เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 723

แสงสีขาวสาดกระจายไปทั่วสมองของฉู่หลิวเยว่!

ก่อนหน้านี้นางก็รู้แค่ว่า ครั้งนี้ที่ซั่งกวนหว่านพาคนจำนวนมากมาที่ป่าหมอกมายา นางจะต้องมีแผนการอันใดอยู่แน่นอน

แต่มาถึงตอนนี้ฉู่หลิวเยว่รู้แล้วว่านางกำลังทำอันใดอยู่

นางต้องการจะยืมพลังจากคนเหล่านั้น ฟื้นคืนชีพจรและพลังให้กับตัวเอง

ต้องบอกก่อนว่า ในจำนวนคนเหล่านั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีชีพจรตี้จิง

โดยเฉพาะลูกศิษย์จากสำนักต่างๆ ทุกคนล้วนมีชีพจรตี้จิงอยู่แล้ว!

ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาต่างก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่โดดเด่นที่สุดจากทางสำนัก

งานหมื่นทูร…หรือว่าจะจัดเพื่อการนี้!

นางไม่มีทางฟื้นคืนชีพจรด้วยตนเองได้ ดังนั้นนางจึงจะใช้ชีพจรตี้จิงของผู้อื่น?

แม้ว่าฟังดูแล้วมันจะดูน่ากลัวจนขนหัวลุก แต่ถ้าหากสิ่งที่นางคาดเดาถูกต้องขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลมารองรับแล้ว

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก

ซั่งกวนหว่านมีจิตใจโหดเหี้ยมเช่นไร เรื่องนี้นางรู้ดีที่สุด

แต่นางคิดไม่ถึงว่าซั่งกวนหว่านจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้จริงๆ

นางกล้าลงมือกับผู้บำเพ็ญเพียรที่มีพรสวรรค์จำนวนมากขนาดนี้เลยหรือ?

คาดไม่ถึงว่านางจะกล้าทำลงไปจริงๆ

ตอนนั้นเองภายในใจของฉู่หลิวเยว่ก็มีความรู้สึกที่หลากหลายปรากฏขึ้น นางไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างใดดี

ตอนแรกชีพจรของซั่งกวนหว่านได้รับบาดเจ็บจากเปลวเพลิงชีพจรเทียนจิงของนาง

เดิมทีบาดแผลเหล่านี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้

เพราะว่าพลังของชีพจรเทียนจิงนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก

แม้กระทั่งตัวนางเองก็ยังไม่สามารถช่วยหาวิธีสร้างเส้นชีพจรให้ซั่งกวนหว่านขึ้นมาใหม่ได้

แต่ในเมื่อนางทำเช่นนี้แล้วแสดงว่านางจะต้องมีหนทางอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่า…วิธีการจะน่ารังเกียจและร้ายกาจถึงขั้นนี้ก็ตาม

“หลิวเยว่? เจ้าเป็นอันใดไป?”

เย่หรานหร่านเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วถามอย่างเป็นห่วง

เหมือนว่าใบหน้าของฉู่หลิวเยว่นั้นจะดูผิดปกติไป

เมื่อมีเสียงเรียกก็ทำให้ฉู่หลิวเยว่ได้สติกลับคืนมาทันที

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันไปมองที่พื้นอีกครั้ง

ทุกคนก็หันไปมองด้วยเช่นกัน

ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นมาเสียงทุ้ม

“เกรงว่าพวกเราจะไม่มีทางหนีออกไปแล้ว”

รอยย่นระหว่างคิ้วของฉินอีก็ปรากฏขึ้น

“นอกจากที่ที่พวกเรายืนอยู่นี้ ป่าหมอกมายาได้ถล่มลงไปหมดแล้ว!”

ในขณะเดียวกันนั้นเองใต้ดิน

หลังจากที่ซั่งกวนหว่านกระโดดลงมาแล้ว นางลอยคว้างอยู่กลางอากาศสักพัก ในที่สุดนางก็ตกลงมาในกองโคลน

จากนั้นนางก็หยิบไข่มุกธาราประธีปขึ้นมา พร้อมส่องแสงไปรอบๆ

ก่อนหน้านี้นางเคยมาที่นี่แล้วหนึ่งครั้ง ดังนั้นครั้งนี้ซั่งกวนหว่านจึงไม่ได้กังวลและหวาดกลัวขนาดนั้น อีกทั้งกลับรู้สึกตื่นเต้นอยู่หลายส่วนอีกด้วย

นางมองไปรอบๆ ทันใดนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่บางอย่างอยู่

ห่างจากจุดที่นางยืนอยู่ไม่ไกล คาดไม่ถึงว่าจะมีแสงสีเขียวจางๆ ปรากฏขึ้นมา

แสงนั้นดูแปลกประหลาดและเย็นตาเล็กน้อย

ซั่งกวนหว่านลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังเลือกที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ มัน

หลังจากที่เดินเข้าไปไกลเล็กน้อยแล้ว ซั่งกวนหว่านก็ตกใจที่ได้พบว่า ท่ามกลางโคลนสีดำ กลับมีแท่นหินแท่นหนึ่งวางเอาไว้อยู่

ทันใดนั้นเองก็มีรากไม้สะบัดขึ้นมาจากอีกทางหนึ่ง

ซั่งกวนหว่านก็ตกใจอย่างมากและรีบหมอบตัวลงด้วยความรวดเร็ว

แต่เป้าหมายของรากนั้นไม่ได้อยู่ที่นาง แต่เป็นกลุ่มไฟกลุ่มนั้น

มันสะบัดตัวมาอย่างรวดเร็วแล้วหยุดชะงักตรงด้านหน้าของก้อนเพลิง

เปลวไฟนั้นลอยขึ้นมาแล้วแตะที่รากไม้นั้นอย่างแผ่วเบา

จากนั้นพลังที่อยู่ในรากไม้ก็ถ่ายเทไปยังเปลวไฟก้อนนั้นอย่างต่อเนื่อง

แต่ว่าหลังจากนั้นรากไม้รากนั้นก็หายตัวไปในพริบตา

ส่วนเปลวไฟนั้นก็มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิม

หัวใจของซั่งกวนหว่านเต้นอย่างบ้าคลั่ง

ที่แท้…พลังเหล่านั้นที่ถูกดูดกลืนลงมา สุดท้ายมันก็มาอยู่ที่นี่นี่เอง!

หาก…หากนางยึดเปลวไฟนี่มาเป็นของตนเอง เช่นนั้นพลังทั้งหมดก็จะกลายของนางด้วยใช่หรือไม่

เมื่อคิดถึงตรงนี้เวลาของนางก็เปล่งประกายขึ้นมา จนแทบจะควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองไม่ไหว

นางหยิบโอสถสีเลือดแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้ร่างกายของนางที่ถูกทำลาย เหมือนถูกกระตุ้นด้วยพลังอะไรบางอย่าง จนกลับมาชีวิตชีวาอีกครั้ง

ผิวหนังทั่วทั้งร่างกายของนางกลายเป็นสีแดง

เส้นสีดำเข้มปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

ดูแล้วแปลกประหลาดอย่างมาก

นางสาวเท้าขึ้น ต้องการจะเดินขึ้นไปด้านหน้า แต่ทันใดนั้นนางก็ชะงักตัวทันที

บางทีของสิ่งนี้อาจจะอันตรายก็ได้…

ซั่งกวนหว่านเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้จึงหยิบชุดเกราะออกมา และชุดนั้นคือเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง

จากนั้นนางก็สวมลงไปที่ร่างกายแล้วสวมเท้าเข้าไปด้านหน้าอย่างสบายใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์