เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 751

แสงสีทองห่อหุ้มร่างของฉู่หลิวเยว่ พลันกระแสลมที่น่ากลัวรอบตัวนาง ก็ถูกปิดกั้นออกไปทันที

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง

“นี่คือ…พรมแดนไวฑูรยะหรือ?”

นางสามารถสัมผัสได้ว่านี่คือพลังอันแท้จริงของพรมแดนไวฑูรยะ

แต่มันเปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีทองได้อย่างใด?

นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วพรมแดนไวฑูรยะนั้นจะมีลักษณะเป็นค่ายกลทรงกลมโปร่งใส ทว่าสำหรับชั้นพลังป้องกันที่แน่นหนาแบบประชิดตัวเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย

จะเรียกว่าค่ายกล ก็พูดได้ไม่เต็มปาก…

มันเหมือนเกราะ!

ใช่แล้ว!

เจ้านี่ต้องเป็นเกราะแน่ๆ!

พลังของมันเข้ากับสัดส่วนร่ายกายได้อย่างดี ถึงมันจะไม่ใช่ชุดเกราะที่ไว้สำหรับสวมใส่ แต่มันก็ไม่ได้แตกต่างเสียเท่าไร

ขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของฉู่หลิวเยว่ นางก็สังเกตเห็นแสงสีทองบนแขนของตน ที่จู่ๆ ก็เริ่มควบแน่นขึ้นมา!

เดิมทีนางไม่ได้สนใจ แต่พอเห็นลายเส้นแปลกปรากฏขึ้นมา นางถึงได้เอะใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ลวดลายอักขระนี้ ดูแล้วช่างคุ้นเคยนัก…

ฉู่หลิวเยว่จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปรอบๆ ตัว และพบว่าแสงสีทองที่อยู่ตามจุดอื่นๆ เองก็ควบแน่นเช่นกัน!

เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นรอบตัวนาง!

และทันใดนั้นก็มีแสงสีเงินสว่างวาบออกมาจากหน้าอกของนาง

ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้ามอง เปลือกตาบางกระตุกอย่างรุนแรง!

เพราะบริเวณด้านหน้าทรวงอกของนาง มีเกราะเหล็กกล้าปรากฏขึ้น!

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ ในใจเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

นี่มัน…

นี่มัน…

ราวกับยืนยันการคาดเดาของนาง เพียงพริบตาแสงสีทองรอบๆ ก็ควบแน่นเร็วขึ้น!

และไม่นาน ชุดเกราะหนึ่งชุดก็ถูกสร้างขึ้นมา!

ทว่าชุดเกราะนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ของใหม่ มันมีร่องรอยขีดข่วนมากมาย ราวกับผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมาหลายครั้ง

แสงสีทองนั้นดูอบอุ่น แต่แฝงชั้นพลังหนาและดุดัน!

มันผสานเข้ากับร่างกายของฉู่หลิวเยว่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสมือนว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับนางโดยเฉพาะ แสงช่วยขลับให้ร่างบางนั้นดูสง่างาม และภูมิฐานมากขึ้น!

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึงอยู่นาน พลางมองไปยังชุดเกราะที่ปรากฏขึ้นบนร่างกายของตน แล้วกลั้นหายใจ

ความรู้สึกอึดอัดราวกับจะมีเลือดไหลออกจากรูหู พร้อมหัวใจที่เต้นรัวแรงดัง “ตึกตัก” ไม่หยุด

ฉู่หลิวเยว่หอบหายใจถี่ ทั่วทั้งร่างร้อนขึ้นราวถูกไฟไหม้ แก้มของนางร้อนฉ่า แต่ดวงตากลับสดใสราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุกสกาวแวววับ!

เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง!

มันคือเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงของจริง!

ตอนแรกนางคิดว่าซั่งกวนหว่านชิงเอามันไปแล้ว แต่จู่ๆ มันก็มาปรากฏขึ้นที่นี่…บนตัวของนาง!

กลุ่มแสงส่องประกายระยิบระยับอยู่เบื้องหน้า

ฉู่หลิวเยว่จึงค่อยๆ ตวัดสายตาขึ้นมอง

เส้นแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน ก่อนจะประกอบรูปร่างขึ้นเป็นหมวกใบหนึ่ง!

มันคือหมวกเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง!

ฉู่หลิวเยว่ตะลึงจนหัวใจแทบกระเด็นกระดอนออกมาจากอก!

นางค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบหมวกเกราะใบนั้น

และสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบ ที่แฝงไว้ซึ้งความอุ่นร้อนเล็กน้อย

มีแสงเจิดจ้าทอประกายอยู่บนหมวกเกราะในมือ!

เพียงพริบตา แสงนี้ก็สว่างวาบขึ้นราวกับเปลวไฟ พลันสาดแสงไปยังชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงบนร่างของนาง!

ยามที่สายลมพัดผ่าน ทุกอย่างก็ประจักษ์แก่สายตา!

ทันใดนั้นเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงเก่าๆ ก็เปล่งแสงสว่างขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!

ราวกับในที่สุดชั้นฝุ่นหนาบังตาก็ถูกเช็ดออก เผยให้เห็นสีดั้งเดิมและประกายเงางามของมัน!

เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง…กลับคืนสู่เจ้าของเดิมของมันอีกครั้ง!

ฉู่หลิวเยว่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดง จะกลับมาหานางด้วยวิธีนี้!

ในชั่วพริบตา ความคิดนับไม่ถ้วนแวบเข้ามาในหัวของนาง!

สาเหตุที่เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงไม่ยอมให้ซั่งกวนหว่านเป็นเจ้าของคนใหม่ อาจเป็นเพราะวิญญาณของตนยังคงอยู่

แต่ว่า…มันมาได้อย่างใด?

ฉู่หลิวเยว่นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อครู่ พลันชะงักตัวแข็งทื่อ

หรือว่า…มันจะเกี่ยวกับพรมแดนไวฑูรยะนั่น?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็พยายามอัญเชิญพรมแดนไวฑูรยะออกมา

ห่างออกไปหลายพันลี้

มีคนสองคนกำลังนั่งอยู่ภายในห้อง

“กึก”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกวางหมากตัวสุดท้ายลงไป

บนกระดานหมากรุก หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างฝั่งขาวและดำ ในที่สุดก็ถึงคราวตัดสินผู้ชนะ

ดวงตาของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเปล่งประกาย

“หึๆ! ครั้งนี้ ข้าชนะท่าน องค์ชาย!”

หรงซิววางหมากในมือ ใส่กลับเข้าไปในโถหมากรุก แล้วเงยหน้าขึ้นและยิ้มบาง

“ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสนั้นช่างยอดเยี่ยม ข้าขอคารวะเลย”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเดาผลลัพธ์ไว้อยู่แล้ว

เดิมทีผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกตั้งใจจะวางมาดลูบเคราพร้อมยิ้มเยาะอย่างเหนือกว่า แต่พอเห็นท่าทีของหรงซิวแล้ว ก็ถึงกับชะงัก พลัน “คันยุบยิบ” ในใจขึ้นมาแทน มือที่กำลังจะลูบเคราเปลี่ยนเป็นกระชากหนวดของตนออกมาถึงสามเส้น

“ทะ ท่าน…ท่านอ่อนข้อให้ข้าหรือองค์ชาย?”

หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เปล่า แต่เพราะใจข้าว้าวุ่นไปหน่อย ตานี้ข้าถึงแพ้”

“อย่ามาอำเสียให้ยาก! ท่านอ่อนให้ข้า คิดว่าตาแก่ผู้นี้มองไม่ออกหรือไร?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกส่งเสียงฮึดฮัด พร้อมจ้องหน้าเขาตาเขม็ง

ตลอดเวลาที่เล่นหมากรุกกับหรงซิว เขาแทบมองไม่เห็นชัยชนะเลย

จมปรักอยู่กับความชอกช้ำมานาน คิดไม่ถึงว่าพอได้โอกาส กลับกลายเป็นชนะเพราะโดนอ่อนข้อให้เสียอย่างนั้น!

ความตื่นเต้นโลดแล่นดีใจเมื่อครู่ลดลงทันที แต่หลังจากคิดทบทวนอีกครั้ง ผลลัพธ์เช่นนี้กลับเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง

“ท่านเรียนเล่นหมากรุกตอนอายุห้าขวบ พอหกขวบก็เริ่มมีคู่ต่อสู้เข้ามาประปราย แต่หลังจากเจ็ดขวบ…ตาแก่ผู้นี้กลับพบว่ามันยากที่จะเอาชนะคนอย่างท่าน! ฮึ่ม แพ้แบบเดิมซ้ำๆ ซากๆ มานานหลายปี สรุปข้าจะไม่มีวันชนะเลยหรือไร?”

แต่เขาก็ชินชากับรสชาตินั้นมาตั้งนานแล้ว!

ตอนเริ่มเกม เห็นได้ชัดว่าหรงซิวอ่อนข้อให้เขา แต่หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ค่อยๆ ซ่อนกลยุทธ์ของตนไว้เป็นอย่างดี

“หากท่านเอาจริง ท่านสามารถเอาชนะเซียนหมากรุกทั่วหล้าได้อย่างง่ายดาย!”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกถอนหายใจยาว

แต่จู่ๆ หรงซิวก็แค่นหัวเราะออกมา ริมฝีปากบางของเขาโค้งงอขึ้นเล็กน้อย พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และพูดอย่างเกียจคร้าน

“ไม่หรอก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์