [รีไรท์] – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 544 ตามติด [รีไรท์] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เริ่มแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่คิดในใจ หลังจากกลับชาติมาเกิด นางก็ฝันถึงฉากนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกคืนวัน และทุกครั้งที่นางนึกถึงเรื่องนี้ นางก็ยังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันเปราะบาง ในวันที่เปลวเพลิงในห้องโถงบรรพบุรุษของราชวงศ์แผดเผาหัวใจของนางวันนั้น พวกมันเผาตัวตนของนางจนหมดสิ้น

ก่อนจะพบกับแสงอาทิตย์ในตอนเช้าที่ส่องแสงเจิดจ้า และลมที่พัดมาเบาๆ อากาศรอบตัวนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอันคุ้นเคยของยาสมุนไพรที่ใช้สมานแผล

ทุกอย่างยังคงชัดเจนเสมือนเหตุการณ์นั่นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ตอนนี้ นางเป็นทั้งซั่งกวนเยว่ และก็เป็นทั้งฉู่หลิวเยว่!

นางกลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาได้ และก็ไม่รู้ว่าหากคนในอดีตได้เจอนางในตอนนี้ พวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นไร?

ยามนี้ทุกสิ่งรอบตัวนั้นดูพร่าเลือนไปหมด ทว่ามีเพียงคนสองคนที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ที่นางมองเห็นได้ชัดเจน! ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเจ็บใจ!

ฉู่หลิวเยว่ก้าวไปข้างหน้า

“ฉู่หลิวเยว่แห่งแคว้นเย่าเฉิน ถวายบังคมองค์หญิงสามเพคะ”

ซั่งกวนหว่านมองนางด้วยความสงสัย

สตรีนางนั้นยืนอยู่ตรงกลาง และแต่งกายด้วยชุดคลุมสีแดงเพลิง พร้อมรูปร่างที่เพรียวบางและวิจิตรบรรจง อีกทั้งผ้าไหมคาดศีรษะสีน้ำเงินที่ห้อยลงมาราวกับน้ำตก

อีกฝ่ายก้มศีรษะลงเล็กน้อย จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพโครงหน้าของนางได้ทั้งหมด แต่ซั่งกวนหว่านดูออกว่านางผู้นั้นเป็นคนสวย ที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

“เจ้าเงยหน้าขึ้นสิ”

ซั่งกวนหว่านเอ่ย

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ทอประกายวาววับ พลางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ

แม่นางที่มีใบหน้ารูปไข่ ผิวที่ขาวกระจ่างใสของนาง ดูเปล่งประกายภายใต้แสงแดด คิ้วสีเข้มถูกปัดวาดเบาๆ ราวกับขนอีกาที่ร่วงหล่น จมูกเป็นสันตรงสวย อีกทั้งริมฝีปากแดงเรื่อดั่งสีเชอร์รี่หวานฉ่ำ

และโดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนหยกสีดำ ระยิบระยับราวท้องนภายามราตรี ที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านคู่นั้น

ช่างงดงามและเลอค่ายิ่งกว่าสตรีใดในปฐพี

ซึ่งภาพลักษณ์ของนางเป็นดั่งคำกล่าวนี้จริงๆ

ซั่งกวนหว่านตกตะลึง

แต่ไหนแต่ไรราชวงศ์เทียนลิ่งนั้นมีแต่สาวงามเดินกันให้ขวักไขว่ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปลักษณ์อันงดงามเกินใครของซั่งกวนหว่าน

แต่หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัว รัศมีของนางกลับถูกบดบัง และถูกขโมยสายตาชื่นชมของทุกคนไปจากนาง

ซั่งกวนหว่านรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้นางอึดอัดใจมากที่สุดก็คือ ใบหน้าที่ดูคุ้นเคยอย่างไร้เหตุผลนี่

ส่วนเจียงอวี่เฉิงที่นั่งถัดจากซั่งกวนหว่าน ก็สามารถมองเห็นใบหน้าชัดๆ ของฉู่หลิวเยว่ได้เช่นกัน

ถึงจะเคยเห็นหน้านางมาก่อนแล้ว แต่ ณ เวลานี้ ความรู้สึกเหล่านั้นกลับรุนแรงกว่าเดิม

ปลายนิ้วที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกระตุกเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่พูดอันใดออกมา

“ได้ยินมาว่าปีนี้เจ้าเพิ่งจะอายุสิบสี่หรือ? ช่างมีพรสวรรค์และความแข็งแกร่งที่โดดเด่นเสียจริงนะ”

ซั่งกวนหว่านระงับความปั่นป่วนในใจของนางและยิ้ม

แม้ว่ามันจะเป็นคำชม แต่น้ำเสียงนั่นยังคงฟังดูเหยียดหยาม ราวกับกำลังแสดงความเห็นปนประชดประชัน

แต่ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจ พลันยิ้มหวานตอบ

“ขอบพระทัยในความกรุณาขององค์หญิงสามมากเพคะ”

นางแย้มยิ้มพร้อมคิ้วและดวงตาที่โค้งลงอย่างอ่อนหวาน ราวกับน้ำแข็งที่ละลายเพราะความอบอุ่นในต้นฤดูใบไม้ผลิ ทั้งดูนุ่มนวลและมีไหวพริบ อีกทั้งความสง่าที่ปรากฏบริเวณหว่างคิ้วและผ่านทางสายตาของนาง

แม้ว่าคนที่นั่งข้างหน้าจะเป็นผู้ปกครองราชวงศ์เทียนลิ่งในปัจจุบัน แต่นางก็สามารถจัดการกับมันได้อย่างง่ายดายและสงบนิ่ง

ซั่งกวนหว่านตกใจ! จนเกือบจะลุกจากเก้าอี้!

แววตาแบบนี้!

รอยยิ้มแบบนี้!

มันเหมือนกับ…เหมือนกับ…

เจียงอวี่เฉิงแสร้งกระแอมไอทันควัน

ซั่งกวนหว่านพลันได้สติ ทว่าดวงตาของนางก็ยังจ้องมองฉู่หลิวเยว่ไม่วางตา!

ครู่หนึ่ง นางแทบอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกกระชากใบหน้านั้น เพื่อดูว่ามีใบหน้าอื่นซ่อนอยู่ข้างใต้หรือไม่!

ทำให้บริวารหลายคนที่อยู่รอบๆ สังเกตเห็นความผิดปกติของซั่งกวนหว่าน และหันมามองทันที

ซั่งกวนหว่านจึงรีบปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ และผ่อนคลายตนเอง ก่อนจะยืดตัวตรงจัดท่านั่งให้เรียบร้อยตามเดิม

แต่มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่า มือบางที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อนั้นกำลังกำหมัดแน่นแค่ไหน นิ้วเรียวของนางกำแน่นจนปลายเล็บฝังจิกลงไปในอุ้งมือ!

“ในเมื่อเจ้าเอาชนะคนอื่นได้ นั่นจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด และในราชวงศ์เทียนลิ่งนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งย่อมได้รับการเคารพเสมอ และเจ้าสมควรได้รับคำชมนี้”

ซั่งกวนหว่านกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่เต็มใจ

“และ… ยามที่ข้าเห็นเจ้า ข้ารู้สึกราวกับว่าข้าเคยเห็นเจ้าที่ไหนมาก่อน รูปลักษณ์ของเจ้านั้น… ค่อนข้างคล้ายกับเพื่อนเก่าของข้า”

นางก็แค่อธิบายไปตามมารยาท

และมีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่า เมื่อครู่นางเกือบจะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผีซั่งกวนเย่วที่กลับมาแก้แค้นกันเสียแล้ว!

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์