เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 673

เสียงสุดท้ายดังขึ้น ทะลวงสำเร็จ!

ในที่สุดดาวดวงที่ห้าก็ปรากฏขึ้นตรงกลางไข่มุกธาราแล้ว!

แทบจะในเวลาเดียวกันฉู่หลิวเยว่ก็ได้ยินเสียงอันใดบางอย่างแตก

ตู้ม!

นั่นคือกำแพงการเลื่อนขั้นจอมยุทธ์ระดับห้า ในที่สุดมันก็พังทลายแล้ว!

เหมือนกับประตูเขื่อนถูกเปิดออก น้ำท่วมเข้ามาอย่างรวดเร็ว! ลมพายุพัดอย่างบ้าคลั่ง ม้วนตัวเป็นคลื่นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน!

ฉู่หลิวเยว่หดมือทั้งสองกลับคืนมา เปลวเพลิงทั้งสองกลุ่มก็กลับเข้ามาในร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว!

ลมปราณที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกจากร่างกายของฉู่หลิวเยว่!

ลวดลายอักขระทั้งห้าปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ภายในไข่มุกธารา!

พรึ่บ!

ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นทันที!

ภายในดวงตาเหมือนมีเปลวเพลิงสองกลุ่มลุกโชนอยู่!

แสงสว่างไร้ที่เปรียบ!

…นี่คือจอมยุทธ์ระดับห้าตัวจริง!

นางยื่นมือออกไปแล้วแบมือปล่อยพลังดั้งเดิมออกมาอย่างส่งๆ

ดาวห้าดวงปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนาง!

แม้ว่าจะมีปราณดั้งเดิม แต่ก็ยังมีปราณที่ทรงพลังเหนือปกติปรากฏออกมาด้วย!

ด้วยฝีมือระดับนี้ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอยู่หลายเท่าจริงๆ!

นี่คือ…พลังของจอมยุทธ์ที่เลื่อนขั้นมาระดับห้าและสามารถทะลวงอวัยวะภายในทั้งห้าได้สินะ!

ต่อให้เป็นคนที่สงบเยือกเย็นเช่นฉู่หลิวเยว่ก็ยังไม่สามารถปิดบังความดีใจของตนเองได้

นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตนเองจะสามารถกลับมาเกิดใหม่อีกทั้งยังสามารถบำเพ็ญเพียรสู่ระดับเดิมได้อีกครั้ง

แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบตัวนางเองในชาติที่แล้วได้ แต่ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถสัมผัสได้ว่าพลังของนางกำลังเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับนางมั่นใจนางสามารถขยับเข้าใกล้ระดับเดิมของนางได้ทีละก้าวแล้ว!

แล้วสักวันหนึ่งนางจะกลับมาอยู่ในจุดสูงสุด! แล้วเอาทุกอย่างที่เป็นของนางคืนมา!

หลังจากรอให้ระลอกคลื่นรอบตัวสลายไป ฉู่หลิวเยว่ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำจิตใจของตนเองสงบลง

นางลุกขึ้นยืนจากนั้นก็เดินออกมาด้านนอก

เมื่อประตูใหญ่เปิด สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่นาง

ฉู่หลิวเยว่มองตามสายตาเหล่านั้นไป

คนที่นางเห็นคนแรกคือหรงซิว

ส่วนเยี่ยนชิงก็ยืนอยู่ด้านหลังของเขา

ด้านข้างนั้นมีชายชราผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีเขียว ผมสีขาวดอกเลา กำลังมองมาที่นางแล้วส่งยิ้มให้

ท่านนี้คือ…

ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังสงสัย หรงซิวก็สะบัดแขนเสื้อหนึ่งครั้ง ม่านพลังสีเงินเหล่านั้นก็หายไปอย่างไร้เสียงทันที

ฉู่หลิวเยว่ถึงรู้สึกได้ว่า ก่อนหน้านี้เขาได้วางม่านพลังกั้นเอาไว้ชั้นหนึ่งแล้ว

นี่คือ…ทำเพื่อปกป้องตนเองอยู่หรือ?

จริงด้วย เมื่อครู่นางทำเสียงดังมาก หากดึงดูดความสนใจของคนอื่นขึ้นมามันจะต้องแย่แน่นอน

ช่วงนี้นางได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในซีหลิง ทั้งในที่ลับและที่แจ้งล้วนมีสายตาไม่รู้ตั้งกี่คู่ที่กำลังจับจ้องนางอยู่

แม้ว่านางจะกลัว แต่นางก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าการหลบลูกธนูที่ยิงจากที่ลับนั้นมันลำบาก รอบคอบและระวังเอาไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องดีที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น…ในฐานะที่นางเป็นจอมยุทธ์ระดับห้าและสามารถทะลวงอวัยวะทั้งห้าได้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เกรงว่าจะทำให้เกิดพายุกลิ่นคาวเลือดขึ้นมาได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น ขณะที่กำลังจะสาวเท้าเดินไปด้านหน้า แต่กลับเห็นว่าผู้เฒ่าคนนั้นเดินมาก่อนหนึ่งก้าวแล้ว

“เจ้าคือพระชายา…เสี่ยวหลิวเยว่ใช่หรือไม่?”

แม้ว่าใบหน้าของผู้อาวุโสจะเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขายังมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดูมีชีวิตชีวาและสดชื่นอย่างมาก

ตอนที่เดินมากลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย เหมือนว่าไม่ได้ขยับร่างกาย แต่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้านางแล้ว

อีกทั้งบนร่างกายของเขาไม่มีปราณดั้งเดิมแผ่ออกมาเลยสักส่วน!

หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นผิดจังหวะไปหนึ่งจังหวะ

ความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าคนนี้…เกรงว่าจะมากกว่าที่นางคาดเดาอาไว้ก่อนหน้านี้!

ในตอนนั้นเอง เขายิ้มขึ้นและมองไปยังฉู่หลิวเยว่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้และกระตือรือร้นอย่างเต็มที่

ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตามองหรงซิวครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขายังมีใบหน้ายิ้มแย้ม เห็นได้ชัดว่าเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เฒ่าคนนี้เป็นอย่างมากแน่นอน นางจึงยิ้มแล้วทำความเคารพอย่างว่าง่าย

“หลิวเยว่คารวะผู้อาวุโสเจ้าค่ะ”

ท่านผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมองไปยังแม่นางที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข

ใบหน้าฉู่หลิวเยว่ร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนนอกพูดเช่นนี้…มันทำให้รู้สึกดีนิดหน่อยนะ…

ในสายตาของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกกลับไม่มีหรงซิวแล้ว มีเพียงฉู่หลิวเยว่คนเดียว

ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยแต่งงาน ไม่มีบุตรไม่มีธิดา

ก่อนหน้านี้เขามองหรงซิวเป็นเหมือนลูกชายแท้ๆ ของตนเองมาโดยตลอด ไม่เพียงแค่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ แต่ยังแนะนำหรงซิวอยู่เป็นประจำ

อาจจะกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีเขา หรงซิวก็ไม่มีทางนั่งในตำแหน่งโอรสสวรรค์ได้อย่างมั่นคงเช่นนี้

แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่เขาฝากฝังและคาดหวังไว้กับหรงซิวอย่างมาก และเขาก็เข้มงวดกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้มาพบกับฉู่หลิวเยว่ หัวใจของเขาก็อ่อนยวบลงไปทันที

แม่นางที่ทั้งสวย น่ารัก ข้าไม่ได้มาเพื่อพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว!

“เสี่ยวหลิวเยว่อ่า ตอนนี้เจ้าก็เป็นจอมยุทธ์ระดับห้าแล้ว อีกทั้งสามารถทะลวงอวัยวะทั้งห้าได้พอดี มันถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องวางรากฐานการบำเพ็ญเพียรให้มั่นคง ผู้เฒ่าเช่นข้ามีเคล็ดลับวิชาระดับปฐพีอยู่พอดี ถ้าเช่นนั้นเจ้ามาเลือกเองดีหรือไม่?”

เมื่อพูดจบ ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็สะบัดมือเล็กน้อย

พรึ่บ…

ทันใดนั้นกล่องหยกจำนวนมากก็หล่นออกมาจากแหวนเฉียนคุน

กล่องหยกเหล่านั้นแวววาวและโปร่งแสง มีปราณแผ่ออกมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าของที่บรรจุอยู่ด้านในนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เขากระแอมไอขึ้นหนึ่งครั้ง

“คนแก่ก็เป็นเช่นนี้แหละ ของก็รกนิดหน่อย เจ้าลองเลือกดูชอบอันไหนก็เอาไปเลย! ถ้ายังไม่ชอบ ข้าก็ยังมีให้เลือกอีก!”

สายตาของฉู่หลิวเยว่นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง

นี่มัน…นี่มันหมายความว่าอย่างใดกันละเนี่ย…

บนโลกนี้มีคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกก็มอบเคล็ดวิชาระดับตี้ (เคล็ดวิชาระดับปฐพี) เลยหรือ?

เมื่อเห็นสีหน้าของฉู่หลิวเยว่ ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็เข้าใจผิดไปว่านางไม่ชอบ

เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็จับข้อมือของฉู่หลิวเยว่แล้วเดินไปด้านข้าง พร้อมกระซิบเสียงต่ำว่า

“เสี่ยวหลิวเยว่ ถ้าเจ้ายังไม่ชอบของเหล่านี้…เช่นนั้น…ความจริงข้ามีของที่ดีกว่านี้ แต่ว่าของเหล่านั้นเป็นของที่สืบทอดกันในสำนัก เกรงว่าต้องรอให้เจ้ากับหรงซิวแต่งงานกันก่อนถึงจะมอบให้ได้…”

คิ้วของฉู่หลิวเยว่กระตุกอย่างรุนแรง

นี่เขาหมายความว่า…

แต่งงานกับหรงซิวแล้วเขาจะมอบเคล็ดวิชาระดับเทียนหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์