เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 636

เซี่ยหลิงหยางเงียบเสียงลงทันที

ส่วนหนิงจื้อชิงที่ถูกทักท้วงอยู่ไกลๆ ก็ถึงกับทำหน้างง

อัน อันใดกัน?

ฉู่หลิวเยว่ก็จะลงแข่งเซียนหมอรอบสุดท้ายด้วยอย่างนั้นหรือ?

ท่ามกลางความเงียบ เย่หรานหร่านก็โพล่งถามออกมาอย่างอดไม่ได้

“เจ้าสำนักเก๋อ ท่านบอกให้นางลงแข่งหรือ?”

อวี้ฉือซง “…”

แม้แต่เขายังไม่รู้เลยว่าฉู่หลิวเยว่จะมาไม้นี้!

ทว่าในเมื่อพูดออกไปแล้ว เขาก็ไม่ควรหักหน้านาง และทำได้เพียงตอบไปว่า

“ไว้ใจฉู่หลิวเยว่ได้”

เซี่ยหลิงหยางโกรธจัด

เมื่อครู่เขาได้เห็นความเย่อหยิ่งของฉู่หลิวเยว่ไปแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะวางท่าอวดดีมากกว่าเดิมเสียอีก!

เคร้ง!

ทันใดนั้น หอกเงินด้ามยาวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา!

ตัวหอกนั้นถูกปกคลุมด้วยชั้นของเกล็ดงูสีเขียวที่บางมาก พร้อมหัวงูที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่ถูกแกะสลักไว้ตรงปลายหอก ภายใต้แสงแดด มันส่องแสงเย็นยะเยือกออกมาราวกับงูหลามสีเขียวจริงๆ!

อย่างกับหอกอสรพิษมรกตขนาดยักษ์ที่ร้ายกาจ!

“ในเมื่อเจ้าอยากรีบไปแข่งเซียนหมอเร็วๆ เช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์ให้แล้วกัน!”

เซี่ยหลิงหยางตะเบ็งเสียง ก่อนจะโยนด้ามหอกออกไปใส่ฉู่หลิวเยว่เต็มแรง!

ขณะที่พุ่งหลาวไปตามลม หอกอสรพิษมรกตก็ส่งเสียงคำรามฟ่อเสมือนงู!

ฟ่อ ฟ่อ…

ตามมาด้วยไอเย็นที่กำลังจะเข้ามาปะทะตัว!

สีหน้าของฉู่หลิวเยว่ยังคงเรียบเฉย ก่อนจะมีแส้ยาวสีแดงปรากฏขึ้นในมือของนาง!

พลันโบกฟาดแส้อย่างอุกอาจ!

เพี๊ยะ!

เสียงฟาดแส้ที่กระทบกับอากาศดังขึ้นเต็มสองหู!

จากนั้นแส้ยาวสีแดงก็พันรอบหอกอสรพิษมรกตอย่างรวดเร็ว!

ซู่…

พร้อมกับเปลวเพลิงที่ลุกลามไหม้ขึ้นไปตามความยาวของหอก จนเกิดเสียงไหม้ดังระงม!

ทันใดนั้นเกล็ดสีเขียวบนด้ามหอกก็ผุดตั้งขึ้นทีละชิ้น! ยิ่งมองก็ยิ่งขนลุก!

เซี่ยหลิงหยางกระชับหอกยาวในมือเขา แล้วควงมันทันที!

ส่งผลให้เกล็ดแหลมคมสีเขียวขูดกับแส้สีแดงจนแส้เกือบขาด!

เพียงพริบตา แส้ยาวก็ขาดออกเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางเปลวไฟที่ยังเผาไหม้ไม่หยุด พลันกระเด็นหลุดออกไปทุกทิศทุกทาง!

เซี่ยหลิงหยางเป็นฝ่ายได้เปรียบ!

หอกเล่มยาวพุ่งไปข้างหน้า หมายเอาหัวใจของฉู่หลิวเยว่!

ฉู่หลิวเยว่จึงรีบสร้างค่ายกลขึ้นมาบังการโจมตีด้านหน้า!

“สลายเกล็ด!”

เซี่ยหลิงหยางตะโกนลั่น!

พลันเกล็ดสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนบนตัวหอก ก็พากันสลายตัวแล้วบินขึ้นสูง!

พวกมันพุ่งเข้าไปล้อมรอบตัวฉู่หลิวเยว่เอาไว้ เสมือนพายุใบมีดอันแหลมคม!

แกร็ก แกร็ก!

รอยแตกร้าวจำนวนมากปรากฏขึ้นบนค่ายกลอย่างรวดเร็ว!

จากนั้นก็แตกสลายอย่างเงียบเชียบ!

เซี่ยหลิงหยางพุ่งตัวไปข้างหน้า!

ทว่าในขณะที่หอกแหลมคมกำลังจะเจาะหน้าอกของฉู่หลิวเยว่ ก็มีร่างสีแดงปรากฏขึ้น! แล้วพุ่งตัวลงมาบนหอกอย่างรวดเร็วและว่องไว!

เซี่ยหลิงหยางชะงักไปเล็กน้อย

นั่นมัน ก็แค่เพียงพอนโลหิตอ้วนๆ ระดับสามตัวหนึ่ง!

เมื่อสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเซี่ยหลิงหยาง ถวนจื่อก็นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น แล้วส่งยิ้มกว้างยิ่งฟันมาให้เขา

จากนั้นมันก็เฉาะฟันกัดหอกยาวของเขาเต็มๆ!

และเนื่องจากเกล็ดสีเขียวบินออกไปล้อมฉู่หลิวเยว่ ทำให้ด้ามหอกนั้นเปลือยเปล่าไร้โล่ป้องกัน

ถวนจื่อเองก็ไม่ได้กลัวว่ามันจะเจ็บปาก มันตั้งใจกัดลงไปเต็มแรงเพื่อการนี้โดยเฉพาะ!

งับ!

เกิดแนวรอยฟันเรียงแถวสองแถวบนด้ามหอกทันที

หัวใจของเซี่ยหลิงหยางสั่นสะท้านพัลวัน และแม้แต่มือของเขาก็สั่นเครือ

หะ…หอกอสรพิษมรกตด้ามนี้…มันคือแก้วตาดวงใจที่กว่าเขาจะหามาได้เชียวนะ! ทั้งทรงพลังและแข็งแกร่งเกินใคร!

แต่วันนี้กลับต้องมาโดนเพียงพอนโลหิตตัวหนึ่งฝากรอยเคี้ยวไว้!?

พรึบ!

ขณะที่เขากำลังอึ้ง ฉู่หลิวเยว่ก็ฉวยโอกาสนี้ หายตัวไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว!

เซี่ยหลิงหยางตกตะลึง!

ก่อนจะรู้สึกถึงกระแสลมเย็นวาบจากด้านหลัง!

เขาถอยหลังไม่ทัน และจำต้องพุ่งตัวไปข้างหน้าเท่านั้น!

อากาศที่เย็นจัดกลายเป็นลิ่มน้ำแข็งหนาและแหลมเท่าหัวแม่มืออย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งเข้าไปปลิดชีพ

ถวนจื่อ!

ทุกสายตาจดจ้องไปยังร่างสีแดงที่กระโดดขึ้นไปบนอากาศ

“ฉึก ฉึก ฉึก”!

ส่งผลให้ลิ่มน้ำแข็งที่หมายจะทิ่มถวนจื่อ พุ่งโดนพื้นดินเต็มๆ!

งูหลามมรกตหน้าจั่วเริ่มหมดความอดทน และในที่สุด มันก็กระโจนใส่ถวนจื่อ!

ถวนจื่อเงยหน้าขึ้นมองสัตว์อสูรตัวใหญ่ที่เดินเข้ามาหาตน

ท่าทางแบบนั้น…จะเอาจริงแล้วหรือ?

เมื่อสัตว์อสูรทั้งสองกำลังจะต่อสู้กัน เซี่ยหลิงหยางก็เหลือบมองฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง

เขาประสานมือไว้ข้างหน้า

พลันปรากฏเส้นแสงสีฟ้าจางๆ ที่ค่อยๆ พันกันต่อหน้าเขา ก่อตัวเป็นรูปแบบที่แปลกประหลาด

ทันใดนั้นพลังแห่งสวรรค์และโลกรอบตัว ก็หลั่งไหลเข้าหาเขา!

ก่อนจะมีเสียงตะโกนออกมาจากเหล่าผู้ชม

“นี่มันศิลปะการต่อสู้ระดับตี้!”

“ดูเหมือนว่าเซี่ยหลิงหยางจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ฉู่หลิวเยว่แล้วสินะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการส่งงูหลามมรกตหน้าจั่วออกไป มันถือกับเป็นท่าไม้ตายของเขาแล้ว! ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่อาจจะแพ้ก็ได้…”

“แค่บีบให้เซี่ยหลิงหยางอัญเชิญสัตว์อสูรออกมาได้ ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของฉู่หลิวเยว่ได้แล้ว…น่าเสียดายที่…เดี๋ยวๆ! นั่นฉู่หลิวเยว่กำลังจะทำอันใด?”

“ครืนๆ”

เกิดลมกรรโชกแรง! จนชุดคลุมของฉู่หลิวเยว่ม้วนบิดไปตามแรงลม!

เส้นผมสีดำยาวปลิวไสว!

ดวงตากลมดั่งหยกดำเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น!

ถึงจะต้องเผชิญกับการโจมตีของเซี่ยหลิงหยาง แต่ฉู่หลิวเยว่ก็หาได้ตื่นตระหนกไม่

กลับกัน นางยังคงยืนอยู่ตรงนั่นอย่างสงบและไม่แยแส ก่อนจะยกมือขวาขึ้น

แสงดาวดวงน้อยปรากฏบนนิ้วชี้ของนาง!

และถึงจะเป็นแสงดาวที่มีขนาดเล็กมาก แต่ก็สามารถดึงดูดพลังของสวรรค์และโลกโดยรอบได้ในทันที!

“…ฉู่หลิวเยว่เองก็ใช้ศิลปะการต่อสู้ระดับตี้ด้วยหรือ!?”

เกิดเสียงฮือฮาขึ้นท่ามกลางกลุ่มคนดู

“อ๊า! ข้าจำได้แล้ว! ช่วงแรกๆ ที่ฉู่หลิวเยว่มาถึงซีหลิง ดูเหมือนนางจะใช้กลอุบายนี้เอาชนะจอมยุทธระดับห้าคนนั้น! แต่ตอนนั้นนางเป็นเพียงจอมยุทธระดับสาม และเห็นได้ชัดว่าพลังในการต่อสู้ของนางนั้น ไม่ได้รุนแรงเพียงนี้…”

“ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว! ศิลปะการต่อสู้ระดับตี้เปลืองพลังงานมาก โดยทั่วไปแล้ว แม้แต่จอมยุทธระดับหกก็แทบจะไม่แสดงมันออกมาเลย! แต่ฉู่หลิวเยว่ที่ตอนนี้เป็นเพียงจอมยุทธระดับสี่ขั้นสูง ถึงได้…”

ตั้งแต่ตอนนั้นมันก็ผ่านมานานแล้ว แต่เมื่อใดกันที่ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นสูงถึงระดับนี้?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์