บทที่ 712 ลมปราณอันคุ้นเคย – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 712 ลมปราณอันคุ้นเคย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เก้าจิ๋ว นี่ข้าเองนะ
ไร้ซึ่งเสียงดัง และเป็นเพียงประโยคเรียบๆ ที่ถูกเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน!
พลันเกิดรอยร้าวขึ้นบนดวงตาสีเทาคู่นั้นของไก่ฟ้าเก้าสี ราวกับจะระเบิดออกมา!
ร่องรอยของความตกใจพุ่งออกมาจากดวงตาคู่นั้น!
จากนั้นลำแสงสีรุ้งที่พันแน่นรอบตัวฉู่หลิวเยว่ก็หยุดชะงักลง!
นางเงยหน้าขึ้นมองมัน
ในที่สุดก็มีคลื่นความผันผวนปรากฏขึ้นในดวงตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์คู่นั้น!
ทั้งงุนงง สับสน แปลกใจ และไม่กล้าปักใจเชื่อ…
อารมณ์ที่ซับซ้อนมากมายปะทุขึ้นทีละอย่าง! และตีกันจนยุ่งเหยิง!
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเจ้าตัวกลมๆ ขนยาวสีแดงตัวหนึ่ง วิ่งขึ้นไปบนลำต้นของต้นไม้อย่างเงียบๆ และมาหยุดอยู่ตรงกรงเล็บสีแดงของไก่ฟ้าเก้าสี
และพอหันกลับมา มันก็บังเอิญเห็นฉู่หลิวเยว่ที่ยังคงติดอยู่ในลำแสงหลากสี
ถวนจื่อกัดฟันอย่างโกรธจัด และขบกัดอย่างแรงที่กรงเล็บสีแดงข้างๆ ตน!
ไก่ฟ้าเก้าสีเจ็บปวด และมองลงไปยังถวนจื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ถวนจื่อจึงฝังเขี้ยวลงไปอีก
ไก่ฟ้าเก้าสีก้มหัวลงมองมันเล็กน้อย ราวกับเริ่มไม่พอใจ
เดิมทีซั่งกวนหว่านคิดว่าตนจะได้ชมการแสดงดีๆ เข้าเสียแล้ว แต่กลับพบว่าไก่ฟ้าตัวนั้นหยุดการโจมตีลงเสียดื้อๆ
นางหันศีรษะไปมองตามสายตาของมัน ก่อนจะเห็นตัวอันใดบางอย่างที่อยู่ปลายเท้าของไก่ฟ้าเก้าสี… เพียงพอนโลหิตหรือ!?
ซั่งกวนหว่านขมวดคิ้วทันควัน
นั่นมันสัตว์อสูรของฉู่หลิวเยว่มิใช่หรือ?
มันบุกเข้ามาได้อย่างใดกัน? อีกทั้งยังอยู่ใกล้ไก่ฟ้าเก้าสีอีก?
นี่มันไม่กลัวพวกอสูรสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เลยหรือ?
แถมมัน…ยังกล้ากัดไก่ฟ้าเก้าสีด้วย?!
“เป็นแค่มดริอาจจะสู้กับช้าง! ไม่รู้จักที่ตายเสียแล้ว!”
ซั่งกวนหว่านหัวเราะอย่างเหยียดหยาม
เจ้านายเป็นอย่างใด สัตว์อสูรก็เป็นอย่างนั้น!
แค่ฉู่หลิวเยว่คนเดียวก็โง่เขลาพอแล้ว แต่สัตว์อสูรที่นางทำสัญญาด้วยนั้นเขลายิ่งกว่า!
ตัวเล็กแค่นั้น ไก่ฟ้าเก้าสีสามารถบดขยี้มันให้ตายได้อย่างง่ายได้!
และเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเย้ยหยันของซั่งกวนหว่าน ถวนจื่อก็จ้องกลับด้วยสายตาชั่วร้ายทันที
อยากมองก็มองไป!
ข้าบ้าพอที่จะกัดเจ้าได้แล้วกัน!
ทางด้านฉู่หลิวเยว่เองก็ยังจ้องถวนจื่อไม่วางตา
มันวิ่งไปตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
นางตั้งท่าเตรียมเรียกถวนจื่อกลับมา แต่ดันเห็นว่าไก่ฟ้าเก้าสีกำลังกระพือปีก แล้วล้อมรอบถวนจื่อไว้ด้วยลูกแสงกลมๆ หลากสี
ถวนจื่อลอยขึ้นไปอย่างแผ่วเบา
และในที่สุด มันก็ลอยอยู่เหนือหัวของไก่ฟ้าเก้าสี
ถวนจื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย พลันส่ายหัวให้ไก่ฟ้าเก้าสี
ไม่ได้นะ เก้าจิ๋ว!
ถวนจื่อเองก็เป็นสัตว์อสูรของนาง!
ไก่ฟ้าเก้าสีมองฉู่หลิวเยว่แวบหนึ่ง ก่อนจะเปิดจะงอยปากของมัน แล้วกลืนลูกกลมหลากสีนั้นเข้าไป!
จากนั้นก็หลับตาลงช้าๆ!
“ถวนจื่อ!”
ฉู่หลิวเยว่ร้องตะโกนด้วยความตกใจ
นี่เก้าจิ๋วกินถวนจื่อเข้าไปแล้วจริงหรือ!?
ซั่งกวนหว่านที่อยู่ด้านข้างมองภาพนั้นด้วยความสุขเหลือคณา
พลันมองไปที่ฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตา
สมเพช
“คุณหนูฉู่ ค่ายกลนี้คืออาณาเขตของไก่ฟ้าเก้าสี คนธรรมดาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา และสัตว์อสูรของเจ้าก็เป็นเพียงพังพอนโลหิตระดับสาม เช่นนั้นมันจะต้านทานแรงกดดันของไก่ฟ้าเก้าสีได้หรือ? ข้าว่าเจ้าควรรีบออกไปซะเถอะ! มิเช่นนั้น…ต่อให้เป็นข้า ก็อาจช่วยเจ้าไม่ได้!”
ฉู่หลิวเยว่ปลายตามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา
อย่างใดซั่งกวนหว่านก็คือซั่งกวนหว่าน ขนาดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ยังสามารถแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยจอมปลอมนั่นออกมาได้
นี่นางไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรือไร?
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ พลางสัมผัสถึงสายใยของตนกับถวนจื่อ
แล้วก็พบว่ามันยังมีชีวิตอยู่!
จิตใจของนางสงบลงทันที
ถวนจื่อต่างจากพังพอนโลหิตธรรมดาทั่วไป ในเมื่อมันกล้ามาที่นี่ด้วยตัวเอง นั่นหมายความว่ามันย่อมสามารถปกป้องตัวเองได้
และมันคงจะดีกว่า ถ้ารอให้เก้าจิ๋วกลับมาหานาง และขอให้มันคายถวนจื่อออกมา
ฉู่หลิวเยว่ถามเสียงเรียบ
“ดูเหมือนองค์หญิงสามจะมั่นใจว่าสามารถปราบไก่ฟ้าเก้าสีได้เลยนะ เพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...