ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้างนอกบ้าง
ทันทีที่นางได้รับธง ก็มีดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นกลางท้องฟ้า
นางเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
ตอนแรกคิดว่าจะมีเพียงที่หนึ่งเท่านั้นที่ได้รับยกย่อง แต่คิดไม่ถึงว่าที่สองก็จะมีชื่อเสียงตามไปด้วย
นางจงใจเข้าชิงอันดับที่สอง เพราะแค่ไม่อยากสร้างปัญหาให้มากนัก…
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยนับแต่นี้เป็นต้นไป คงไม่มีใครกล้ามาสร้างความเดือดร้อนให้นางง่ายๆ อีกแล้ว
“เจ้าคือฉู่หลิวเยว่เองหรือ”
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองก็เห็นว่ามีคนแก่ท่าทางใจดีกำลังมองสำรวจนางอยู่
ข้างหลังของเขายังมีชายวัยกลางคนตามมาอีกสองคน
และมีพลังปราณของปรมาจารย์ลอยวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเขา
นางจึงรู้ได้ทันที ที่แท้สามคนนี้ก็คือปรมาจารย์ที่ควบคุมค่ายกลอยู่ในป่า
นางคุกเข่าคารวะ
“ศิษย์ฉู่หลิวเยว่ คารวะอาจารย์ทุกท่าน”
“ผู้อาวุโสซุนเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสทั้งห้าของสำนักเรา”
หนึ่งในชายวัยกลางคนเอ่ยเตือน
ฉู่หลิวเยว่รีบแก้คำพูด
“คารวะผู้อาวุโสซุน”
ซุนจ้งเหยียนปัดป้องมือ แล้วหัวเราะในลำคอ
“พวกนี้มีอะไรน่าสำคัญกัน วันนี้หลิวเยว่เข้าสำนักเป็นวันแรก ไม่รู้ก็เป็นเรื่องธรรมดา คิดไม่ถึงว่าสำนักเราจะมีอัจฉริยะเพิ่มมาอีกหนึ่งคน มิน่าล่ะ เจ้าไป๋เชินนั่นถึงได้ดูชื่นชมเจ้ายิ่งนัก เจ้า…เก่งมากจริงๆ!”
เจ้านั่น…ดูเหมือนว่าความอาวุโสของชายชราผู้นี้จะสูงมาก
นางไม่เคยได้ยินชื่อของผู้อาวุโสทั้งห้า แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างมีตำแหน่งสูงส่งเป็นที่เคารพนับถือ
ฉู่หลิวเยว่คิดในใจ แต่สีหน้ากลับไม่เผยสิ่งใดผิดปกติ จากนั้นนางจึงเอ่ยด้วยท่าทีไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่คัดค้าน
“ผู้อาวุโสซุนกล่าวชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
เมื่อซุนจ้งเหยียนเห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง เขาก็ยิ่งชื่นชมนางมากขึ้น
อายุยังน้อย แต่กลับสุขุมนุ่มลึกอย่างยิ่ง
ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ หากสามารถสอบได้ที่หนึ่งที่สอง ก็จะพูดจาถ่อมตัว แต่แววตามักแสดงความภาคภูมิใจออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
แต่แววตาของฉู่หลิวเยว่กลับสงบนิ่ง ราวกับว่านางไม่ได้สนใจในสิ่งนั้นจริง
นางอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร หรือไม่ก็อาจจะไม่สนใจในความยากของการสอบตั้งแต่แรก
“นี่ไม่ใช่การกล่าวชื่นชม เจ้ามีความสามารถที่โดดเด่นด้านปรมาจารย์ ก็ควรจะค้นพบตั้งนานแล้วและเพิ่มเติมการเล่าเรียน เรื่องวันนี้จะต้องกลายเป็นอีกฉากแน่”
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลฉู่ ถึงได้ถ่วงความเจริญของลูกหลานที่เป็นอัจฉริยะหายากเช่นนี้ไปได้!
หากไม่ใช่เพราะฉู่หลิวเยว่ร้องขออยากเข้าสอบด้วยตนเอง เกรงว่าชาตินี้นางคงถูกฝังกบจนมิด
ชายวัยกลางคนทั้งสองสบตากัน และทั้งคู่เห็นความประหลาดใจในดวงตาของกันและกัน
หากมองผิวเผินแล้วผู้อาวุโสซุนเป็นคนอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เข้มงวดมาก น้อยนักที่จะมีนักเรียนที่เข้าตาเขา
แม้ฉู่หลิวเยว่จะแสดงความสามารถได้ไม่เลว แต่การประเมินของผู้อาวุโสซุนไม่สูงไปหน่อยหรือ
ฉู่หลิวเยว่แย้มยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์