สรุปตอน บทที่ 754 ซั่งกวนเยว่ ผู้สืบทอดไร้น้ำยา – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 754 ซั่งกวนเยว่ ผู้สืบทอดไร้น้ำยา ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ว่าตามหลักแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าสิ่งนี้จะปรากฏขึ้นที่นี่!
นั่นเพราะคลื่นพลังในอากาศของสถานที่แห่งนี้ ไม่สามารถทนต่อรัศมีความกดดันของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ได้!
เขาเคยเห็นกับตาตัวเองครั้งหนึ่งว่า มหาเซียนเทพผู้ยิ่งใหญ่นั้น ใช้เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ทำลายล้างราชวงศ์หนึ่งได้อย่างง่ายดาย!
ไม่ผิดแน่!
เป็นราชวงศ์หนึ่ง!
เฉกเช่นราชวงศ์เทียนลิ่งที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน!
แค่คิดก็เห็นภาพแล้วว่าเจ้าสิ่งนี้น่ากลัวแค่ไหน!
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่หลิวเยว่เห็นการแสดงออกเช่นนี้ บนใบหน้าขององค์ไท่จู่
และความจริงแค่ฟังจากชื่อก็พอรู้ถึงอิทธิ์ฤทธิ์ของมันแล้ว
เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์!
เป็นสรรพสิ่งแบบใดกัน ถึงได้กล้าใช้ชื่อที่ฟังดูโอหังเช่นนี้?
ฉู่หลิวเยว่นั้นอ่านตำรามานับไม่ถ้วน และยังผ่านการอ่านตำราโบราณหายากมาแล้วหลายเล่ม
แต่นางกลับไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย!
และดูจากท่าทีขององค์ไท่จู่แล้ว…เกรงว่ามันคงไม่ธรรมดาเป็นแน่
“ข้าไม่สามารถอธิบายให้เจ้าเข้าใจได้ด้วยคำพูดเพียงหนึ่งหรือสองประโยค แต่เจ้าต้องรู้ไว้ว่าสิ่งนี้ทรงพลังมาก แต่ก็อันตรายมากเช่นกัน”
องค์ไท่จู่มองไปยังฉู่หลิวเยว่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“เราอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ ต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด!”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น
แล้ว…จะออกไปอย่างใด?
จากนั้นองค์ไท่จู่ถึงตระหนักได้ว่า ฉู่หลิวเยว่ถูกเจ้าสิ่งนี้ดึงลงมา
หากคิดจะกลับขึ้นไป ก็เกรงว่ามันจะยากยิ่งกว่าตายแล้วขึ้นสวรรค์เสียอีก!
เขาถอนหายใจยาวเหยียดพลางขมวดคิ้ว
ตอนนี้เจ้าสิ่งนั้นดูสงบไร้พิษภัย เพราะมันอาจจะเป็นเพราะถูกผลึกที่อยู่ด้านนอกปิดกั้นเอาไว้
แต่ใครจะรู้ว่ามันจะระเบิดพลังออกมาเมื่อใด?
และเมื่อถึงตอนนั้น แม้แต่เขาเองก็ช่วยฉู่หลิวเยว่ไม่ได้!
เมื่อเห็นท่าทางเป็นวิตกขององค์ไท่จู่ ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นกว่าเดิม พลันโน้มน้าวว่า
“องค์ไท่จู่ ท่านอย่าได้วิตกเกินไปเลย ไม่แน่ว่าเราอาจหาวิธีออกไปจากที่นี่ได้เร็วกว่าที่คิด”
องค์ไท่จู่แอบถอนหายใจ
นังหนูนี่ ตอนนี้ยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าพลังของเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นน่ากลัวมากเพียงใด!
ถ้ามันดูปกติเหมือนอย่างที่แล้วๆ มา เขาจะวิตกกังวลขนาดนี้เชียวหรือ?
อีกทั้งใครคือผู้ที่สลักอักขระไว้ด้านบนนั้น เขาเองก็มิอาจทราบได้
ทว่ายามนี้ลวดลายอักขระนั้นแตกออกจากกันแล้ว เกรงว่ามันจะ…
ฉู่หลิวเยว่เดินถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วนั่งชันเข่าข้างหนึ่งบนพื้นเรียบ และจัดตั้งโล่สีดำไว้ข้างหน้าตน
องค์ไท่จู่มองนางด้วยความสงสัย
“หลิวเยว่ นั่นเจ้ากำลังทำการใด?”
ฉู่หลิวเยว่วางมือทั้งสองข้างลงบนเข่าและเผยยิ้มออกมา
“คิดมากเกินไปก็ใช่ว่าจะแก้ไขอันใดได้ เราควรใช้ประโยชน์จากเวลานี้ฝึกพลังปราณดีกว่า ท่านอย่าว่าแต่สถานที่นี้อันตรายเลย พลังงานของสวรรค์และโลกในที่นี้เองก็รุนแรงและแข็งแกร่งมากเช่นกัน!”
หากฝึกพลังปราณที่นี่ ความเร็วในการบรรลุย่อมสูงกว่าโลกภายนอกแน่นอน!
องค์ไท่จู่ตกตะลึงอ้าปากค้าง
นะ นะ นี่มันนาทีเป็นตายของชีวิตเลยนะ เหตุใดเด็กนี่ยังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่อีก?!
ระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ จะทำให้การฝึกพัฒนาได้มากแค่ไหนกันเชียว?
ไม่รู้จะพูดว่านางโง่หรือบ้ากันแน่
แต่เมื่อเห็นว่าคราวนี้ ฉู่หลิวเยว่เริ่มหลับตาลงอย่างช้าๆ และเตรียมฝึกพลังปราณอย่างจริงจัง องค์ไท่จู่ก็ถึงกับกุมขมับอย่างช่วยไม่ได้
ตัวเขานั้นไร้ซึ่งกายหยาบให้สัมผัส แต่เหตุใดถึงรู้สึกปวดหัวขนาดนี้นะ?
สิ้นหวังกับนังหนูนี่จริงๆ!
เขาหันกลับไปมองเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ และยอมจำนนต่อชะตากรรมขณะย้ายไปอยู่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่
ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น หากเขายืนบังอยู่ข้างหน้า นังหนูนี่ก็จะปลอดภัยขึ้นมาบ้าง
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นแล้วมองไปยังร่างโปร่งแสงที่ยืนอยู่ข้างหน้าตน ดวงตากลมพลันรู้สึกร้อนผ่าว ราวกับมีกระแสน้ำอุ่นๆ พุ่งเข้ามาในหัวใจของนาง
“ขอบพระคุณท่านอย่างยิ่ง องค์ไท่จู่”
นางพูดเน้นทีละคำด้วยใจจริง
องค์ไท่จู่หันกลับมามองนางด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง
และเป็นสายตาที่ฉู่หลิวเยว่อ่านไม่ออก
นางหยุดชะงักไปโดยไม่รู้ตัว และถามอย่างลังเล
“… องค์ไท่จู่?”
องค์ไท่จู่ยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะส่ายหัวและถอนหายใจ แต่สีหน้าท่าทางของเขานั้นอ่อนโยนมาก
“ข้าปกป้องลูกหลานของข้า ย่อมเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วมิใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง! ภายในหัวของนางขาวโพลนไปหมด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...