ซือหยางจุกอกจนพูดไม่ออก
เขาช้าเกินไป!?
แต่เขาก็ได้ที่สามเชียวนะ!
ผลสอบเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ แต่เขากลับโดนฉู่หลิวเยว่เยาะเย้ย!
แต่เขาก็เถียงกลับไปไม่ได้อยู่ดี
…ใครใช้ให้นางได้ที่สองกันเล่า!
แม้ว่าเขาจะไม่มีทางเชื่อ แต่ผู้อาวุโสซุนและคนอื่นก็อยู่ตรงนี้ ฉู่หลิวเยว่คงไม่มีความกล้าโกหกขนาดนั้นหรอก
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูดโอ้อวดก่อนหน้านี้และเปรียบเทียบผลสอบของทั้งสองคนในตอนนี้แล้วเขาก็รู้สึกอายจนหน้าร้อนจี๋
“เจ้า…เจ้าออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ซือหยางกอดเอาความหวังสุดท้ายแล้วดิ้นรนถาม
ถ้าฉู่หลิวเยว่เร็วกว่าเขาเพียงเล็กน้อยก็ไม่นับ…
“เด็กคนนี้กับซือถึงห่างกันไม่ถึงครึ่งก้านธูป เร็วกว่าเจ้าประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้”
ซุนจงเหยียนเอ่ยยิ้ม
ซือหยางทำได้ดีในด้านอื่นๆ ยกเว้นว่าเขาหยิ่งเกินไปและค่อนข้างเห็นแก่ตัว
ยืมมือฉู่หลิวเยว่สั่งสอนเขาสักครั้ง ให้เขาได้กลับไปทบทวนตัวเองบ้าง
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสซุนก็ได้ทำลายความหวังสุดท้ายในใจของซือหยางไปหมดสิ้น เขาจึงก้มหน้าลงอย่างสลดใจ
หากพสุธามีรอยแยกล่ะก็ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะดิ่งลงไปเดี๋ยวนี้
ก่อนหน้านี้เขาเคยยั่วยุฉู่หลิวเยว่ ตอนนี้ช่างน่าขำชำมัด
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถาม
“หากเจ้าเสียใจที่วันนี้ยังไม่ทันได้ประลองฝีมือกันจริงๆ จังๆ เช่นนั้นวันหน้าเราค่อยมาสู้กันอีกก็ใช่ว่าจะไม่ได้”
ซือหยางยกยิ้มในใจ แล้วพินิจมองฉู่หลิวเยว่
คราวนี้ เขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าฉู่หลิวเยว่ไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย!
การสอบครั้งนี้เขาฝ่าฟันอุปสรรคตั้งมากมาย แต่เหมือนฉู่หลิวเยว่จะไม่เป็นอะไรสักอย่าง
เขากัดฟันแล้วหันหน้าหนี
“ไม่จำเป็น ข้ายอมรับ วันนี้เจ้าเก่งกว่าข้า”
เมื่อพูดจบเขาก็รู้สึกเสียหน้า เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว
“หลิวเยว่มีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ ต่อไปพวกเจ้าคือสหายร่วมเรียน ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้มากๆ ต้องดีแน่นอน”
ซุนจ้งเหยียนเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์