เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 606

เจี่ยนชูเย่กำหมัดจรดริมฝีปากแล้วกระแอมไอเบาๆ

“…ถ้าเช่นนั้น ที่เจ้าทำไปก็เพื่อช่วย…หงอวี่จริงๆ หรือ?”

เจี่ยนเฟิงฉือหัวเราะเสียงเย็นมากขึ้นกว่าเดิม

“หากท่านไม่เชื่อ ท่านสามารถไปสอบถามฉู่หลิวเยว่ได้เลย”

ในที่สุดเจี่ยนชูเย่ก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาแล้ว

เหมือนว่า…ก่อนหน้านี้…เขาเข้าใจลูกชายของตนเองผิดไปจริงๆ ด้วย?

“เช่นนั้นก่อนหน้านี้เจ้ากับฉู่หลิวเยว่…”

เจี่ยนเฟิงฉือเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีปรากฏขึ้นมาในใจของเขา

“ท่านเข้าใจข้ากับนางผิดไป…แล้วยังบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเชิญนางมาที่ภูเขาเขี้ยวมังกรแล้วด้วย นี่มันเรื่องอันใดกันแน่เนี่ย?”

เจี่ยนชูเย่หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง

“ฮ่า! ไม่มีอันใดๆ! ก็แค่ชวนฉู่หลิวเยว่คุยเรื่อยเปื่อยแค่สองสามคำเท่านั้น!”

แต่เจี่ยนเฟิงฉือกลับไม่เชื่อ เขาก้าวขึ้นไปด้านหน้าสองก้าว แล้วมองพ่อของตนเองก่อนจะถามขึ้นว่า

“ท่านคงไม่ได้พูดเรื่องอันใดที่ไม่ควรพูดไปใช่หรือไม่?”

เจี่ยนชูเย่รีบหลบสายตาของเขาทันที

“คือว่า…ความจริงแล้วก็ไม่ได้มีอันใดมาก…ข้าก็เห็นว่านางนั้นทั้งฉลาดหลักแหลม ใบหน้างดงาม รู้หนังสือ ถ้าให้เป็นลูกสะใภ้ก็คงไม่เลวเลยทีเดียว…แต่ว่าเจ้าวางใจเถอะ คำพูดเช่นนี้ข้ายังไม่ได้พูดออกไป!”

“ท่านพ่อ!?”

เจี่ยนเฟิงฉือทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็รีบหันไปมองมู่หงอวี่ที่อยู่ด้านข้าง

“ข้ากับฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงแค่สหายเท่านั้น!”

เขาแค่ไม่ได้กลับมาที่นี่เพียงไม่นาน แต่เหตุใดมันถึงมีเรื่องเข้าใจผิดขนาดนี้เกิดขึ้นได้เล่า?

คาดไม่ถึงว่าท่านพ่อจะคิดว่าเขาจะชอบฉู่หลิวเยว่? แล้วยังจะให้นางมาเป็นลูกสะใภ้อีก?

เจี่ยนเฟิงฉือรู้จักพ่อของตัวเองดี

ถ้าเขาคิดเช่นนั้นจริงๆ เขาสามารถเดาได้เลยว่าวันนั้นอีกฝ่ายพูดอันใดกับฉู่หลิวเยว่บ้าง!

…เมื่อคิดถึงเหตุการณ์นั้น เจี่ยนเฟิงฉือก็ขนลุกชูชันไปทั้งตัว

เจี่ยนชูเย่บ่นอย่างประหลาดใจว่า

“ในเมื่อพวกเจ้าเป็นเพียงสหายกันเท่านั้น งั้นเหตุใดนางถึงไม่มาที่ภูเขาเขี้ยวมังกรล่ะ…”

เจี่ยนเฟิงฉือกุมหน้าผากตนเองด้วยความสิ้นหวัง

เขาคิดว่าตนเองไม่มีหน้าไปพบฉู่หลิวเยว่อีกแล้ว

แล้วไหนจะมู่หงอวี่…

คุณชายใหญ่เจี่ยนอายุยี่สิบกว่าปี เคยใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี ในที่สุดวันนี้ก็รู้สึกว่าอยากจะมุดหน้าลงดินอย่างมาก

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพ่อของเขา

เจี่ยนชูเย่เหลือบสายตามองมู่หงอวี่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็คิดอันใดขึ้นมาได้

“งั้นที่เจ้าพามู่หงอวี่กลับมาในวันนี้…”

น้ำเสียงของเจี่ยนเฟิงฉือเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง

“ข้าคิดว่าท่านจะดีใจที่มีศิษย์เป็นร่างซวีหยวนเสียอีก…แต่มาดูๆ แล้ว ข้าคงคิดผิดไป…”

เจี่ยนชูเย่ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นถึงค่อยได้สติขึ้นมา เข้าทั้งตกใจและดีใจ

“เจ้าหมายความว่าจะให้หงอวี่กราบเข้าเป็นศิษย์ของข้างั้นหรือ!? เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมไปเลย!”

เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองมู่หงอวี่ด้วยแววตาสำรวจ

ร่างซวีหยวน!

แม่นางคนนี้มีร่างซวีหยวนจริงๆ!

นี่เป็นสิ่งที่หลายคนร้องขอ แต่ก็ไม่ได้มา!

ถ้าหากนางสามารถเป็นลูกศิษย์ของเขาได้จริงๆ แล้วละก็ ไม่ว่าออกไปที่ไหนก็จะมีหน้ามีตาทั้งนั้น!

แล้วยังทำให้ไอ้พวกวัตถุโบราณเก่ากรุต้องอิจฉาจนตายแน่ๆ

ที่แท้เจี่ยนเฟิงฉือก็ทำเพื่อให้เขามีความสุข เพื่อสิ่งนี้นี่เองหรือเนี่ย!

เจี่ยนชูเย่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วรีบพยักหน้า

“ดีๆ! เช่นนั้นฝากตัวเป็นศิษย์กันวันนี้เลยเป็นอย่างใด? วันนี้เลย!”

เจี่ยนเฟิงฉือถอนหายใจอย่างโล่งอก

เดิมทีเขายังกังวลอยู่เล็กน้อย กังวลว่าพ่อของเขาจะสนใจเรื่องฐานะทาสของมู่หงอวี่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีปัญหาอันใดแล้ว

แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้อารมณ์ออกมา เขาพูดขึ้นเสียงเรียบว่า

“ท่านไม่ต้องใจร้อนขนาดนั้นก็ได้”

ไม่ใช่ว่าไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อนเสียหน่อย เหตุใดเขาจะต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยเล่า?

เจี่ยนชูเย่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าถูกต้อง

“คุณหนูหลิวเยว่มาที่นี่ทั้งหมดสองครั้ง ครั้งแรกซื้อ…”

เดิมทีเขาคิดว่านายท่านอาจจะถามไปส่งๆ แต่หลังจากที่เขาพูดของเหล่านั้นออกไปแล้ว เขาก็เห็นว่านายท่านไม่มีท่าทางขัดจังหวะการพูด เขาจึงจำใจพูดต่อไป

โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาสังเกตได้ว่านายท่านกับฉู่หลิวเยว่มีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน ดังนั้นก็ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเรื่องพูดนี้เขาก็คงพูดออกมาไม่ได้หรอก

เย่ว์หลิงพูดจนน้ำลายแห้ง สิ่งของเหล่านั้นก็พูดออกไปจนหมด

หน้าผากของเขามีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมาจำนวนไม่น้อย…คาดไม่ถึงเลยว่านายท่านจะไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย เขาตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ!

“…นี่เป็นของทั้งหมดที่คุณหนูหลิวเยว่ซื้อไป…”

หรงซิวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นว่ามา

“เหมือนว่าที่นี่จะมีของของอวี้ฉือซงประมุขของสำนักชงซูเก๋ออยู่ไม่น้อยเลยไม่ใช่หรือ?”

เย่ว์หลิงตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเรื่องพวกนี้นายท่านก็รู้ด้วย เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า

“นายท่านฉลาดยิ่ง ครั้งที่แล้วที่คุณหนูหลิวเยว่มาที่นี่ นางได้ซื้อของทุกชิ้นที่อวี้ฉือซงเอามาขายแล้วขอรับ”

ตอนนี้นางเป็นศิษย์ของสำนักชงซูเก๋อแล้ว แค่คิดก็รู้แล้วว่านางต้องซื้อของเหล่านั้นไปมอบให้อวี้ฉือ

ซงอย่างแน่นอน

แต่เมื่อพูดเช่นนี้ ก็นับว่าอวี้ฉือซงนั้นโชคดีไม่เลว…

ริมฝีปากของหรงซิวกระตุกเล็กน้อย

“จริงๆ เลย”

นี่คือสิ่งที่นางจะทำสินะ

เย่ว์หลิงสัมผัสได้ว่านายท่านอารมณ์ดีกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่กล้าถามอันใดมาก

ในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากด้านนอก ระหว่างนั้นก็ได้ยินชื่อของ “ฉู่หลิวเยว่” ดังขึ้นมาอีกด้วย

หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย

เย่ว์หลิงรีบพูดขึ้นทันที

“นายท่าน เหมือนว่าที่ด้านล่างจะเกิดเรื่อง ข้าน้อยขอตัวลงไปดูเสียหน่อย”

หรงซิวพยักหน้าเบาๆ

เย่ว์หลิงจึงรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อลงไปถึงชั้นหนึ่ง เขาก็เห็นหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงกลางห้องโถง แล้วพูดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน

“ข้าพูดว่า ข้าจะซื้อของทุกอย่างให้เหมือนกับฉู่หลิวเยว่ วันแรกที่นางซื้อนางซื้ออันใด ข้าเองก็จะซื้อแบบนั้น พวกเจ้าไม่ได้ยินหรืออย่างใด?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์