สรุปเนื้อหา บทที่ 690 ความสงสัย – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 690 ความสงสัย ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เสียงของชายคนนั้นเปรียบเสมือนหินหนึ่งก้อนที่สร้างคลื่นน้ำระลอกใหญ่!
ทุกสายตาล้วนมองตามปลายนิ้วของชายหนุ่ม ก่อนจะเห็นต้นไม้ใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาห้อมล้อมกลุ่มคนทางด้านขวามือไว้!
แต่พอตั้งใจมองดีๆ ก็จะเห็นบางอย่างที่ขยับอยู่ใต้กองใบไม้
และคลื่นความผันผวนนี้ ก็ทำให้ต้นไม้เคลื่อนไปด้านข้าง!
พรึบ!
ทันใดนั้น ก็มีรากไม้หนาขนาดเท่าแขนพุ่งออกมาจากใต้กองใบไม้ร่วง!
ปรากฏว่าแท้จริงแล้วใต้กองใบไม้นั้น คือรากไม้หลากหลายแขนงของต้นไม้ต้นนี้!
ทุกคนล้วนตกตะลึงเมื่อเห็นภาพที่แปลกประหลาดนี้
มู่ชิงเห่อจ้องมองมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางอธิบาย
“นี่คือต้นสนฉัตร รากของมันฝังอยู่ในดินตื้นๆ และมันสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวมันเอง เมื่อเผชิญกับสถานการณ์พิเศษ”
ทุกคนในคณะเดินทางต่างประหลาดใจ
“เป็นเช่นนี้นี่เอง…”
“แดนภังคะก็คือแดนภังคะจริงๆ แม้แต่ต้นไม้ยังแปลกประหลาด…”
“เมื่อครู่ข้าตกใจมากเลย! ข้านึกว่าจะเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นแล้วเสียอีก!”
“ประเดี๋ยวก่อน รองแม่ทัพมู่เพิ่งบอกว่ามันจะเคลื่อนไหวในสถานการณ์พิเศษเท่านั้นใช่หรือไม่? เช่นนั้น… ที่มันกำลังทำอยู่ตอนนี้ ก็เพราะว่าสัตว์อสูรระดับเก้านั่นใกล้จะทะลวงผ่านแล้วหรือ?”
ยกเว้นกองทัพทหารม้าทมิฬ สาวกของสำนักวิชาต่างๆ ล้วนพูดถึงแต่เรื่องนี้
มู่หงอวี่เฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ทันใดนั้น นางก็รู้สึกถึงอันใดบางอย่าง ก่อนจะมองเข้าไปในอ้อมแขนของตน
เป็นเจ้าหมีแผงคอทองคำตัวน้อยที่โผล่พรวดออกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง
มันกอดแขนของมู่หงอวี่ไว้ พลางส่ายหัวไปมาเชิงไม่สบายใจ ราวกับเตือนอันใดบางอย่าง
“อันใดของเจ้าหรือ? ฉงฉง?”
มู่หงอวี่ถามอย่างสงสัย
เจ้าหมีแผงคอทองคำตัวเล็กส่งเสียงครวญครางต่ำ มันหันศีรษะมองไปยังต้นสนใบหยิกที่กำลังเคลื่อนไหว จากนั้นจึงกลับมาทำหน้ายุ่งเหยิงและขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของมู่หงอวี่อีกครั้ง
เวลาผ่านไปเกือบปี เจ้าหมีสีทองตัวน้อยๆ นั้นโตขึ้นมาก
ด้วยรูปร่างในตอนนี้ แค่มันเกาะนางไว้เฉยๆ นางก็ยังต้องใช้แรงอุ้มมากกว่าเดิมแล้ว และยิ่งบิดตัวไปมาอีก มู่หงอวี่ก็แทบจะรับน้ำหนักไม่ไหว
นางพยายามปลอบฉงฉงที่อยู่ในอ้อมแขนให้สงบลง พลางมองไปยังฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะลดเสียงและถามด้วยความกังวล
“หลิวเยว่ เจ้ารู้สึกว่ามันผิดปกติบ้างหรือไม่? ปกติฉงฉงจะไม่ตื่นตระหนกแบบนี้ แต่คราวนี้เหมือนกำลังกระวนกระวาย…”
ฉู่หลิวเยว่มองตามสายตาของเจ้าหมีน้อย พลันขมวดคิ้ว
เมื่อก่อนนางเคยเห็นภาพต้นสนดิ้นได้มาแล้ว นางจึงไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่
ทว่าท่าทางของเจ้าหมีน้อยแผงคอทองคำนั้นดูน่าสงสัยจริงๆ
หรือจะเป็นเพราะ…สัตว์อสูรระดับเก้าที่กำลังทะลวงขอบเขตพลังปราณอยู่อย่างนั้นหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ตะโกนเรียกใครบางคนในใจ
“ถวนจื่อ”
สิ้นเสียงเรียกหา กลุ่มเงาสีแดงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ถวนจื่อกะพริบตากลมโตของมันเบาๆ พลางมองลูกหมีตัวน้อยในอ้อมแขนของมู่หงอวี่อย่างครุ่นคิด
และจู่ๆ มันก็กระโจนเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของฉู่หลิวเยว่!
แต่จะโดนฉู่หลิวเยว่คว้าหางไว้เสียก่อน
ด้วยการดึงเบาๆ กรงเล็บที่เพิ่งตะปบลงบนเสื้อคลุม ก็ถูกบังคับให้คลายออก
“เด็กดี”
ฉู่หลิวเยว่กระตุกข้อมือเบาๆ
ถวนจื่อทิ้งตัวห้อยหัว แกว่งไปแกว่งมาอยู่ในอุ้งมือของนาง
เห้อ…เป็นสัตว์อสูรเหมือนกันแท้ๆ แต่เหตุใดถึงปฏิบติต่างกันแบบนี้!
มันก็แค่คิดถึงอ้อมกอดของเจ้าของเอง!
ไอ้หมีเด็กนั่น มันตัวใหญ่กว่าเขาตั้งเยอะ แต่เจ้าของของมันยังไม่เห็นรังเกียจเลย!
แล้วตัวเขาเล่า… แม้แต่เส้นผมของเจ้านาย ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสเลยสักเส้น!
เจ้านั่นมันร้ายกาจยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ช่างน่าโมโหอันใดเยี่ยงนี้!
ถึงจะเห็นถวนจื่อกำลังน้ำตาคลอเบ้า แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังไม่สนใจ พลันเอ่ยถาม
“เจ้าสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบ้างหรือไม่?”
ถวนจื่อชะงักทันที มันกอดข้อมือของนาง แล้วพลิกตัวไปนั่งยองๆ บนมือเรียวบางอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะหันศีรษะมองไปต้นสนฉัตรที่อยู่ไกลๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...