เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 670

วันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องคนแทรกซึมเข้าไปในจวนตระกูลเจียงเพื่อลอบสังหารเจียงอวี่เฉิงได้กระจายออกไปจนทั่วเมืองซีหลิงแล้ว

แน่นอนว่าทุกคนไม่กล้าพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างเปิดเผย แต่ก็ยังมีการคาดเดาอย่างลับๆ ไม่ว่าข้อสันนิษฐานอันใดก็ล้วนมีทั้งหมด

ก็ในเมื่อเจียงอวี่เฉิงล่วงเกินคนมามากมาย คนที่ต้องการชีวิตของเขานั้นมีเยอะมาก

พูดไปเรื่องนี้มันก็ยาว

เดิมทีเขาก็เป็นแค่คุณชายใหญ่ตระกูลเจียงธรรมดา แต่เขากลับได้ดำรงตำแหน่งน้อยใหญ่ในราชวงศ์

เพราะว่าเขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น กอปรกับเบื้องหลังตระกูลที่โด่งดัง จึงทำให้เขามีอนาคตที่สดใส

แต่ในเมืองซีหลิงแห่งนี้ ชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ก็มีจำนวนไม่น้อยเลย

เจียงอวี่เฉิงไม่ใช่ยอดคนในยอดคน

ก่อนหน้านี้ที่เขาสามารถรุ่งเรืองและก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปี และมาอยู่ที่ตำแหน่งนี้ได้ ก็เพราะว่าตอนแรกเขาเป็นคู่หมั้นขององค์หญิงใหญ่

อาจจะเป็นเพราะเขามีหน้าตาที่โดดเด่น หรืออาจจะเป็นเพราะพรสวรรค์ที่ไม่เลว สุดท้ายองค์หญิงใหญ่ก็เลือกให้เขาเป็นว่าที่คู่หมั้นจากกลุ่มคนทั้งหมด

หลังจากที่ได้หมั้นหมายแล้ว ฐานะของเขาก็ได้เปลี่ยนไปทันที

มีใครไม่รู้บ้างว่าองค์หญิงใหญ่จะได้เป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป?

อีกทั้งองค์หญิงใหญ่เกิดมาพร้อมกับชีพจรเทียนจิง นางจึงเป็นคนที่ทุกคนในราชวงศ์เทียนลิ่งต่างให้ความเคารพ

กอปรกับช่วงหลายปีมานี้องค์หญิงใหญ่ได้ทำประโยชน์มามากมาย เช่นการปราบปรามกบฏ การลดค่าภาษี เป็นต้น บารมีของนางจึงใกล้เคียงกับจักรพรรดิองค์ปัจจุบันมาก

ในความคิดของคนทุกคน จึงคิดว่านางนั้นไม่เหมือนกับพวกเรา นางทั้งสูงส่งและต้องเทิดทูนไว้เหนือหัว

ส่วนเจียงอวี่เฉิงที่ได้เป็นคู่หมั้นขององค์หญิงใหญ่ ก็สูงตามไปด้วย

มีคนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่พยายามจะตีสนิทเขาอย่างลับๆ และเอาใจอย่างกระตือรือร้น

จึงทำให้เจียงอวี่เฉิงสามารถรวบรวมพรรคพวกได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นเมื่องานแต่งงานของเขากับองค์หญิงใหญ่กำลังใกล้เข้ามา ความสัมพันธ์ของเขากับองค์หญิงใหญ่ก็ใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาเรียนรู้จากองค์หญิงใหญ่มาไม่น้อย

และหลังจากนั้น องค์หญิงใหญ่ก็ปล่อยให้เขาช่วยจัดการงานบางอย่าง

แน่นอนว่าเขากลายเป็นคนที่เข้าใจวิธีการและความคิดขององค์หญิงใหญ่ได้มากที่สุด

หลังจากองค์หญิงใหญ่ได้จากไปแล้ว ภายในราชสำนักก็ยุ่งเหยิงอย่างมาก เขารีบเชื่อมสัมพันธ์กับองค์หญิงสามอย่างรวดเร็ว พร้อมปราบปรามผู้คนที่ต่อต้านด้วยวิธีที่รวดเร็วและเด็ดขาด จากนั้นก็ถือโอกาสกำจัดคนที่ทรยศองค์หญิงใหญ่ออกไปด้วย

ตอนนั้นเอง ฝ่าบาทก็เข้าสู่นิทรา องค์หญิงใหญ่สวรรคต ในสถานการณ์ที่มังกรไม่มีหัว เขากับองค์หญิงสามก็ได้จัดการเรื่องราวหลายอย่าง เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็ได้ขึ้นรับตำแหน่งอย่างเหมาะสม

ต่อมาเขากับองค์หญิงสามก็ได้หมั้นหมายกัน

เรื่องเหล่านี้คือเรื่องราวที่คนภายนอกพูดอย่างเซ็งแซ่

บางคนคิดว่าที่เขาทำเช่นนี้เพื่อให้ราชสำนักมีเสถียรภาพ แต่บางคนก็คิดว่าเขาทำเพื่ออำนาจ

โดยในขั้นตอนเหล่านี้ เขาได้ล่วงเกินคนไปจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ตอนนี้มีคนเข้าไปลอบสังหาร ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว

แต่ว่าในวันเดียวกันนั้นเอง ก็มีข่าวใหญ่ประกาศออกมาจากทางวังหลวง

…องค์หญิงสามได้หารือกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรงแล้ว และได้ตัดสินใจจัดงานแต่งงานใหญ่ในวันที่หก เดือน หก!

เมื่อนับเวลาดูแล้ว ก็เหลือเพียงสามเดือนเท่านั้น!

ข่าววิวาห์สายฟ้าฟาด!

ทุกคนต่างรู้ดีว่า งานแต่งงานครั้งนี้ ก็เป็นเวลาที่องค์หญิงสามซั่งกวนหว่านจะขึ้นครองราชย์ด้วยเช่นกัน!

จวนตระกูลฉู่

ฉู่หลิวเยว่กำลังกำหนดลมหายใจ ตั้งสมาธิ นั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง

พลังฟ้าดินที่อยู่โดยรอบก็ไหลโคจรเข้ามาในร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมันเคลื่อนที่ไปตามแขนขาทั้งสี่ของนาง ก่อนจะรวมตัวเป็นไข่มุกธาราในตันเถียน

ไข่มุกธาราสว่างใสอยู่ท่ามกลางรอยย่นทั้งสี่

ฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่ามีสิ่งกีดขวางอันใดบางอย่างที่น่ามองไม่เห็น

แต่นางก็รู้ดีว่า นั่นคือประตูสู่จอมยุทธ์ขั้นที่ห้า!

หลังจากการต่อสู้ของงานประชุมสำนักแล้ว

พลังในร่างกายของนางก็แข็งแกร่งขึ้นมาก

เมื่อคิดดูแล้ว ช่วงเวลานี้ก็ควรจะเลือกทะลวงด่านได้แล้ว…

ฉู่หลิวเยว่วางมือทั้งสองข้างไว้บนตักของตนเอง การเคลื่อนไหวในร่างกายก็เพิ่มความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว

เหนือศีรษะของนางก็มีกระแสน้ำวนปรากฏขึ้นมา!

พลังดั้งเดิมก็พวยพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว!

ปราณและแรงกดดันรอบๆ ตัวของนางก็เพิ่มอย่างรวดเร็วจนตาเนื้อสามารถมองเห็นได้!

ด้านนอก หรงซิวก็กำลังเดินบนโถงทางเดิน

เขายังไม่ทันได้เดินไปถึง เขากลับสามารถสัมผัสอันใดได้บางอย่าง ก่อนจะมองไปทางห้องนั้น

เยี่ยนชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามขึ้นว่า

“นายท่าน ท่านยังจะ…ไม่ไปตอนนี้หรือขอรับ?”

หรงซิวพูดขึ้นอย่างใจเย็น

“รอก่อน”

รออันใด?

แน่นอนว่าต้องรอให้ฉู่หลิวเยว่ทะลวงด่านสำเร็จก่อน!

เยี่ยนชิงรู้สึกสับสนอย่างมาก

คุณหนูหลิวเยว่จะเลื่อนระดับเป็นระดับห้า ต้องเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนอยู่แล้ว

แต่ว่าเหตุใดนายท่านถึงได้ยังอยากจะเฝ้านางด้วยตนเองอีกล่ะ?

ด้วยระดับนี้ จะต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และจะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วสิถึงจะถูก…

แต่แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกไป จึงพูดเพียงแค่ว่า

“เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวไปรายงานอาวุโสหมิงที่สามสิบหกก่อนนะขอรับ”

หรงซิวพยักหน้า

หลังจากที่เยี่ยนชิงกำลังจะหมุนตัวแล้วเดินออกไป แต่ตอนนั้นเองเขาก็เห็นเงาร่างหนึ่ง ปรากฏขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล

คนผู้นั้นคืออาวุโสหมิงที่สามสิบหกนั่นเอง

ฝีเท้าของเขาดูเหมือนเชื่องช้า แต่พริบตาเดียวก็มาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าอย่างไร้เสียงแล้ว

เยี่ยนชิงรีบคารวะอีกฝ่ายทันที อาวุโสหมิงที่สามสิบหกกลับโบกมือเล็กน้อย

“ไม่ต้องมากพิธี! ข้าผู้เฒ่ามาหาพระชายา!”

เขาพูดไปด้วย พร้อมมองห้องของฉู่หลิวเยว่ด้วยความสงสัยไปด้วย จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจว่า

“เอ๋? นี่นางกำลังทะลวงด่านหรือ? หรงซิว เจ้าเคยบอกว่าตอนนี้นางอยู่ระดับสี่ไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงเริ่มร่ายม่านพลังปกป้องนางแล้วล่ะ?”

เพื่อความสะดวก ที่เขาออกมาครั้งนี้ เขาจึงได้ปลอมตัวเป็นผู้อาวุโสจากหมิงเยว่เทียนซาน และจงใจที่จะไม่เรียกหรงซิวว่า “ฝ่าบาท” ดังนั้นจึงเรียกเขาด้วยชื่อจริง

เหมือนหรงซิวจะเดาออกตั้งนานแล้วว่าอีกฝ่ายคงอดทนไม่ไหว เขาจึงยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า

“แน่นอนเพราะว่า…มันจะมีประโยชน์”

ตู้ม!

ทันใดนั้นระลอกคลื่นก็พัดกระจายออกมาจากในห้องทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์