ฉู่หลิวเยว่คนไร้ค่าคนนั้นของตระกูลฉู่บ้าไปแล้ว!
แทบจะเพียงชั่วข้ามคืน คนทั้งเมืองหลวงต่างก็พากันพูดคุยถึงเรื่องนี้
“ลุงสามของลูกพี่ลูกน้องข้าทำงานอยู่ที่ตระกูลฉู่ ก็เห็นกับตาว่าวันนั้นคนของเจินเป่าเก๋อส่งยาสมุนไพรเข้ามาครึ่งเกวียนด้วยท่าทางเคารพนอบน้อม อีกอย่าง ยังพูดชัดถ้อยชัดคำเลยว่าเอามาส่งให้ฉู่หลิวเยว่ พวกท่านว่ามันแปลกหรือไม่”
“ไม่หรอกมั้ง ใครจะไปรู้ฉู่หลิวเยว่ผู้ไร้ความสามารถตั้งแต่เกิดนั่น นางจะมีความเกี่ยวข้องกับร้านเจินเป่าเก๋อได้อย่างไร ไหนจะเอายาสมุนไพรออกมาจากเจินเป่าเก๋อครึ่งเกวียนอีก…นั่นมันไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยนะ นางจะจ่ายไหวได้อย่างไร”
“ถึงได้บอกอยู่นี่กระไรว่านางบ้าไปแล้ว! เจินเป่าเก๋อไม่เคยค้าขายขาดทุน พวกท่านว่านางไปเอาเงินมาจากที่ไหน หรือว่า…องค์ชายรัชทายาทเป็นผู้ให้นาง”
“ฮ่า! หลายปีมานี้องค์รัชทายาทไม่เคยเอ่ยถึงฉู่หลิวเยว่เลยสักครั้ง จะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่แน่ มิฉะนั้นฉู่หลิวเยว่จะเอาเงินมาจากไหนล่ะ! ทั้งยังซื้อพวกยาสมุนไพรอีก…หรือนางคิดว่ายาสมุนไพรพวกนั้นสามารถเปลี่ยนตัวเองจากคนไร้ความสามารถเป็นอัจฉริยะได้”
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะเยาะดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง แล้วมองฉู่หลิวเยว่เป็นตัวตลก
…
ณ ตำหนักรัชทายาท
ภายในห้องหนังสือ มีชายหนุ่มในชุดคลุมสีม่วงกำลังอ่านฎีกาบนโต๊ะ
เขาดูเหมือนคนอายุราวยี่สิบต้นๆ คิ้วคมเข้มได้รูปดั่งกระบี่และดวงตาประกายดุจดวงดาว ใบหน้ารูปงามอย่างยิ่ง ท่าทางการวางไม้วางมือช่างดูสูงส่งสง่างามเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของชนชั้นสูง
คนผู้นี้มิใช่คนธรรมดาสามัญ แต่เขาคือ…หรงจิ้น ผู้ดำรงตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้นเย่าเฉิน
“องค์ชาย ทางด้านตระกูลฉู่ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องเล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ…”
ซ่งหยวน ทหารองครักษ์ข้างกายของรัชทายาทรายงานอย่างระมัดระวัง
หรงจิ้นเงยหน้าขึ้น
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลฉู่หรือ หรือว่าหมินหมิ่น…”
เมื่อเห็นท่าทางผิดปกติของซ่งหยวน หรงจิ้นจึงตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ เขาจึงหรี่ตา
“พูดมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ซ่งหยวนรีบถวายรายงานเรื่องการติดต่อค้าขายระหว่างฉู่หลิวเยว่และเจินเป่าเก๋อภายในสองวันนี้อย่างละเอียด
“กระ…กระหม่อมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าคุณหนูใหญ่นำเงินมาจากไหน ถึงสามารถซื้อยาสมุนไพรจากเจินเป่าเก๋อได้มากมายขนาดนั้นพ่ะย่ะค่ะ…”
ยาสมุนไพรเหล่านั้นถูกลำเลียงเข้ามาในหีบ คนแถวนั้นมิอาจทราบเลยว่าข้างในนั้นบรรจุสิ่งใดเอาไว้บ้าง
แต่ถึงกระนั้น หากลองคิดดูเล่นๆ ก็จะรู้ว่าของมากมายเช่นนั้นเมื่อรวมกันแล้วราคาต้องไม่ใช่ถูกๆ อย่างแน่นอน
หรงจิ้นขมวดคิ้ว และน้ำเสียงชักจะหมดความอดทน
“นางคิดจะเล่นกลอะไร”
หากไม่ใช่เพราะสัญญาแต่งงาน เขาจะเห็นคนไร้ค่าของตระกูลฉู่นั่นอยู่ในสายตาด้วยหรือ
หลายปีมานี้ ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้เป็นเพียงความอัปยศของตระกูลฉู่เท่านั้น แต่นางคือมลทินที่สลัดทิ้งไม่หลุดสักทีของเขาด้วย! แค่คิดเขาก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงแล้ว!
ซ่งหยวนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
“องค์ชาย อันที่จริงถึงแม้ไม่กี่ปีมานี้อำนาจของฉู่หนิงจะเสื่อมถอยลงไปมาก แต่ถึงอย่างไรตอนนั้นเขาก็รุ่งเรืองมาก จะมีเงินเก็บในมือบ้างก็มิใช่ว่าจะเป็นไปมิได้นะพ่ะย่ะค่ะ…ที่สำคัญ พวกเขาจะซื้อยาสมุนไพรตั้งมากมายไปทำไม บางที…”
“เหอะ ไม่มีอะไรมากไปกว่าอยากลองรักษาบุตรสาวไร้ความสามารถแต่กำเนิดของเขาก็เท่านั้น!”
เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนถึงวันหมั้นหมาย หรือว่านางจงใจพยายามที่จะพลิกกระแสน้ำ!
“น่าขัน!”
ชีพจรไม่สมบูรณ์ ทั่วทั้งแคว้นเย่าเฉินก็ไม่มีใครสามารถแก้ไขได้ หากพวกเขามีหนทางจริง หลายปีที่ผ่านมาก็คงไม่มาอยู่ในจุดตกต่ำเช่นนี้หรอก!
“นางไม่ควรพูดขึ้น ถึงอย่างไรมันก็เป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น ข้าคิดที่จะฉีกสัญญาแต่งงานกับนางตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ…หรงซิวจะกลับมาหรือยัง”
เมื่อตรัสถึงหรงซิว สีหน้าของซ่งหยวนพลันนิ่งขรึม แล้วเอ่ยเสียงต่ำ
“พ่ะย่ะค่ะ วันนี้พวกเขาจะมาถึงเมืองหลวง จากการที่กระหม่อมได้ไปสืบ คราวนี้องค์ชายเจ็ดพาคนติดตามกลับมาด้วยเพียงสองคนและสวมใส่ด้วยชุดเรียบง่ายพ่ะย่ะค่ะ”
หรงจิ้นหัวเราะเยาะ
“นับว่าเขายังรู้จักประมาณตนอยู่บ้าง”
หรงซิวร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งไม่เหมือนกับองค์ชายองค์อื่นๆ ดังนั้นเขาถึงถูกส่งตัวไปรักษาฟื้นฟูร่างกายบนเขาหมิวเยว่เทียนที่ห่างไปไกลถึงพันลี้ หลายปีที่ผ่านมา เขากลับมาเพียงสองครั้งเท่านั้น
คราวก่อนที่กลับมาก็เมื่อสามปีที่แล้ว
คนส่วนใหญ่อาจจะไม่สนใจองค์ชายเจ็ดผู้นี้ บางคนอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขายังอยู่ แต่องค์ชายรัชทายาทหรงจิ้นกลับไม่คิดเช่นนี้
หรงซิวกลับมาในคราวนี้ เขาระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง จึงส่งคนให้แอบไปสะกดรอยตามหรงซิวตั้งแต่เนิ่นๆ
“ให้คนข้างล่างจับตาดู ถ้ามีอะไรผิดปกติให้มารายงานทันที!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
แม้ซ่งหยวนจะไม่รู้ว่าเหตุใดองค์รัชทายาทถึงทรงให้ความสำคัญกับองค์ชายเจ็ดผู้อ่อนแอไร้อำนาจหนุนหลังคนนั้นถึงเพียงนี้ แต่เขาก็ตอบรับอย่างไม่อิดออด
“จริงสิ องค์ชาย ไม่กี่วันนี้มีสัตว์อสูรระดับห้าเข้ามาในพื้นที่ล่าสัตว์ พระองค์จะเสด็จทอดพระเนตรเมื่อไหร่ดีพ่ะย่ะค่ะ”
หรงจิ้นนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาลอบเปล่งประกายเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์