สรุปเนื้อหา บทที่ 709 เพียงแค่ถวนจื่อตัวเดียว – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 709 เพียงแค่ถวนจื่อตัวเดียว ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ซั่งกวนหว่านปิดบังไอลมปราณของตนได้อย่างแนบเนียน ทำให้เมื่อปรากฏตัวออกมาอย่างทันทีทันใดจึงไม่มีผู้ใดในที่แห่งนั้นตระหนักถึงการมีอยู่ของนางมาก่อน
ด้วยเหตุนั้น ในตอนที่เงาร่างของนางล่วงล้ำเข้ามาในครรลองสายตาของทุกคน พวกเขาจึงชะงักและยืนแข็งทื่อ
บนร่างของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสกปรกจำนวนหนึ่งจากหนองน้ำ แต่ไม่มากเมื่อเทียบกับเจียงอวี่เฉิงและผู้อาวุโสชิวซี คราบบนตัวนางแทบจะมองข้ามไปได้เลย
มองผ่านแวบแรก เรือนผมของนางนั้นยุ่งเหยิงอยู่บ้าง บนใบหน้าก็เปรอะเพียงหยดเลือดสองหยด
อีกทั้งในตอนนี้ นางพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูงสุดหมายจะโจมตีค่ายกลอันนั้น! เห็นได้ชัดเลยว่าต้องการลงมือโจมตีไก่ฟ้าเก้าสีที่กำลังทำการบุกทะลวง!
ลมปราณของนางพรั่งพรูออกมาจากทั่วทั้งร่าง นางไปถึงระดับเจ็ดขั้นสูงสุดอันน่าตะลึงพรึงเพริดโดยสมบูรณ์!
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง มีแววเย็นเยียบเคลื่อนผ่านหางตาของนาง
ระดับเจ็ดขั้นสูงสุด…
บัดนี้ชีพจรดั้งเดิมของซั่งกวนหว่านใช้การไม่ได้แล้ว ทว่ายังสามารถแสร้งทำเป็นแข็งแกร่งได้…เห็นชัดเลยว่านางต้องใช้ความคิดไม่น้อยเลยทีเดียว!
เห็นนางเข้าใกล้ค่ายกลมากขึ้นกว่าเก่า ในใจฉู่หลิวเยว่พลันรู้สึกขยะแขยงจงเกลียดจงชัง
ต่อให้ไก่ฟ้าเก้าสีกับนางไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน นางก็ไม่ยอมให้ซั่งกวนหว่านกระทำการสำเร็จอยู่ดี!
นางเคยทำสัญญากับสัตว์อสูรตัวอื่นไปแล้ว ฉะนั้นซั่งกวนหว่านไม่มีคุณสมบัติที่จะมาฉกฉวยเอามันไปได้!
ผู้อื่นคิดเพียงว่าซั่งกวนหว่านมาเพื่อเลือดของสิ่งที่เรียกว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่ฉู่หลิวเยว่กลับรู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง จุดประสงค์ที่นางมาที่นี่ครั้งนี้ ย่อมต้องมีมากกว่านี้!
นั่นคือการคิดจะทำสัญญากับสัตว์อสูร…
แต่กลับไม่ได้ดูตัวเองเสียเลยว่ามีความสามารถและวาสนาหรือไม่!
ฝีเท้าของฉู่หลิวเยว่พลันหยุดชะงัก ความคิดแล่นเร็วไว
พี่เหลยสี่ที่ตำแหน่งยืนอยู่ที่ใกล้ค่ายกลมากที่สุดได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว พลันหันศีรษะไปมอง
ทันใดนั้นเขาก็เห็นซั่งกวนหว่านที่พุ่งเข้ามาอย่างอุกอาจ!
พี่เหลยสี่พลันมีโทสะปะทุขึ้นในใจ
ได้!
เขายังไม่ทันได้ไปหานาง นางและพรรคพวกกลับพาตัวเองเข้ามาหาเขาถึงที่!
เท้าด้านซ้ายของพี่เหลยสี่กระทืบลงบนพื้นอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง! พลันร่างสูงใหญ่ก็ทะยานขึ้น!
ความเร็วของเขานั้นไวเป็นอย่างมาก!
ตำแหน่งเดิมของเขานั้นเหลือไว้เพียงภาพติดตา ทว่าตัวเขากลับพุ่งเข้าไปด้านหน้าร่างของซั่งกวนหว่าน!
พลันเหนี่ยวคันศร แล้วยิงลูกธนูออกไป!
กระบวนการของท่วงท่าดุจดั่งเมฆาล่องลอย ธารารินไหล…จบในครั้งเดียว!
ฮึ!
ลูกธนูสีดำพลันพุ่งทะยานออก! แล่นทำลายความว่างเปล่า!
ความจริงซั่งกวนหว่านรออยู่ด้านข้างท่ามกลางป่ามาสักพักหนึ่งแล้ว
หลังจากที่แยกกับผู้อาวุโสชิวซีและคนอื่นๆ แล้ว นางกับทหารม้าทมิฬสิบกว่านายและลูกศิษย์ห้าถึงหกสำนักต่างก็ติดอยู่ในสถานที่เดียวกัน
ต้องขอบคุณพวกเขา นางจึงสามารถหลบหนีออกมาได้จากที่พรรค์นั้นได้อย่างราบรื่น
แน่นอนว่า หลังจากที่นางออกมา คนเหล่านั้นก็ต้องจมปลักอยู่ท่ามกลางโคลนเลนเน่าเหม็นเหล่านั้นตลอดกาล
จากนั้น นางก็พยายามตามหาคนอื่นๆ อย่างเคว้งคว้างภายในป่าตัวคนเดียว
ทว่าผ่านไปได้ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากฝั่งนี้
เมื่อเห็นทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ย่อมเข้าใจสถานการณ์ได้แล้วมิใช่หรือ?
นางแทบไม่สนใจเรื่องตามหาคนอีกต่อไป นางกระเสือกกระสนวิ่งมาโดยมิหยุดพัก
หลังจากมาถึงที่นี่แล้ว นางก็ไม่ได้บุกเข้าไปอย่างผลีผลาม กลับกัน นางรั้งอยู่ในที่ที่ห่างออกมาเพื่อรอคอยโอกาส
จากตำแหน่งที่นางอยู่ก็เพียงพอที่จะมองเห็นพี่เหลยสี่และกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง กระทั่งผู้อาวุโสชิวซีและเจียงอวี่เฉิงที่คล้อยหลังตามมา นางล้วนเห็นพวกเขาทั้งหมด
ทว่า ด้วยความระมัดระวัง จนแล้วจนรอดนางก็ไม่ได้ออกไป ทำเพียงรอคอยด้วยความอดทน
ในช่วงเวลาแบบนี้ สมองของนางมักจะปราดเปรื่องเป็นพิเศษ
ในที่สุด…เมื่อทัณฑ์สวรรค์สายที่เก้าปรากฏ!
นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด และโอกาสเดียวเท่านั้น!
เพราะว่าในช่วงเวลานี้ พลังป้องกันของสัตว์อสูรระดับเก้าจะอ่อนแอที่สุด!
ดังนั้นนางจึงพุ่งออกมาอย่างมิลังเลแม้แต่น้อย!
ทว่าคาดไม่ถึงว่าความเร็วของพี่เหลยสี่จะเร็วกว่า! เพียงชั่วพริบตาเขาก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้านาง!
เมื่อเผชิญกับลูกธนูสีดำที่พุ่งตรงมายังหว่างคิ้วของตน นัยน์ตาของซั่งกวนหว่านหดลง สะบัดข้อมืออย่างแผ่วเบา!
โล่สีดำอันหนึ่งพลันปรากฏออกมาด้านหน้าร่างของนาง!
ตึง!
ลูกธนูสีดำกระทบลงบนโล่สีดำอย่างรุนแรง บังเกิดเป็นเสียงดังกังวาน หัวลูกศรโค้งงอตรงแน่ว!
กลับกัน โล่สีดำอันนั้นกลับไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดหลงเหลือไว้!
เมื่อเห็นซั่งกวนหว่านเรียกโล่สีดำออกมา ฉู่หลิวเยว่ก็ย่นคิ้วลงเล็กน้อย
มู่ชิงเห่อที่อยู่อีกด้านหนึ่งมีสีหน้าเย็นเยียบลง หางตาของเขาปรากฏอารมณ์อันซับซ้อนขึ้นมาวาบหนึ่ง
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าซั่งกวนหว่านจะนำของสิ่งนี้มาไว้ในการครอบครองของตนด้วย…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...