ตอน บทที่ 689 การผจญภัย จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 689 การผจญภัย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พลังปราณดั้งเดิมของนางถูกกักเก็บไว้ภายในด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง แม้ว่ามันจะคงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจนำออกมาใช้งานได้ในระยะยาว
ต้องรู้ว่าตอนนี้นางไม่สามารถดูดซับพลังงานแห่งสวรรค์และโลก เพื่อนำมาเปลี่ยนเป็นพลังของตนเองได้เลย
และใครจะไปรู้ว่าหลังจากเข้าไปในป่าหมอกมายาแล้ว ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าพวกเขาจะออกมาได้?
ขณะที่ซั่งกวนหว่านลังเลใจ กลุ่มเมฆสีดำขนาดใหญ่ก็ได้ก่อตัวกันเหนือท้องฟ้ากว้าง!
ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับมืดลงอย่างรวดเร็ว!
เมื่อมองจากระยะไกลแล้ว เปรียบเสมือนหยดหมึกสีขุ่นดำหยดหนึ่ง ที่เปรอะเปื้อนบนภาพวาดสีน้ำเงินอย่างใดอย่างนั้น
กรร!
พร้อมเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวที่ดังก้องไปทั่วพื้นที่!
ทุกคนต่างตกอกตกใจ!
“นั่นมันอันใด?”
ซั่งกวนหว่านที่สัมผัสได้ถึงลมปราณอันตราย เอ่ยปากถามทันควัน
มู่ชิงเห่อหันมองนางแล้วตอบว่า
“คงจะเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่ทะลวงขอบเขตพลังได้ขอรับ!”
“ตัวที่สามารถกระตุ้นนิมิตสวรรค์โลกาได้…อาจเป็นสัตว์อสูรระดับเก้าได้?”
แม้ว่าการทะลวงขอบเขตพลังปราณของสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไปนั้น จะทำให้เกิดความโกลาหล แต่มันก็ไม่มากมายขนาดนี้
เมฆดำทะมึนบนท้องฟ้ารวมตัวกันอย่างรวดเร็วและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มปกคลุมป่าหมอกมายาด้วยเงาดำขนาดมหึมา!
“ข้าเองก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ แต่… มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับเก้านั่นแหละ”
ในที่สุดเจียงอวี่เฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดออกมา
ชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาของซั่งกวนหว่านทอประกายวาววับ
ความกังวลและความไม่สบายใจทั้งหมดหายไปแล้ว เหลือแต่ความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาเท่านั้น
หากสัตว์อสูรระดับเก้าสามารถทะลวงขั้นพลังปราณได้สำเร็จ มันก็จะกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์!
และพอถึงนั้น ไม่เพียงแต่นางจะได้รับเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ มาใช้เป็นอสูรภายใต้บังคับบัญชาได้อีกด้วย!
ซึ่งเมื่อใดที่ชีพจรดั้งเดิมของนางฟื้นคืนสภาพ ก็สามารถทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการได้!
หากบัญชาอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ตามใจอยากล่ะก็…
ทุกคนจักต้องเชิดชูนางเป็นแน่!
เนื่องจากในราชวงศ์เทียนลิ่งทั้งหมด เว้นแต่องค์ไท่จู่ ก็ไม่มีใครเคยทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว!
แม้แต่ซั่งกวนเยว่ในตอนนั้น ก็เพิ่งได้ทำสัญญากับไก่ฟ้าเก้าสีระดับเก้าเอง!
ยังห่างไกลจากคำว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์นัก!
และถึงเส้นทางนี้จะฟังดูธรรมดา แต่ก็แฝงไว้ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่!
เพราะถ้านางควบคุมอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ นางก็สามารถบดขยี้ซั่งกวนเยว่ได้!
ซั่งกวนหว่านกำหมัดที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อแน่น ลำคอของนางแห้งผาก พร้อมเลือดในกายที่กำลังพุ่งพล่าน
ตลอดการเดินทาง นางได้ยินคำเยินยอซั่งกวนเยว่มามากเกินพอแล้ว
ไม่สิ ต้องพูดว่าตั้งแต่นางเข้ารับตำแหน่งนี้ นางก็ถูกเปรียบเทียบกับซั่งกวนเยว่!
ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานการฝึกปราณ หรือการทะลวงขั้นพลัง หรือแม้กระทั่งรูปร่างหน้าตา ท่าทาง คำพูดคำจา…
ล้วนโดนเปรียบเทียบกันเสียทุกอย่าง!
และนางก็เกือบจะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!
ถึงซั่งกวนเยว่จะตายไปแล้ว หรือแม้แต่ตายอย่างเสียศักดิ์ศรี ทว่าในสายตาของคนจำนวนมาก ซั่งกวนเยว่ก็ยังคงเป็นองค์หญิงใหญ่ที่ไม่อาจถูกใครแทนที่ได้อย่างแท้จริง
แล้วนางเล่า?
นางไม่เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อปกปิดสภาพร่างกายของตัวเองทุกวัน และจัดการกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในราชวงศ์เทียนลิ่งเท่านั้น แต่นางยังต้องตกอยู่ภายใต้เงาของซั่งกวนเยว่ตลอดเวลาอีก!
เมื่อตอนที่ซั่งกวนเยว่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นแบบนี้
และพอตายแล้ว วิญญาณของนางก็ยังตามหลอกหลอนกันอยู่!
ซั่งกวนหว่านใกล้จะหมดความอดทนแล้ว!
และนี่คือสาเหตุที่ทำให้นางต้องการฟื้นฟูชีพจรดั้งเดิมไวๆ และรีบพัฒนาความแข็งแกร่งของนางให้สูงขึ้นกว่าเดิม!
เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่านางเก่งกว่าซั่งกวนเยว่!
“ยากมากที่จะเจอโอกาสเช่นนี้ คราวนี้ข้าจะเอาเลือดอสูรศักดิ์สิทธิ์มาให้เสด็จพ่อให้ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...