เย่ว์หลิงตกใจอย่างมาก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหของหรงซิว ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่งดงาม
“…นายท่าน?”
หรงซิวถามขึ้นเสียงเรียบ
“เหตุใด เจ้าฟังไม่รู้เรื่องหรือ?”
เย่ว์หลิงรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งกาย และรีบควบคุมสีหน้าของตนเองทันที ก่อนจะก้มศีรษะและพูดว่า
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”
เยี่ยนชิงที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เหลือบสายตามองเขาเล็กน้อย
เขาจึงรู้สึกเห็นใจอย่างมาก
ไม่ได้พบหน้านายท่านมาตั้งหลายปี แต่เมื่อเจอกันก็เจอเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว ถือว่าสร้างความลำบากใจให้เขาไม่น้อยเลยทีเดียว
เย่ว์หลิงเหงื่อแตกเต็มแผ่นหลัง
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาได้รับจดหมายจากนายท่าน เขาก็คิดไว้แล้วว่านายท่านปฏิบัติต่อฉู่หลิวเยว่
อย่างไม่ธรรมดา แต่ไม่ว่าอย่างใดก็คิดไม่ถึงว่า…จะเป็นความสัมพันธ์ระดับนี้!
และเมื่อคิดถึงเจียงอวี่จือที่พูดคำพูดเหล่านั้นออกมาต่อหน้านายท่านแล้ว
คุณหนูสี่ผู้นี้ เกรงว่าจากนี้คงต้องลำบากแล้ว…
“ได้ยินมาว่าตอนนี้นางมีคนติดตามคนใหม่หรือ?”
หรงซิวถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เย่ว์หลิงถามขึ้นอย่างไม่รู้ตัวว่า “ท่านหมายถึงต้วนจืออวี่?”
หรงซิวเคาะนิ้วบนโต๊ะเบาๆ สองครั้ง
หัวใจของเย่ว์หลิงเย็นวาบ
เยี่ยนชิงขยิบตาให้เขาอย่างสุดกำลัง
ผ่านไปสักพัก เย่ว์หลิงถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมา
“ท่านหมายถึง…เชียงหว่านโจว?”
สีหน้าของหรงซิวยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ปราณในร่างกายของเขากลับเย็นลงสามส่วน
ในใจของเย่ว์หลิงก็คิดว่า หมายถึงคนผู้นั้นจริงๆ ด้วย
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนายท่านดูอันตรายมากขึ้น เย่ว์หลิงก็ไม่สนใจอันใดมาก และรีบบอกเรื่องทุกเรื่องของเชียงหว่านโจวที่ตนเองรู้ให้อีกฝ่ายฟัง
พูดไปพูดมาก็รู้สึกว่าสีหน้าของนายท่านเรียบนิ่งมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ในใจของเขาก็สั่นไหวราวกับมีคนมาตีกลองตู้มๆ จึงรีบกล่าวเสริมว่า
“…สำหรับข้าแล้ว…ฮูหยินเห็นเชียงหว่านโจวเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น…”
ทันใดนั้นหรงซิวก็หัวเราะขึ้นมา ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น ก่อนจะกล่าวอย่างมีความหมายว่า
“ถ้าเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ที่นางซื้อสมุนไพรจากที่นี่ไป ส่วนใหญ่ก็เพื่อมอบให้เชียงหว่านโจวหรือ?”
เย่ว์หลิงชะงัก
หากปฏิเสธ จะต้องเป็นการโกหกนายท่านอย่างแน่นอน…
แต่ถ้าหากยอมรับ เช่นนั้นคือการเอาคอของตนเองไปวางไว้ที่ปลายคมดาบ…
ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น
“…คือว่า…ข้าน้อยก็ไม่ทราบ…ท้ายที่สุดแล้วฮูหยินก็เป็นเซียนหมอ หากนางต้องการสมุนไพรก็เป็นเรื่องธรรมดาแล้ว…ไม่แน่ว่านางอาจจะหลอมโอสถไว้ใช้เองก็ได้!”
รอยยิ้มของหรงซิวก็ลึกมากขึ้น
เย่ว์หลิงรีบปิดปากของตนเองทันที
“แล้วนางได้บอกหรือไม่ว่าเมื่อไหร่จะมาเอาสมุนไพรอีกครั้ง?”
เย่ว์หลิงพูดขึ้นเสียงเบา
“…พรุ่งนี้”
หรงซิวเอนกายพิงเก้าอี้ แล้วค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ
“เช่นนั้นก็รอพรุ่งนี้”
รอพรุ่งนี้ด้วยเหตุใด?
เย่ว์หลิงรู้สึกสงสัยอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าถามออกไป จึงทำได้เพียงขานรับด้วยความเคารพ
“ขอรับ”
…
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเจียงอวี่จือถูกไล่ออกจากหอร้อยโอสถแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธและความหวาดกลัว
นางเดินไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย
ขณะที่เดินไป ก็เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอย่างต่อเนื่อง
คิดไปคิดมา ก็คิดได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดเพราะฉู่หลิวเยว่ ครั้งนี้ นางได้รับความอัปยศและอับอายเป็นครั้งที่สามแล้ว!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แต่ก็ไม่กล้ากลับไปที่หอร้อยโอสถอีกแล้ว
คำเตือนของพี่ชายที่พูดมาเมื่อก่อนหน้านี้ ได้วนเวียนอยู่ในสมองของนางไม่หยุด
นางกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาแดงก่ำ
เจียงอวี่จือกรีดร้องขึ้นมาอย่างตกใจ
ทันใดนั้น ชายสวมหน้ากากก็มาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของนาง!
นางรวบรวมลมปราณที่อยู่ภายในร่างกาย แล้วต่อยออกไปอย่างแรง!
แต่อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้น แล้วปัดป้องหมัดของนางได้อย่างง่ายดาย!
ใบหน้าของเจียงอวี่จือเปลี่ยนสีทันที!
อีกฝ่ายได้จับข้อมือของนางไว้แน่น ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วโจมตีภายใน
“อั่ก…”
เจียงอวี่จือร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ทรุดลงนั่งอยู่ที่พื้น
จากนั้นชายผู้นั้นก็ลงมือต่อทีละกระบวนท่า เขาทำร้ายจนเจียงอวี่จือไม่มีทางสู้ นางทำได้เพียงยอมรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเท่านั้น!
เหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นตั้งใจ เขาเลือกโจมตีในส่วนที่เจ็บเป็นพิเศษโดยเฉพาะ
นางเจ็บจนใบหน้าซีดขาว สุดท้ายแม้กระทั่งเสียงร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดก็ยังไม่สามารถตะโกนออกมาได้
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็ตาเหลือกโปน แล้วสลบลงไป
ชายสวมหน้ากากคนนั้นหยุดมือลง แล้วมองนางอย่างดูถูก
“เหตุใดอ่อนแอขนาดนี้…”
ฝีมือมีเท่านี้ ยังจะกล้าทำตัวหยิ่งผยองในซีหลิงอีก เห็นได้ชัดว่านางถูกครอบครัวเลี้ยงจนเสียคนแล้ว
ใบหน้าของเจียงอวี่จือเต็มไปด้วยรอยบวมช้ำ ชายสวมหน้ากากก็พยักหน้าเบาๆ ในที่สุดก็มีคนหน้าตาเหมือนเขาแล้ว
แม้ว่านี่จะเป็นฝีมือของเขาเอง แต่เมื่อมองเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้
“วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าไป…”
ชายสวมหน้ากากผู้นั้นหัวเราะเสียงเบา
ถือว่าครั้งนี้นางได้ล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินแล้ว
ถ้านายท่านอยากให้เวลานางเสวยสุขก็ค่อยว่ากัน…
เขาหมุนตัวแล้วสาวเท้าเดินจากมา
เจียงอวี่จือที่นอนสลบอยู่ที่พื้นค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
แต่วินาทีถัดมา ชายสวมหน้ากากที่คิดว่าเดินจากไปแล้ว กลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านาง!
เจียงอวี่จือตกใจจนหัวใจเกือบจะหลุดออกมา!
แต่ชายสวมหน้ากากผู้นั้นกลับหัวเราะขึ้นมา
“ถ้าอยากดู เจ้าก็ดูให้เยอะๆ ไม่ว่าอย่างใด วันนี้…ก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...